4 ม.ค. 2566 - 10:04 น.
ตำรวจเร่งล่า พ่อโหด จับดินยัดปาก ฆ่าลูก3ขวบ ทิ้งศพกลางไร่มัน ในพื้นที่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ด้าน ย่า แฉ ฉลองปีใหม่เมาไม่หลับไม่นอน ก่อนก่อเหตุสลด
วันที่ 4 ม.ค.2566 พ.ต.อ.วัฒนกิจ เฉลาประโคน ผกก.สภ.ลาดยาว เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุพบศพเด็กหญิง 3 ขวบ ภายในป่ามัน บริเวณหลังบ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บ้านไร่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยลาดยาว
ที่เกิดเหตุพบ นางอนงค์นาฎ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นย่าของผู้ตาย ได้นำเจ้าหน้าที่ไปดูจุดที่พบศพนอนเสียชีวิตอยู่ภายในร่องป่ามันสำปะหลัง ห่างจากบริเวณหลังบ้านพักไปประมาณ 300 เมตร พบศพ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบ สภาพถูกดินยัดอุดปาก แต่จากการตรวจสอบสภาพร่างกาย ไม่พบว่ามีร่องรอยถูกทำร้ายแต่อย่างใด
ส่วนนางอนงค์นาฎ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า คนที่อุ้มหลานสาวนำมาทิ้งในไร่มันนั้น คือ นายรณชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของตนเอง และหลังเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ สีดำ สภาพใหม่เอี่ยม หลบหนีไป โดยไม่ทราบว่าไปทางไหน
จักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี
จากการสอบสวน นางอนงค์นาฎ ให้การว่า ตนมีหน้าที่ดูแลหลานสาวให้ลูกชาย และทุกคืนตนก็จะนอนอยู่กับหลานสาว แทบไม่เคยจะห่างกายกัน แต่ปรากฏว่า ช่วงเวลา 04.00 น.ของวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา นายรณชัยได้มาปลุกเรียกตน พร้อมกับบอกว่า ท่อประปาในห้องน้ำแตก ให้ตนลุกไปดู ซึ่งตนก็หลงเชื่อรีบลุกเดินไปดูตามที่นายรณชัยบอก แต่กลับไม่พบว่า มีท่อประปาแตกแต่อย่างใด จึงเอะใจ รีบกลับไปที่ห้องนอน ก็พบว่า นายรณชัยอุ้มลูกสาววัย 3 ขวบวิ่งออกหลังบ้านไปที่ป่ามันสำปะหลัง
“ตอนนั้น ฉันวิ่งตามไอ้ลูกชายตัวดีเพื่อไปช่วยหลานสาวแล้วนะ แต่ว่าช่วงนั้นมันยังมืดอยู่ ฉันก็วิ่งไปสะดุดล้ม จนต้องเปลี่ยนแผน ลุกขึ้นวิ่งไปตามเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงให้มาช่วยตามหา ซึ่งก็ใช้เวลาพอสมควรเหมือนกัน เพราะมันมืดมาก และกว่าจะตามหาเจอ ก็สายไปเสียแล้ว เมื่อพบว่า หลานสาวสุดที่รักกลายเป็นศพ นอนอยู่ในร่องดินไร่มันสำปะหลัง” นางอนงค์นาฎ กล่าว
ตำรวจเร่งล่า พ่อโหด จับดินยัดปาก ฆ่าลูก3ขวบ ทิ้งศพกลางไร่มัน ในพื้นที่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์
ทั้งนี้ หลังฟังปากคำของนางอนงค์นาฎ ทางเจ้าหน้าที่จึงรีบกระจายกำลังไล่ติดตามตัวนายรณชัยทันที เบื้องต้นนายรณชัยได้ขับรถจักรยานยนต์สีดำหลบหนีไปตั้งแต่หลังเกิดเหตุ แต่เชื่อว่า ไม่น่าจะไปได้ไกล เพราะรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มีน้ำมันรถเหลือแค่ครึ่งถัง และตัวนายรณชัยไม่มีเงินติดตัว ส่วนร่างของผู้เสียชีวิต ให้กู้ภัยนำร่างส่งไปตรวจพิสูจน์ยังโรงพยาบาล เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง
พ.ต.อ.วัฒนกิจ กล่าวว่า คดีนี้ นางอนงค์นาฎ ยืนยันว่า นายรณชัย ลูกชาย คือผู้ทำร้ายลูกสาวของตัวเองจนเสียชีวิต เพราะอุ้มลูกจากที่นอนหนีหายไปในป่ามันตอนช่วงเช้ามืด แล้วมาพบหนูน้อยกลายเป็นศพ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังคงติดตามไล่ล่าอยู่ และในวันนี้ จะมีการออกหมายจับตัวพ่อรายนี้
ตำรวจสอบปากคำย่าของผู้เสียชีวิตและเป็นแม่ของผู้ก่อเหตุ
พ.ต.อ.วัฒนกิจ กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุที่นายรณชัยอุ้มลูกสาวหนีหายแล้วกลายเป็นศพนั้น จากการสอบปากคำ นางอนงค์นาฎ ระบุว่า ลูกชายของตนเองไปเมาฉลองปีใหม่ ชนิดที่ไม่ได้หลับไม่ได้นอนนานข้ามคืน ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่า เจ้าตัวเมาเหล้าอย่างเดียว หรือไปเสพสิ่งผิดกฎหมายจนทำให้เกิดอาการหลอนหรือไม่ จึงต้องรอให้จับกุมเจ้าตัวให้ได้ก่อน จึงจะสอบสวนหาชนวนเหตุ ฆ่าลูกสาวจับดินยัดอุดปากต่อไป
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7443693
พ่อเหี้ยม ดินยัดปาก ฆ่าลูก3ขวบ ทิ้งศพกลางไร่มัน ย่าแฉเมาไม่หลับไม่นอน
4 ม.ค. 2566 - 10:04 น.
ตำรวจเร่งล่า พ่อโหด จับดินยัดปาก ฆ่าลูก3ขวบ ทิ้งศพกลางไร่มัน ในพื้นที่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ด้าน ย่า แฉ ฉลองปีใหม่เมาไม่หลับไม่นอน ก่อนก่อเหตุสลด
วันที่ 4 ม.ค.2566 พ.ต.อ.วัฒนกิจ เฉลาประโคน ผกก.สภ.ลาดยาว เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุพบศพเด็กหญิง 3 ขวบ ภายในป่ามัน บริเวณหลังบ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บ้านไร่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยลาดยาว
ที่เกิดเหตุพบ นางอนงค์นาฎ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นย่าของผู้ตาย ได้นำเจ้าหน้าที่ไปดูจุดที่พบศพนอนเสียชีวิตอยู่ภายในร่องป่ามันสำปะหลัง ห่างจากบริเวณหลังบ้านพักไปประมาณ 300 เมตร พบศพ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบ สภาพถูกดินยัดอุดปาก แต่จากการตรวจสอบสภาพร่างกาย ไม่พบว่ามีร่องรอยถูกทำร้ายแต่อย่างใด
ส่วนนางอนงค์นาฎ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า คนที่อุ้มหลานสาวนำมาทิ้งในไร่มันนั้น คือ นายรณชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของตนเอง และหลังเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ สีดำ สภาพใหม่เอี่ยม หลบหนีไป โดยไม่ทราบว่าไปทางไหน
จักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี
จากการสอบสวน นางอนงค์นาฎ ให้การว่า ตนมีหน้าที่ดูแลหลานสาวให้ลูกชาย และทุกคืนตนก็จะนอนอยู่กับหลานสาว แทบไม่เคยจะห่างกายกัน แต่ปรากฏว่า ช่วงเวลา 04.00 น.ของวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา นายรณชัยได้มาปลุกเรียกตน พร้อมกับบอกว่า ท่อประปาในห้องน้ำแตก ให้ตนลุกไปดู ซึ่งตนก็หลงเชื่อรีบลุกเดินไปดูตามที่นายรณชัยบอก แต่กลับไม่พบว่า มีท่อประปาแตกแต่อย่างใด จึงเอะใจ รีบกลับไปที่ห้องนอน ก็พบว่า นายรณชัยอุ้มลูกสาววัย 3 ขวบวิ่งออกหลังบ้านไปที่ป่ามันสำปะหลัง
“ตอนนั้น ฉันวิ่งตามไอ้ลูกชายตัวดีเพื่อไปช่วยหลานสาวแล้วนะ แต่ว่าช่วงนั้นมันยังมืดอยู่ ฉันก็วิ่งไปสะดุดล้ม จนต้องเปลี่ยนแผน ลุกขึ้นวิ่งไปตามเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงให้มาช่วยตามหา ซึ่งก็ใช้เวลาพอสมควรเหมือนกัน เพราะมันมืดมาก และกว่าจะตามหาเจอ ก็สายไปเสียแล้ว เมื่อพบว่า หลานสาวสุดที่รักกลายเป็นศพ นอนอยู่ในร่องดินไร่มันสำปะหลัง” นางอนงค์นาฎ กล่าว
ตำรวจเร่งล่า พ่อโหด จับดินยัดปาก ฆ่าลูก3ขวบ ทิ้งศพกลางไร่มัน ในพื้นที่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์
ทั้งนี้ หลังฟังปากคำของนางอนงค์นาฎ ทางเจ้าหน้าที่จึงรีบกระจายกำลังไล่ติดตามตัวนายรณชัยทันที เบื้องต้นนายรณชัยได้ขับรถจักรยานยนต์สีดำหลบหนีไปตั้งแต่หลังเกิดเหตุ แต่เชื่อว่า ไม่น่าจะไปได้ไกล เพราะรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มีน้ำมันรถเหลือแค่ครึ่งถัง และตัวนายรณชัยไม่มีเงินติดตัว ส่วนร่างของผู้เสียชีวิต ให้กู้ภัยนำร่างส่งไปตรวจพิสูจน์ยังโรงพยาบาล เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง
พ.ต.อ.วัฒนกิจ กล่าวว่า คดีนี้ นางอนงค์นาฎ ยืนยันว่า นายรณชัย ลูกชาย คือผู้ทำร้ายลูกสาวของตัวเองจนเสียชีวิต เพราะอุ้มลูกจากที่นอนหนีหายไปในป่ามันตอนช่วงเช้ามืด แล้วมาพบหนูน้อยกลายเป็นศพ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังคงติดตามไล่ล่าอยู่ และในวันนี้ จะมีการออกหมายจับตัวพ่อรายนี้
ตำรวจสอบปากคำย่าของผู้เสียชีวิตและเป็นแม่ของผู้ก่อเหตุ
พ.ต.อ.วัฒนกิจ กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุที่นายรณชัยอุ้มลูกสาวหนีหายแล้วกลายเป็นศพนั้น จากการสอบปากคำ นางอนงค์นาฎ ระบุว่า ลูกชายของตนเองไปเมาฉลองปีใหม่ ชนิดที่ไม่ได้หลับไม่ได้นอนนานข้ามคืน ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่า เจ้าตัวเมาเหล้าอย่างเดียว หรือไปเสพสิ่งผิดกฎหมายจนทำให้เกิดอาการหลอนหรือไม่ จึงต้องรอให้จับกุมเจ้าตัวให้ได้ก่อน จึงจะสอบสวนหาชนวนเหตุ ฆ่าลูกสาวจับดินยัดอุดปากต่อไป
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7443693