สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ถ้าเธอกลับมาหาครอบครัวสามีเก่า เพราะไม่มีทางไป ป่วยหนักจนไม่มีใครดูแลเลย
บ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านของพ่อแม่สามี ที่เคยอยู่เคยดูแลกันมา
และทุกคนในบ้าน ก็สงสาร (น้ำใจแต่ก่อนที่เคยมีให้กันเพียงใด คุณย่อมไม่อาจรู้)
พร้อมกับยินดีที่จะรับมาดูแลในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต
เข้ามาแล้ว พวกเขาก็จัดห้องให้คนป่วยอยู่ต่างหาก ผลัดกันดูแล ตามเวลาที่ว่าง
พาไปหาหมอตามนัด (ซึ่งอาจจะเดือนละครั้ง)
ถ้าพวกเขาคุยกันแล้ว ตกลงกันแล้วแผนเป็นแบบนี้
คุณไม่มีทางเลือกอื่นเลยค่ะ นอกจากยอมรับตามมติ ที่ทั้งบ้านตกลงกัน
ถ้าคุณเลือกที่จะโวยวายบ้านแตก บ้านที่จะแตก คือ ครอบครัวคุณเองค่ะ
คนใจดีบางคน เจอหมาจรจัดป่วย ก็ยังพาไปหาหมอ เอากลับมาดูแลจนหายดี ตามหลักมนุษยธรรมในใจตน
นี่คนทั้งคน ที่เคยนับกันเป็นลูกสะใภ้ เคยมีตำแหน่งภรรยา พวกเขาจึงทั้งสงสาร และอยากดูแล เพื่อจะได้ไม่มีอะไรติดค้าง
ไม่เหลือความรู้สึกผิดในใจ (ความซับซ้อนตรงนี้ คุณมาทีหลัง อาจจะไม่เข้าใจพวกเขาค่ะ)
คนฉลาด ต้องเลือกที่จะเงียบเป็น เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้ถือแต้มต่อนะคะ
จะเลือกใช้กฏเกณฑ์ ยอมหักไม่ยอมงอ ได้ต่อเมื่อ ใช้แล้ว ไม่หักไม่งอ ทุกอย่างจะเป็นดังใจตนเท่านั้น
ถ้าคุณทนไม่ไหว รู้สึกขัดหูขัดตา ตอนสามีต้องไปดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำ อย่าแสดงออกให้พ่อแม่สามีเห็นเด็ดขาดค่ะ หลบเข้าห้องตัวเองไปก่อน
ถ้าคุณเห็นผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ที่มีทุกขเวทนาทางกายมากซะจน แค่ขยับตัวก็เจ็บ คุณจะเห็นใจ และสลดสังเวชใจค่ะ
มนุษย์เรา มันก็เท่านี้แหละ จะรัก โลภ โกรธ หลง กันขนาดไหน สุดท้าย ก็ต้อง แพ้ภัยให้กับพญามัจจุราชอยู่ดี
ถ้าคุณ มีเมตตาได้ มีน้ำใจเอื้อเฟื้อ กรุณา ต่อทุกข์ของเพื่อนมนุษย์ไร้ทางไปคนนี้ได้
ในสายตา ของพ่อแม่สามี และ สามีคุณ จะรู้สึกนับถือ / สำนึกและติดค้างคุณมากเลยล่ะค่ะ
บ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านของพ่อแม่สามี ที่เคยอยู่เคยดูแลกันมา
และทุกคนในบ้าน ก็สงสาร (น้ำใจแต่ก่อนที่เคยมีให้กันเพียงใด คุณย่อมไม่อาจรู้)
พร้อมกับยินดีที่จะรับมาดูแลในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต
เข้ามาแล้ว พวกเขาก็จัดห้องให้คนป่วยอยู่ต่างหาก ผลัดกันดูแล ตามเวลาที่ว่าง
พาไปหาหมอตามนัด (ซึ่งอาจจะเดือนละครั้ง)
ถ้าพวกเขาคุยกันแล้ว ตกลงกันแล้วแผนเป็นแบบนี้
คุณไม่มีทางเลือกอื่นเลยค่ะ นอกจากยอมรับตามมติ ที่ทั้งบ้านตกลงกัน
ถ้าคุณเลือกที่จะโวยวายบ้านแตก บ้านที่จะแตก คือ ครอบครัวคุณเองค่ะ
คนใจดีบางคน เจอหมาจรจัดป่วย ก็ยังพาไปหาหมอ เอากลับมาดูแลจนหายดี ตามหลักมนุษยธรรมในใจตน
นี่คนทั้งคน ที่เคยนับกันเป็นลูกสะใภ้ เคยมีตำแหน่งภรรยา พวกเขาจึงทั้งสงสาร และอยากดูแล เพื่อจะได้ไม่มีอะไรติดค้าง
ไม่เหลือความรู้สึกผิดในใจ (ความซับซ้อนตรงนี้ คุณมาทีหลัง อาจจะไม่เข้าใจพวกเขาค่ะ)
คนฉลาด ต้องเลือกที่จะเงียบเป็น เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้ถือแต้มต่อนะคะ
จะเลือกใช้กฏเกณฑ์ ยอมหักไม่ยอมงอ ได้ต่อเมื่อ ใช้แล้ว ไม่หักไม่งอ ทุกอย่างจะเป็นดังใจตนเท่านั้น
ถ้าคุณทนไม่ไหว รู้สึกขัดหูขัดตา ตอนสามีต้องไปดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำ อย่าแสดงออกให้พ่อแม่สามีเห็นเด็ดขาดค่ะ หลบเข้าห้องตัวเองไปก่อน
ถ้าคุณเห็นผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ที่มีทุกขเวทนาทางกายมากซะจน แค่ขยับตัวก็เจ็บ คุณจะเห็นใจ และสลดสังเวชใจค่ะ
มนุษย์เรา มันก็เท่านี้แหละ จะรัก โลภ โกรธ หลง กันขนาดไหน สุดท้าย ก็ต้อง แพ้ภัยให้กับพญามัจจุราชอยู่ดี
ถ้าคุณ มีเมตตาได้ มีน้ำใจเอื้อเฟื้อ กรุณา ต่อทุกข์ของเพื่อนมนุษย์ไร้ทางไปคนนี้ได้
ในสายตา ของพ่อแม่สามี และ สามีคุณ จะรู้สึกนับถือ / สำนึกและติดค้างคุณมากเลยล่ะค่ะ

ความคิดเห็นที่ 9
แล้วบ้านที่คุณอยู่ตอนนี้ เป็นบ้าน หรือสถานสงเคราะห์ สถานพยาบาลล่ะ?
ลองถามสามีคุณว่าจะให้คุณวางตัวแบบไหน? ต้องเป็นพยาบาลใจบุญ หรือต้องเป็นผู้มีจิตศรัทธาบริจาคสามีด้วย
แล้วผู้หญิงคนนี้ไม่มีครอบครัว พ่อแม่พี่น้องของตัวเองหรือไง? ระหว่างเลิกกันไป ไปอยู่ไหน ทำมาหากินอะไร
ป่วยมะเร็งแล้วยังไง? ใครรักษา ระหว่างนี้ค่าใช้จ่ายต่างๆในการดูแลใครจ่าย? ชี้มาให้ชัดๆ
ถึงภาพรวมของคำว่าคนเป็นมะเร็งจะดูน่าสงสาร แต่ในรายละเอียดเนี่ย .... คนรอบตัว คนดูแลอาจจะต้องกลายเป็นฝ่ายน่าสงสารกว่าก็ได้นะ
ลองถามสามีคุณว่าจะให้คุณวางตัวแบบไหน? ต้องเป็นพยาบาลใจบุญ หรือต้องเป็นผู้มีจิตศรัทธาบริจาคสามีด้วย
แล้วผู้หญิงคนนี้ไม่มีครอบครัว พ่อแม่พี่น้องของตัวเองหรือไง? ระหว่างเลิกกันไป ไปอยู่ไหน ทำมาหากินอะไร
ป่วยมะเร็งแล้วยังไง? ใครรักษา ระหว่างนี้ค่าใช้จ่ายต่างๆในการดูแลใครจ่าย? ชี้มาให้ชัดๆ
ถึงภาพรวมของคำว่าคนเป็นมะเร็งจะดูน่าสงสาร แต่ในรายละเอียดเนี่ย .... คนรอบตัว คนดูแลอาจจะต้องกลายเป็นฝ่ายน่าสงสารกว่าก็ได้นะ
ความคิดเห็นที่ 48
จากประวัติการตั้งกระทู้เพ้อเจ้อความรักมาตลอดหลายปีนี้
เดาว่า "คุณอาจเพิ่งเข้ามาในบ้านนี้ ได้ไม่ถึง2ปี"
ทำให้เราสงสัยที่มาของทะเบียนสมรส, วิธีการได้เข้ามาอยู่ที่นี่ , การที่คนนั้นต้องกลายเป็นเมียเก่า ทั้งที่เคยอยู่ที่นี่ , สาเหตุที่คนนั้นป่วยเป็นมะเร็ง, สาเหตุที่คนนั้นต้องเดียวดาย ,เรื่องราวความรักของเค้าและเธอ , เรื่องราวของคุณในสายตาคนในบ้านนี้ ,และสำคัญ สาเหตุที่ทุกคนในบ้านนี้รับเค้ากลับมา โดยไม่เห็นหัวคุณ!!
การที่คุณได้ทะเบียนสมรสในบ้านของครอบครัวเค้า ไม่ได้ทำให้คุณมีอำนาจสูงสุดในบ้านนี้
การที่ครอบครัวยืนยันจะรับเค้ากลับมา โดยไม่เห็นหัวคุณ ... น่าจะแสดงบางอย่าง !!
.. ส่วนคุณ ก็มีสิทธิ์ตัดสินใจในชีวิตคุณ ว่าจะอยู่หรือไป จะวีนหรือจะเงียบ ..
เมื่อใจไม่กรุณาและมีอำนาจเพียงพอ ก็อาจปฎิเสธได้ตามหวัง .. แต่ถ้าไม่มีพาว คุณก็จะได้รับผลลัพธ์ของการกระทำ
เดาว่า "คุณอาจเพิ่งเข้ามาในบ้านนี้ ได้ไม่ถึง2ปี"
ทำให้เราสงสัยที่มาของทะเบียนสมรส, วิธีการได้เข้ามาอยู่ที่นี่ , การที่คนนั้นต้องกลายเป็นเมียเก่า ทั้งที่เคยอยู่ที่นี่ , สาเหตุที่คนนั้นป่วยเป็นมะเร็ง, สาเหตุที่คนนั้นต้องเดียวดาย ,เรื่องราวความรักของเค้าและเธอ , เรื่องราวของคุณในสายตาคนในบ้านนี้ ,และสำคัญ สาเหตุที่ทุกคนในบ้านนี้รับเค้ากลับมา โดยไม่เห็นหัวคุณ!!
การที่คุณได้ทะเบียนสมรสในบ้านของครอบครัวเค้า ไม่ได้ทำให้คุณมีอำนาจสูงสุดในบ้านนี้
การที่ครอบครัวยืนยันจะรับเค้ากลับมา โดยไม่เห็นหัวคุณ ... น่าจะแสดงบางอย่าง !!
.. ส่วนคุณ ก็มีสิทธิ์ตัดสินใจในชีวิตคุณ ว่าจะอยู่หรือไป จะวีนหรือจะเงียบ ..
เมื่อใจไม่กรุณาและมีอำนาจเพียงพอ ก็อาจปฎิเสธได้ตามหวัง .. แต่ถ้าไม่มีพาว คุณก็จะได้รับผลลัพธ์ของการกระทำ
ความคิดเห็นที่ 49
ทำไมจขกท.ไม่ตอบคำถามง่ายๆของหลายคน เช่น
1.ผู้หญิงคนนั้นไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีผัว ไม่มีเพื่อน ไม่มีพ่อแม่หรอ?
2.การกลับมา คือหมายถึง ขอกลับมาอยู่กินด้วย ให้ครอบครัวสามีดูแลเลยอ่ะหรอ (มันมีคนแบบนี้อยู่บนโลกจริงๆหรอต่อให้เป็นคนป่วยก็เถอะนะ) คนเราป่วยมันต้องนึกถึงพ่อแม่พี่น้องหรือเพื่อนฝูงตัวเองอันดับแรกก่อนมั้ยอ่ะ
3.ขอโทษสำหรับคำถามข้อ 3 นี้นะคะ คุณไปแย่งเค้ามารึป่าวคะ เลยดูเหมือนไม่สามารถทำอะไรได้มากเลย ทั้งที่อ่านดู ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ในครอบครัวคนปกติทั่วไป ครอบครัวสามีก็ไม่น่าทำแบบนี้อยู่ดีแหละค่ะต่อให้เคยรักเหมือนลูกสะใภ้มาก่อนก็เถอะ ไม่มีใครกล้าเอาเข้ามาอยู่กินนอนกินด้วยขนาดนี้และผู้ชายจะไม่มีทางพูดคำว่าใจแคบกับภรรยาที่ถูกต้องของตัวเองนะคะ ถึงจะเป็นคนป่วยมะเร็งก็เถอะ มันใช้คำว่าใจแคบไม่ได้สิ และทางแก้ไขจริงๆ คือพวกเค้าควรจะใช้วิธีไปมาหาสู่ ไปเยี่ยมเยียนกันพาไปหาหมอเป็นเพื่อนเป็นบางครั้งบางคราวแบบนั้นค่ะ ไม่ใช่ให้มาอยู่กินด้วยกันแบบนี้ค่ะ
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วแปลกหลายอย่างมากๆ ความจริงบางตอนยังไม่ได้เล่ารึป่าวคะ
1.ผู้หญิงคนนั้นไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีผัว ไม่มีเพื่อน ไม่มีพ่อแม่หรอ?
2.การกลับมา คือหมายถึง ขอกลับมาอยู่กินด้วย ให้ครอบครัวสามีดูแลเลยอ่ะหรอ (มันมีคนแบบนี้อยู่บนโลกจริงๆหรอต่อให้เป็นคนป่วยก็เถอะนะ) คนเราป่วยมันต้องนึกถึงพ่อแม่พี่น้องหรือเพื่อนฝูงตัวเองอันดับแรกก่อนมั้ยอ่ะ
3.ขอโทษสำหรับคำถามข้อ 3 นี้นะคะ คุณไปแย่งเค้ามารึป่าวคะ เลยดูเหมือนไม่สามารถทำอะไรได้มากเลย ทั้งที่อ่านดู ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ในครอบครัวคนปกติทั่วไป ครอบครัวสามีก็ไม่น่าทำแบบนี้อยู่ดีแหละค่ะต่อให้เคยรักเหมือนลูกสะใภ้มาก่อนก็เถอะ ไม่มีใครกล้าเอาเข้ามาอยู่กินนอนกินด้วยขนาดนี้และผู้ชายจะไม่มีทางพูดคำว่าใจแคบกับภรรยาที่ถูกต้องของตัวเองนะคะ ถึงจะเป็นคนป่วยมะเร็งก็เถอะ มันใช้คำว่าใจแคบไม่ได้สิ และทางแก้ไขจริงๆ คือพวกเค้าควรจะใช้วิธีไปมาหาสู่ ไปเยี่ยมเยียนกันพาไปหาหมอเป็นเพื่อนเป็นบางครั้งบางคราวแบบนั้นค่ะ ไม่ใช่ให้มาอยู่กินด้วยกันแบบนี้ค่ะ
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วแปลกหลายอย่างมากๆ ความจริงบางตอนยังไม่ได้เล่ารึป่าวคะ
แสดงความคิดเห็น
ถ้าแฟนเก่าสามีเรากลับมาในฐานะผู้ป่วย เราควรทำยังไง