“อย่าเปรี้ยว ใช้ช่างเถอะ!!!” คำพูดตอบกลับ กึ่งคำสั่งของคุณภรรยา หลังจากที่ผมเล่าแพลนที่จะทำห้องให้เจ้าตัวเล็ก ฉลองครบ 1 ขวบ ด้วยความก๋ากั่น เลยคิดจะลงมือทาสีเอง ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ พอโดนคำสั่งให้ใช้ช่าง เพราะเหตุผลว่าตอนทาใครจะดูลูก แล้วถ้าส้มจิ๋วกับส้มส้ม (น้องแมว) เข้าไปซนในห้องเพราะไม่มีคนดูจะทำไง คราวนี้เถียงไม่ออก หงอยเลย ต้องมานั่งถ่ายรูปรวบรวมโมเมนต์ มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังแทน เผื่อใครมีแพลนจะทาสีห้องใหม่

  เท้าความเล็กน้อย ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเล็กๆ อยู่กันแค่ 3 คน พ่อแม่ลูกกับน้องแมวอีก 2 ตัว โดยเป็นบ้านใหม่ที่เพิ่งซื้อมาได้ปีกว่าๆ ตอนแต่งงานกับคุณภรรยา และห้องนี้ก็ไม่ถูกใช้ทำอะไรมาตั้งแต่ต้น เพราะแพลนอยากจะให้เป็นห้องของเจ้าตัวเล็ก เพราะฉะนั้นห้องเลยมีความใหม่ แต่พอจะตกแต่งห้องให้เจ้าตัวเล็กอยู่จริงๆ รู้สึกว่าห้องมันจืดไปนิด เลยอยากทาสีห้อง ซื้อของเข้าตกแต่งให้มันดูน่ารัก


  ยากตั้งแต่เลือกสี ... สีมีเยอะมากกก แต่ละโทนก็มีซอยย่อยร่วมร้อยสีอีก นั่งเปิดหาเปิดอ่านไปเรื่อย ก็ไปเจอแอดโฆษณาตัวหนึ่งที่เขาเคลมว่า ทาแล้วไม่มีกลิ่น ไม่มีสารระเหย อยู่ได้ทันที มีตรารับรอง  คือพอมีตรารับรองมันก็มั่นใจคุณสมบัติ ว่าไม่ใช่แค่คำโฆษณา ก็เลยสนใจ ( อันนี้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมาเอง ตรา GREENGUARD GOLD มาตรฐานการตรวจสอบค่าของสารระเหยที่สามารถระเหยจากวัสดุก่อสร้างและตกแต่ง) เข้าไปนั่งเลือกสี แล้วถึงไปช็อปกันที่ไทวัสดุ แนะนำสำหรับใครที่กำลังจะเลือกสีทาห้อง เปิดเว็บครับ ทำการบ้านไปก่อน อย่าแค่มีในใจแล้วไปที่ร้านสี อันนี้ไม่น่ารอด
 
  หลังจากตบตีกันอยู่พักใหญ่ “เรา” ก็ได้สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์ โดยมีชื่อสีว่า Little Little  แน่นอนว่าต้องใช้คำว่าเรา เพราะถ้าไม่สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์ตามคุณภรรยา เลือกสีอื่นผมจะโดนเหนี่ยวแทน

  มาพูดถึงห้องสักหน่อย ... ห้องเป็นห้องเปล่าขนาดเล็ก 3.5 x 2.5 เมตร มีหน้าต่าง 1 บาน (แดดไม่ส่องตรงเข้าห้อง) แอร์ 1 เครื่อง และตู้เสื้อผ้ากับตู้ลิ้นชักอย่างละ 1 ใบ โดยความตั้งใจคืออยากทำห้องให้เจ้าตัวเล็กใช้ชีวิตช่วงกลางวัน (และอาจจะมีแขกเป็นน้องแมว 2 ตัว ที่แวะเวียนเดินไปมาทุกห้อง ประหนึ่งเจ้าของบ้าน) โดยใจแค่อยากจะเพิ่มสีสันให้ห้องออกมาน่ารัก แต่ไม่ฉูดฉาด  ห้องมีความน่าอยู่ ดูสบายๆ ของไม่เยอะเกินไป เผื่อน้องแมวจะเข้ามารื้อด้วย

  และแล้วก็ถึงวันนัด พี่ช่างมาถึงบ้าน พร้อมเริ่มงาน ประมาณ 10.30 น. โดยห้องเราเก็บกวาดทำความสะอาดห้องนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว ก่อนเริ่มทา ก็มีการแปะเทปกันเปื้อนตามมุมตามปลั๊กไฟ เก็บรอยต่างๆ ตามผนัง งานพี่ช่างก็ทำไป ผมก็ยืนถ่ายรูปคุยกับพี่ๆ เค้าไป ไม่รู้ว่าเกะกะไหม แต่เราเองก็ตื่นเต้นเลยอยากอยู่ดูเค้าทำงาน 
  ขอแวะชมนิดนึง จำได้ว่า ที่บ้านแม่ผมเคยทาสีห้องรับแขกใหม่ ตอนทาเสร็จนี่แทบจะอยู่ไม่ได้เลย เพราะเหม็นมาก ปัจจุบันนี้เพิ่งรู้ว่าพวกเทคโนโลยีสีมันพัฒนาไปไกลมาก อันนี้คือไม่มีกลิ่นของจริง ตอนทาอยู่ก็ไม่ได้กลิ่น คือมารู้สึกตัวตอนยืนถ่ายรูปไปสักพักนี่แหล่ะ 

  หลังจากที่ผมเห่อถ่ายรูปอยู่พักนึง ก็ออกมานั่งหลับรออยู่ด้านนอก ซึ่งใช้เวลาไม่นานครับ ประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ช่างก็เดินมาบอกว่าเสร็จแล้ว รอประมาณครึ่งชั่วโมงให้สีแห้ง ก็เอาของเขาห้องได้เลย หลังจากตรวจงาน

Before & After


  เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายครับ ไม่ถนัดอะไรบางทีก็จ้างเค้าเถอะ อย่าหาทำเอง เพราะนอกจากงานจะเนี๊ยบ ได้ห้องสีสวยยังได้คำแนะนำมากมายและสุดท้ายอันนี้จากประสบการณ์ที่ได้จากการลองนั่งเลือก นั่งดูสีในตลาดก็มีพวกที่ไม่มีสารระเหย ฆ่าเชื้อโรคอะไรพวกนี้เยอะ ส่วนตัวว่าสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะฉะนั้นเราอาจต้องยอมจ่ายเพื่ออะไรที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น สุดท้ายอย่างที่เห็นในภาพเลยครับ สีถูกใจคุณลูกรึเปล่าอันนี้ไม่รู้ แต่ถูกใจคุณภรรยาแน่นอน คุณภรรยาแฮปปี้ ครอบครัวก็แฮปปี้ครับ พอสีแห้งก็สนุกคุณภรรยาเค้าล่ะ เริ่มบรรเลง หยิบนู่นหยิบนี่ที่ซื้อไว้มาใส่ห้อง เต๊นท์มา หมอนรองนั่ง รองนอน ปาเป้า ตุ๊กตา เธอขนเข้ามานั่งเล่นกันได้ทันทีเลย และที่ดูจะเห่อกับห้องใหม่ไม่แพ้กันก็น้องแมวนี่แหล่ะ เดินสำเร็จเหมือนโลกใบใหม่กันเลยทีเดียว