พอดีเห็นว่า ผมน่าจะเอารีวิวซีรีส์เรื่องใหม่ๆ ที่เพิ่งฉายจบ ที่ลงไว้ในกระทู้รวม
https://ppantip.com/topic/39758422
มาลงแยกไว้ต่างหากบ้าง เผื่อใครกำลังหาดูจะได้เป็นแนวทางพิจารณาครับ
รีวิวซีรีส์
เรื่องที่ 144 Alchemy of Souls SS2 : Light and Shadow มี 10 EP EP ละประมาณ 70-80 นาที / Netflix

***หากยังไม่เคยดู Alchemy of Souls SS1 ควรข้ามรีวิวนี้ไปก่อนนะครับ มีสปอยล์แน่นอน
.
.
.
.
.
.
.
.
Alchemy of Souls SS2 : Light and Shadow นั้นเป็นภาคต่อของซีรีส์ Alchemy of Souls ที่จริงๆมีเนื้อเรื่องต่อเนื่องกันชนิดที่ถือว่าเป็นเรื่องเดียวกันก็ย่อมได้ เพียงแต่ด้วยโครงสร้างของเนื้อเรื่อง ทำให้การเบรกจบใน SS1 แล้วเว้นระยะการฉายหลายเดือน มีผลมากๆ ต่อความรู้สึกของผู้ชม เพราะมีการเปลี่ยนตัวนางเอก
โดยปกติการเปลี่ยนตัวนักแสดงหลักอย่างนางเอก แทบจะเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้เลยในซีรีส์เกาหลี เพราะมีความเสียหายมากและจะเข้าข่ายซีรีส์พังเลยทีเดียว แต่สำหรับเรื่องนี้ มันดันเป็นเนื้อเรื่องเรื่องหลัก ที่ไม่ว่าใครจะเล่นเป็นนางเอกใน SS1 ตามบท ก็จะต้องถูกเปลี่ยนตัวเป็นอีกคนใน SS2 เป็นไปตามบทเลยครับ
ดังนั้นการเปลี่ยนตัวนางเอกจาก จอนโซมิน เป็น โกยุนจอง นั้น เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้น และเป็นเหตุผลที่ทำไมโกยุนจองถึงได้เล่นเป็นนักซูใน SS1 ด้วย ส่วนท่านใดไม่ได้ดูซีรีส์ตั้งแต่ช่วงเข้าฉายใน SS1 แต่มาดูภายหลัง และดู SS2 ต่อทันที น่าจะทำใจได้ยากกว่าเยอะ เพราะการแสดงเป็นมูด็อกของจอนโซมินนั้น แสดงไว้ดีมากเหลือเกิน
และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้โกยุนจอง ได้รับเสียงวิจารณ์สารพัดตั้งแต่ SS2 ยังไม่ได้ฉาย เชื่อว่าตอนที่เธอกำลังถ่ายทำ SS2 ซึ่งเป็นเวลาที่ SS1 กำลังฉายและมีข่าวว่าจะเปลี่ยนตัวนางเอก น่าจะเป็นช่วงเวลาที่นักแสดงที่ยังไม่เคยเล่นบทนางเอกอย่างเธอต้องรับความกดดันมหาศาล
แต่คนจะดัง อะไรก็ห้ามไม่ได้ ใน SS2 พอโกยุนจองเปิดตัวมาในบท จินบูยอน เท่านั้น ความสวยของเธอนั้นมันทิ่มตาคนดูอย่างรุนแรง สวยในระดับที่บทพูดเธอพูดเองว่า "ข้างดงามที่สุดในปฐพี" นั้นเป็นความจริงและต้องยอมรับเลยทีเดียว55
ยิ่งไปกว่านั้น การแสดงของเธอที่ต้องพยายามลอกคาแรกเตอร์ของมูด็อก (ที่จริงๆก็คือนักซูนั่นแหล่ะ) มาให้ครบทุกกระเบียดนิ้ว ทั้งท่าทาง จังหวะการพูด น้ำเสียง (ที่เสียงดันโทนทุ้มๆคล้ายกับจอนโซมินด้วย) เพื่อทำให้คนดูรู้สึกได้ว่า นักซู อยู่ในร่างจินบูยอนจริงๆ ซึ่งเธอทำได้ไม่มีที่ติเลยล่ะครับ เป็นนักซูที่แบ๊วๆ ไม่มีความทรงจำของนักฆ่า แต่เมื่อความทรงจำกลับมา สายตาของเธอก็เปลี่ยนไป กลับไปเป็นนักซูตอนที่เป็นมูด็อก นิ่งๆ ดุๆ เยี่ยมยอดจริงๆครับ
ดังนั้นใน SS2 เราจึงได้เห็นซีรีส์โรแมนติกคอมมิดี้ ที่มีเรื่องราววิทยายุทธประกอบนิดหน่อย55 โดยเฉพาะเมื่อจางอุก มีพลังของหินน้ำแข็ง ที่ทำให้ฝีมืออยู่ในระดับไร้เทียมทาน แต่สภาพจิดใจนั้นเศร้าหม่นหมองตลอดเวลาจากการสูญเสียใน SS1 พอได้มาเจอกับจินบูยอน ความสนุกสนานก็เกิดขึ้น
ช่วงแรกนั้นตลกมากครับ โกยุนจองแสดงได้น่ารัก แบ๊วสุดๆ แบบที่ไม่ได้คาดคิดไว้เลยทีเดียว ค่อยๆ ละลายจิตใจคนดูที่ยังปิดกั้นกับการเปลี่ยนนางเอก ให้ค่อยๆเปิดใจยอมรับได้ แต่เชื่อเถอะว่าทีมงานก็กลัวว่าคนดูจะไม่ยอมรับเหมือนกัน เลยไม่เอาภาพเก่าของมูด็อกมาใช้เลย กลัวคนดูจะเปรียบเทียบด้วย
แต่เอกลักษณ์แสนประหลาดของเรื่องนี้ ที่แม้ SS2 จะมีแค่ 10 EP ก็ยังไม่วายใส่ฉากที่ดูไม่ค่อยจะจำเป็นเข้ามา จนทำให้เนื้อเรื่องมีอาการอืดได้เช่นเคย แค่ตัดพวกฉากเดินต่อเนื้อเรื่องออกเท่านั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าทำให้มันกระชับฉับไว มันจะมีปัญหาอะไร แล้วพอช่วงกลางๆ ท้ายๆ ก็เริ่มเร่งอีกเช่นเคย เหมือนมีเนื้อเรื่องเยอะแยะแต่หมักดองไว้ แต้ด้วย 10 EP ทำให้ SS2 เดินเรื่องเร็วกว่า SS1 พอสมควรอยู่ดี
พระเอก - อีแจอุค ใน SS2 นี้ดูดีขึ้นเยอะ แสดงก็ดูดุดันเข้มข้น ลงตัวกับบทมาก ส่วนพอเจอความงดงามที่สุดในปฐพีเข้าไป จะเคลิ้มจนออกนอกจอไปบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน55
นางเอก - โกยุนจอง ข้อพิสูจน์ว่า ความสวยที่มาพร้อมฝีมือนั้น ทรงพลังพอที่จะทำลายกำแพงอคติคนดูได้ เธอเป็นนักแสดงซีรีส์เกาหลีที่สวยที่สุดในยุคหลังในสายตาผม (เบียดกับจีซู Blackpink ได้เลย) ซึ่งเชื่อว่าในอนาคต จะมีบทดีๆ ให้เธอได้เล่นเป็นนางเอกมาอีกเยอะแน่ๆ
Love Line - ทรงพลังมากครับ ด้วยความเดิมจาก SS1 มันส่งต่อมาให้ความรักของทั้งคู่นั้นยิ่งใหญ่มาก ฉาก kiss scene ที่แสนจะลากยาวมันพาคนดูแทบหลุดเข้านั่งในใจของความโหยหากันของทั้งคู่ได้
เพลงประกอบ - SS2 นี่มีเพลงที่โดนมากหลายเพลงอยู่ครับ ช่วยเสริมพลังในฉากนั้นๆได้เยี่ยม
สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยเห็นซีรีส์เรื่องอื่นมีเนื้อเรื่องแบบนี้ คือการ "หึงตัวเอง" ของนางเอก มันดูแล้วตลกมาก ทั้งที่เข้าใจว่าหึงเพราะความไม่รู้ แต่มันก็ตลกอยู่ดี ตอนที่พระเอกมีอาการหึงตัวเองบ้าง ก็ยิ่งดูฮา ผมชอบครับ เขียนบทยังไงให้หึงตัวเอง เก่งมาก55
คราวนี้เมื่อเนื้อเรื่องเริ่มงวดเข้ามาและความระแวงในพี่น้องนักเขียนบทคู่นี้ ทำให้เริ่มมีเสียงโอดครวญว่า ทรงเรื่องมันน่าจะจบเศร้าแน่ๆ ยิ่งพอเดินเรื่องๆไปถึง EP9 คนดูก็โดนทิ้งระเบิดลูกใหญ่ใส่ เสียงโอดครวญดังมาจากทั่วทุกสารทิศ บ้างก็ว่าจะเลิกดูงานของพี่น้องนักเขียนบทคู่นี้ บ้างก็จะไปเผาช่อง TVN ยิ่งพอถึง EP10 คนดูก็โดนตลบหลังอีกที หลายคนเสียน้ำตาไปแล้ว แต่สุดท้าย เรื่องนี้ก็ soft landing จบเรื่องได้อย่างสวยงาม ร้ายมากครับพี่น้อง Hong
สุดท้ายก็ต้องบอกว่า Alchemy of Souls เป็นซีรีส์ที่ดูไป ด่าไป แต่ติดสุดๆครับ เฝ้าจอรอดูกันเลยทีเดียว เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ผมชื่นชมงานสร้างและความคิดสร้างสรรค์เป็นอย่างยิ่ง และขึ้นไปอยู่บนหิ้งชั้นพิเศษของผม จริงๆ อยากให้ทำภาคแยกและเล่าเรื่องอาณาจักรอื่นอีกนะครับ อยากดูอีกครับ
[CR] [Mr. Coffee รีวิว] Alchemy of Souls SS2 : Light and Shadow ตำนานการหึงตัวเอง ที่จบลงอย่างสวยงามที่สุด!
https://ppantip.com/topic/39758422
มาลงแยกไว้ต่างหากบ้าง เผื่อใครกำลังหาดูจะได้เป็นแนวทางพิจารณาครับ
รีวิวซีรีส์
เรื่องที่ 144 Alchemy of Souls SS2 : Light and Shadow มี 10 EP EP ละประมาณ 70-80 นาที / Netflix
***หากยังไม่เคยดู Alchemy of Souls SS1 ควรข้ามรีวิวนี้ไปก่อนนะครับ มีสปอยล์แน่นอน
.
.
.
.
.
.
.
.
Alchemy of Souls SS2 : Light and Shadow นั้นเป็นภาคต่อของซีรีส์ Alchemy of Souls ที่จริงๆมีเนื้อเรื่องต่อเนื่องกันชนิดที่ถือว่าเป็นเรื่องเดียวกันก็ย่อมได้ เพียงแต่ด้วยโครงสร้างของเนื้อเรื่อง ทำให้การเบรกจบใน SS1 แล้วเว้นระยะการฉายหลายเดือน มีผลมากๆ ต่อความรู้สึกของผู้ชม เพราะมีการเปลี่ยนตัวนางเอก
โดยปกติการเปลี่ยนตัวนักแสดงหลักอย่างนางเอก แทบจะเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้เลยในซีรีส์เกาหลี เพราะมีความเสียหายมากและจะเข้าข่ายซีรีส์พังเลยทีเดียว แต่สำหรับเรื่องนี้ มันดันเป็นเนื้อเรื่องเรื่องหลัก ที่ไม่ว่าใครจะเล่นเป็นนางเอกใน SS1 ตามบท ก็จะต้องถูกเปลี่ยนตัวเป็นอีกคนใน SS2 เป็นไปตามบทเลยครับ
ดังนั้นการเปลี่ยนตัวนางเอกจาก จอนโซมิน เป็น โกยุนจอง นั้น เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้น และเป็นเหตุผลที่ทำไมโกยุนจองถึงได้เล่นเป็นนักซูใน SS1 ด้วย ส่วนท่านใดไม่ได้ดูซีรีส์ตั้งแต่ช่วงเข้าฉายใน SS1 แต่มาดูภายหลัง และดู SS2 ต่อทันที น่าจะทำใจได้ยากกว่าเยอะ เพราะการแสดงเป็นมูด็อกของจอนโซมินนั้น แสดงไว้ดีมากเหลือเกิน
และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้โกยุนจอง ได้รับเสียงวิจารณ์สารพัดตั้งแต่ SS2 ยังไม่ได้ฉาย เชื่อว่าตอนที่เธอกำลังถ่ายทำ SS2 ซึ่งเป็นเวลาที่ SS1 กำลังฉายและมีข่าวว่าจะเปลี่ยนตัวนางเอก น่าจะเป็นช่วงเวลาที่นักแสดงที่ยังไม่เคยเล่นบทนางเอกอย่างเธอต้องรับความกดดันมหาศาล
แต่คนจะดัง อะไรก็ห้ามไม่ได้ ใน SS2 พอโกยุนจองเปิดตัวมาในบท จินบูยอน เท่านั้น ความสวยของเธอนั้นมันทิ่มตาคนดูอย่างรุนแรง สวยในระดับที่บทพูดเธอพูดเองว่า "ข้างดงามที่สุดในปฐพี" นั้นเป็นความจริงและต้องยอมรับเลยทีเดียว55
ยิ่งไปกว่านั้น การแสดงของเธอที่ต้องพยายามลอกคาแรกเตอร์ของมูด็อก (ที่จริงๆก็คือนักซูนั่นแหล่ะ) มาให้ครบทุกกระเบียดนิ้ว ทั้งท่าทาง จังหวะการพูด น้ำเสียง (ที่เสียงดันโทนทุ้มๆคล้ายกับจอนโซมินด้วย) เพื่อทำให้คนดูรู้สึกได้ว่า นักซู อยู่ในร่างจินบูยอนจริงๆ ซึ่งเธอทำได้ไม่มีที่ติเลยล่ะครับ เป็นนักซูที่แบ๊วๆ ไม่มีความทรงจำของนักฆ่า แต่เมื่อความทรงจำกลับมา สายตาของเธอก็เปลี่ยนไป กลับไปเป็นนักซูตอนที่เป็นมูด็อก นิ่งๆ ดุๆ เยี่ยมยอดจริงๆครับ
ดังนั้นใน SS2 เราจึงได้เห็นซีรีส์โรแมนติกคอมมิดี้ ที่มีเรื่องราววิทยายุทธประกอบนิดหน่อย55 โดยเฉพาะเมื่อจางอุก มีพลังของหินน้ำแข็ง ที่ทำให้ฝีมืออยู่ในระดับไร้เทียมทาน แต่สภาพจิดใจนั้นเศร้าหม่นหมองตลอดเวลาจากการสูญเสียใน SS1 พอได้มาเจอกับจินบูยอน ความสนุกสนานก็เกิดขึ้น
ช่วงแรกนั้นตลกมากครับ โกยุนจองแสดงได้น่ารัก แบ๊วสุดๆ แบบที่ไม่ได้คาดคิดไว้เลยทีเดียว ค่อยๆ ละลายจิตใจคนดูที่ยังปิดกั้นกับการเปลี่ยนนางเอก ให้ค่อยๆเปิดใจยอมรับได้ แต่เชื่อเถอะว่าทีมงานก็กลัวว่าคนดูจะไม่ยอมรับเหมือนกัน เลยไม่เอาภาพเก่าของมูด็อกมาใช้เลย กลัวคนดูจะเปรียบเทียบด้วย
แต่เอกลักษณ์แสนประหลาดของเรื่องนี้ ที่แม้ SS2 จะมีแค่ 10 EP ก็ยังไม่วายใส่ฉากที่ดูไม่ค่อยจะจำเป็นเข้ามา จนทำให้เนื้อเรื่องมีอาการอืดได้เช่นเคย แค่ตัดพวกฉากเดินต่อเนื้อเรื่องออกเท่านั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าทำให้มันกระชับฉับไว มันจะมีปัญหาอะไร แล้วพอช่วงกลางๆ ท้ายๆ ก็เริ่มเร่งอีกเช่นเคย เหมือนมีเนื้อเรื่องเยอะแยะแต่หมักดองไว้ แต้ด้วย 10 EP ทำให้ SS2 เดินเรื่องเร็วกว่า SS1 พอสมควรอยู่ดี
พระเอก - อีแจอุค ใน SS2 นี้ดูดีขึ้นเยอะ แสดงก็ดูดุดันเข้มข้น ลงตัวกับบทมาก ส่วนพอเจอความงดงามที่สุดในปฐพีเข้าไป จะเคลิ้มจนออกนอกจอไปบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน55
นางเอก - โกยุนจอง ข้อพิสูจน์ว่า ความสวยที่มาพร้อมฝีมือนั้น ทรงพลังพอที่จะทำลายกำแพงอคติคนดูได้ เธอเป็นนักแสดงซีรีส์เกาหลีที่สวยที่สุดในยุคหลังในสายตาผม (เบียดกับจีซู Blackpink ได้เลย) ซึ่งเชื่อว่าในอนาคต จะมีบทดีๆ ให้เธอได้เล่นเป็นนางเอกมาอีกเยอะแน่ๆ
Love Line - ทรงพลังมากครับ ด้วยความเดิมจาก SS1 มันส่งต่อมาให้ความรักของทั้งคู่นั้นยิ่งใหญ่มาก ฉาก kiss scene ที่แสนจะลากยาวมันพาคนดูแทบหลุดเข้านั่งในใจของความโหยหากันของทั้งคู่ได้
เพลงประกอบ - SS2 นี่มีเพลงที่โดนมากหลายเพลงอยู่ครับ ช่วยเสริมพลังในฉากนั้นๆได้เยี่ยม
สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยเห็นซีรีส์เรื่องอื่นมีเนื้อเรื่องแบบนี้ คือการ "หึงตัวเอง" ของนางเอก มันดูแล้วตลกมาก ทั้งที่เข้าใจว่าหึงเพราะความไม่รู้ แต่มันก็ตลกอยู่ดี ตอนที่พระเอกมีอาการหึงตัวเองบ้าง ก็ยิ่งดูฮา ผมชอบครับ เขียนบทยังไงให้หึงตัวเอง เก่งมาก55
คราวนี้เมื่อเนื้อเรื่องเริ่มงวดเข้ามาและความระแวงในพี่น้องนักเขียนบทคู่นี้ ทำให้เริ่มมีเสียงโอดครวญว่า ทรงเรื่องมันน่าจะจบเศร้าแน่ๆ ยิ่งพอเดินเรื่องๆไปถึง EP9 คนดูก็โดนทิ้งระเบิดลูกใหญ่ใส่ เสียงโอดครวญดังมาจากทั่วทุกสารทิศ บ้างก็ว่าจะเลิกดูงานของพี่น้องนักเขียนบทคู่นี้ บ้างก็จะไปเผาช่อง TVN ยิ่งพอถึง EP10 คนดูก็โดนตลบหลังอีกที หลายคนเสียน้ำตาไปแล้ว แต่สุดท้าย เรื่องนี้ก็ soft landing จบเรื่องได้อย่างสวยงาม ร้ายมากครับพี่น้อง Hong
สุดท้ายก็ต้องบอกว่า Alchemy of Souls เป็นซีรีส์ที่ดูไป ด่าไป แต่ติดสุดๆครับ เฝ้าจอรอดูกันเลยทีเดียว เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ผมชื่นชมงานสร้างและความคิดสร้างสรรค์เป็นอย่างยิ่ง และขึ้นไปอยู่บนหิ้งชั้นพิเศษของผม จริงๆ อยากให้ทำภาคแยกและเล่าเรื่องอาณาจักรอื่นอีกนะครับ อยากดูอีกครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้