เอ๋ ไพโรจน์ วอนช่วยด้วย ลงทุนหนัง 30 ล้าน โดนลดรอบฉาย ไม่งั้นล้มละลายแน่


โดยก่อนหน้า วัยอลวน5 เคยเข้าโรงฉายครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 แต่ฉายได้วันเดียว ก็ถูกหยุดชะงักและเลื่อนออกไป เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และกลับมาเข้าโรงฉายอีกครั้ง ในวันที่ 29 ธันวาคม 2565 แต่กลับโดนลดรอบฉาย ซึ่งเจ้าตัวก็ได้วอนขอความช่วยเหลือทั้งทางโรงภาพยนตร์ในการจัดรอบฉายให้มากขึ้น และเชิญชวนแฟนๆ ให้ไปชมภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว

“ช่วยผมด้วยนะครับ ไม่อย่างนั้นผมล้มละลาย คือผมได้รับแจ้งมาจากเมเจอร์ว่าเขาจะเพิ่มโรงให้ ผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะเพิ่มมากน้อยแค่ไหน หรือว่าจะครอบคลุมพื้นที่ใดบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมไม่รู้ว่ามันจะตอบโจทย์ตามที่เราร้องขอไปไหม ก็คือให้มาเป็นรอบเช้า รอบเที่ยง บ่ายโมงอย่างนี้ มันก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ถ้าคนเขาทำงาน เขาดูไม่ได้เลยอย่างที่เคยนำเสนอไปแล้ว หรือถ้าเขานัดกับพ่อแม่เขาก็ไม่สามารถไปได้


เพราะฉะนั้นผมอยากจะวิงวอนทุกคน ช่วยผมหน่อย ช่วยดูหน่อยว่าพื้นที่ที่อยู่ใกล้คุณ มีโรงไหนบ้างที่เขานำกลับมาเข้า แล้วถ้ามีบอกให้เขาช่วยกระจายข่าวบอกผมหน่อย บอกด้วยว่าถ้าจะดู ให้รีบไปดู ถ้าอย่างนั้นจะเข้าข่ายว่า ก็เปิดให้ดูแล้ว ก็ไม่มีคนดู แต่แน่นอนครับ เขาเปิดโรงให้ แต่ว่าคนไม่รู้ว่าเปิด ก็แน่นอนว่าจะไปดูไม่ได้

อีกอย่างหนึ่ง ถ้าเปิดดูแล้วไม่มี ช่วยแจ้งผมหน่อย ผมจะได้รวบรวมและทำเรื่องร้องขอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณบอกโดยตรงไปยิ่งดี เพราะเสียงของผมนั้นเล็กมาก แต่เสียงทุกคนคือเสียงที่ยิ่งใหญ่ เขาจะไม่ฟังผม เขาจะฟังคุณ

หนังเรื่องนี้ผมตั้งใจทำมากอย่างพิถีพิถัน ลงทุนสูง ผมอยากกราบของวิงวอนคนที่ดูช่วยคอมเมนต์หนังผมหน่อยว่าหนังผมดีเลวยังไง คิดว่าคำตัดสินของคุณทางเมเจอร์เขาจะฟัง และผมก็จะยอมรับ ช่วยผมด้วยนะครับ ไม่อย่างนั้นผมล้มละลายแน่”

ขอขอบพระคุณ ข่าวสด

แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 32
คนอื่นล้มละลายคุณไพโรจน์เคยช่วยใครบ้างไหมนะ
ความคิดเห็นที่ 5
พูดตรงๆ หนังก็เก่า คนก็แก่ ไม่ทันยุคทันสมัยอะไรเลย แล้วยังต้องมาไว้ขอให้คนไปดูอีก เอาดีๆแค่พูดว่าจะสร้างก็รู้เลยว่าเจ๊งแน่ แต่คนที่ยังคิดทำนี่ดันทุรังมากจริงๆ ไม่มีใครห้ามแกเลยหรอ ?
ความคิดเห็นที่ 29
ทำหนังที่คนดูอยากดู ❌

ทำหนังที่ตัวเองอยากทำ ✅

ไม่รอดหรอก ค่าตั๋วยิ่งแพง คิดแล้วคิดอีก
ความคิดเห็นที่ 19
เห็นบอกให้คอมเมนท์ ถ้าพูดตรง ๆ จากความรู้สึกตัวเอง จะรับได้มั้ย ละ
เดี๋ยวก็บอกบูลลี่อีก ทุกวันนี้อะไร ๆ ก็บูลลี่
คอมเมนท์จากคนที่ไม่ได้ดูหนัง และคงไม่ดู นะ
แค่เห็นภาพจากในกระทู้นี้ ก็ยิ่งไม่คิดจะดูอะ
ทำไม ?
เพราะนักแสดงไม่มีคาริสมาเลย
คือจากภาพพายเรือในกระทู้ เห็นแล้วไม่มีความสดใสใด ๆ เลย
ด้วยหน้าตานักแสดงแหละ เอาตรง ๆ
เห็นแล้วไม่มีความสดใส ไม่รู้สึกว่าอยากไปดูคน คนนี้ในโรงหนังเลย

นี่คือเสียงจากคนที่ไม่รู้ว่าหนังเรื่องนี้เข้าฉาย
รู้ว่ามีหนังเรื่องนี้จาก facebook จากข่าว
พอเห็นภาพในข่าว แล้วยิ่งไม่อยากดู ด้วยเหตุผลที่บอกไป

คือหนังบางเรื่องที่เราไม่รู้ว่ามีตัวตน แต่เห็นโฆษณาแล้วอยากดู
แต่หนังเรื่องนี้ เห็นข่าว เห็นภาพหนังแล้ว ยิ่งไม่ไปดูแน่ ๆ

พอพูดแบบนี้ ก็จะว่าเราบูลลี่
คือนักแสดงไม่จำเป็นต้องวัยรุ่น หน้าใส
แต่เห็นแล้วควรมีเสน่ มีอะไรให้เราอยากเข้าไปดู
ยกตัวอย่าง Liam Neeson ก็แก่นะ แต่เห็นหน้าแล้ว เออ อยากดู
ไม่ใช่หน้าห่อเหี่ยว เราเห็นแล้วก็ห่อเหี่ยว

อันนี้บอกเหตุผลว่าทำไมไม่คิดจะดูอะนะ
ทั้ง ๆ ที่เราชอบดูหนังนะ ไม่ได้รังเกียจหนังไทยด้วย
ไม่เคยตั้งแง่ว่าหนังไทยไม่ดูหรอก
เรายังไม่อยากดูเลย

ตั๋มโอ๋ ภาคที่แล้ว ที่เป็นรุ่นลูกเรียน มช เราก็ได้ดูนะ
ก็ไม่ชอบ ไม่อิน ตั้งแต่ตอนนั้น รู้สึกเฉย ๆ อย่างมาก
แล้วก็ไม่ได้มีความผูกพันธ์อะไรกับตัวละคร ที่ต้องตามดู
สรุปเลยก็คือ ไม่มีอะไรให้ดึงเข้าไปดูเลยซักอย่าง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่