เรื่องนี้มันคือความชุ่ยในการทำงานของ กระทรวงคมนาคม นั่นแหละครับ มาเปลี่ยนชื่อตอนนี้ คือ ขั้นตอนปลายทางแล้ว
1. สถานีกลางบางซื่อ เริ่มตั้งไข่ ได้ผู้รับจ้างก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2556 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และได้รับเงินเพิ่มปรับเปลี่ยนสัญญา ให้สร้างรองรับรถไฟความเร็วสูงด้วย ในปี 2558 สมัยรัฐบาลประยุทธ
2. สถานีกลางบางซื่อ ก่อสร้างเสร็จ เริ่มเปิดใช้งานเดือน สิงหาคม 2564 ผ่านมา 1 ปี กับอีก 4 เดือน แล้ว
3. กระทรวงคมนาคม มาแจ้งว่า ได้ขอชื่อพระราชทานจากในหลวง รัชกาลที่ 10 ซึ่ง พระองค์ท่านได้พระราชทานชื่อ "สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์" เมื่อ ตุลาคม 2565

คำถามคือ
1. ถ้ากระทรวงคมนาคม จะขอชื่อพระราชทาน ทำไมคุณมาขอตอนสถานีก่อสร้างเสร็จไปเป็นปีแล้ว
2. ถ้าตัดสินใจเปลี่ยนป้ายชื่อตอนที่อาคารยังก่อสร้างไม่เสร็จ ยังไม่ได้ขึ้นโครง ยังไม่ได้ติดตั้งกระจก สามารถทำได้โดยที่ใช้เงินเพิ่มน้อยมาก หรือดีไม่ดี อาจจะไม่ต้องเพิ่มงบเลยด้วยซ้ำ ตอนช่วงปี 2558-2563 มีเวลาตั้ง 5 ปี กระทรวงฯ มัวแต่ทำอะไรอยู่ ตอนนั้นยังไม่ได้คิดจะขอชื่อหรือยังไงกัน
3. การจะเปลี่ยนชื่อสถานี หากจะให้ชื่อติดหูผู้ใช้บริการ ให้เกิดความคุ้นชิน มันควรจะต้องเปลี่ยนล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนสถานี เปิดให้บริการ เพื่อที่จะได้มีเวลาประชาสัมพันธ์ และภาพข่าวต่างๆ ตอนสถานีเปิดให้บริการ จะได้มีชื่อสถานีใหม่นั้น ติดไปกับภาพข่าวเยอะๆ นี่ดันมาเปลี่ยนตอนสถานีเปิดใช้บริการไปปีกว่าๆ แล้ว คนติดชื่อสถานีบางซื่อ แทบจะ 100% กว่าคนจะคุ้นชินกับชื่อใหม่ต้องใช้เวลา และกว่าจะถึงตอนนั้น คนใช้บริการหลายส่วนก็จะเกิดความสับสน .... สุดท้าย เวลาคนอื่นๆ หรือพนักงานอธิบาย ผู้ใช้บริการที่สับสนกับสถานี ก็ต้องสื่อสารด้วยคำว่าสถานี บางซื่อ อยู่ดี ... และคำว่าสถานีบางซื่อ ก็จะติดปากคนใช้บริการตลอดไป โดยที่ชื่อสถานีจริงๆ จะถูกเรียกน้อยมาก

ขอเหตุผล ความจำเป็น ทำไมต้องเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนแล้วเกิดประโยชน์อย่างไรต่อการบริการประชาชน ความคุ้มค่าของจำนวนเงินที่เสียให้กับการเปลี่ยนชื่อ หน่วยงานที่อนุมัติต้องชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสาธารณชน

มากกว่าคำว่าถูกแพง คือ เปลี่ยนทำไม