เรา (เคย) รักและห่วงใย เคยคิดถึง เคยอยากเจอ อยากไปหา อยากอยู่ด้วยกันตลอดเวลา กับ(อดีต) แฟนจนชีวิตเกือบเซ เป๋ เสียศูนย์เลยก็ว่าได้
ณ ตอนนั้นเราแทบล้มทั้งยืน ตอนที่เค้าคนนั้นบอกเลิกและเดินหันหลังกลับไปและไม่ติดต่อมาอีกเลย มีแต่เรานี่แหละที่ยังคงพยายาม ๆ ติดต่อ พยายามโทรหา พยายามทักเฟส พยายามติดตามทุกช่องทางที่ทำได้ ไปรอเจอหน้าบ้านเค้า (รอบนรถ) และสิ่งที่ได้รับกลับมาคือ มันบล็อคเราทุกช่องทางเลยนะ
เราพยายามอยู่สักพักและพักใหญ่เลยก็ว่าได้ จนเริ่มท้อแท้เริ่มสิ้นหวังและไม่มีทางไหนเลยที่จะมีโอกาสได้หวนกลับไป (รัก) กับมันได้อีก เราเริ่มหันมาสนใจอย่างอื่นที่ไม่เคยสนใจแทน เริ่มใส่ใจคนรอบข้างมากขึ้น เริ่มเก็บเงิน (จากที่ไม่เคยเก็บมาก่อน) เริ่มหันมาแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม ตามเทรนด์แฟชั่น สิ่งที่เกิดนี้ไม่รู้ว่าเรียกว่า การหนีหรือการพยายามที่จะหาอะไรมาแทนเวลากับการคิดถึงคน ๆ นั้น รึเปล่า เราไม่รู้นะ
เราไม่ได้พยายามติดตามหรือติดต่อคนๆนั้นอีกแล้ว มีความสุข (จริงๆนะหรือ) กับเพื่อน กับคนรอบข้าง กับพ่อแม่ กับพี่น้อง เราไม่ได้ทำอะไรเพื่อเป็นการบล็อคคนๆนึงเลย เรายังปกติดี เพราะเราไม่ชอบบล็อคใครออกไปจากชีวิต เพราะถึงบล็อคคนๆนึงที่เค้าเลือกที่จะไม่รู้จับกับเราแล้ว เราว่ามันก็เหมือนบล็อคอัตโนมัตินะแหละนะ ไม่บล็อคก็เหมือนบล็อคนี่แหละนะ
บางครั้งเราฟังเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับคนรักเก่า อดีตแฟน อะไรประมาณนี้ เรายังคิดเลยว่าเนื้อหาเพลงบางเพลงมันเหมือนกับว่าคนๆนั้นมีคุณค่ากับเรามากขนาดนั้นเลยหรือ คนๆนั้นเค้าสำคัญกับเรามากเลยหรือไง การโหยหาหรือโหนหวน หวลกลับไปเจอกับคนๆนั้น อ้อนวอนให้เค้ากลับมารักกับเราเหมือนเดิม
บางเพลงก็เหมือน "ขาดเค้าไม่ได้" บางเพลงก็ "มีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าเค้าไม่กลับมาหาเราอีก" อยากรู้ว่ามีจริงๆ ไหมคนๆนั้นที่คิดแบบนั้นอะ
ในช่วงที่โดนบอกเลิกหรือ "อกหัก" สิ่งที่จะช่วยให้เราหายจากอาการป่วยใจแบบนั้นคือใคร ปรึกษาเพื่อน พ่อแม่ หรือญาติพี่น้อง หรือใครหรือ พ่อแม่พี่น้องเองก็ตาม ....ตอนที่อยู่ด้วยกันยังมีทะเลาะกัน ยังมีขัดใจกัน แต่เราก็เชื่อได้นะตอนเราบอกแม่ว่าเราอกหัก เราโดนบอกเลิก จากแม่ที่บ่นเรา ตำหนิเรา ต่อว่าเรา ในบางครั้ง พอเราร้องไห้เดินไปหาเค้ากับสิ่งที่เราเจอ ถามว่าแม่ "ซ้ำเติม" เราไหม ไม่เลยนะ แม่ปลอบใจเราและให้กำลังใจเรามาก ลืมวันเดิมๆที่แม่เคยทะเลาะกับเรา และวันที่เรางอนและคิดไม่ดีกับแม่ หรือพ่อด้วยก็ตาม เราก็สังเกตนะว่าตอนเรา
รักกันกับแฟนเราไปไหนมาไหน เที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง ใช้เงินเพื่ออยู่กับแฟน มีความสุข ไปเที่ยาต่างจังหวัด ซื้อของขวัญให้แฟน ทำอะไรหลายอย่างที่พิเศษที่ไม่เคยทำให้ใครเลย แม้กระทั่งพ่อแม่ แต่เราทำให้แฟน และวันนั้นเองที่เราเที่ยวจนลืมคนทางบ้าน หรือกลับดึกแล้วโดนพ่อแม่บ่น โดนพ่อแม่ตำหนิเรา เราก็โมโหและไม่เข้าใจอะไรกับสิ่งที่พ่อแม่คิดเลย ถึงแม้เราจะไป "แค่เที่ยว" เท่านั้นไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดไปก็ตาม ตอนมีแฟนเราก็อยู่กับแฟนแทบตลอดเวลา โทรคุยกับแฟน แชทกับแฟน เวลาอยู่กับพ่อแม่น้อยลง
หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง เช่น หมา แมว ที่เราเลี้ยงไว้ก็ตาม ตอนเรามีแฟน มันมีเห็บ มีหมัด เราก็จะไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่ คอยพาไปฉีดวัคซีน พาไปหาหมอ คอยดูแลผิวหนัง ขน เล็บเค้า พอมีแฟน น้องหมาที่บ้านดูซุดโทรมไปเลย หรือแม้กระทั่งหนูแฮมสเตอร์ที่เราลืมเปลียนน้ำให้เค้ากิน จนเค้าตายเพราะฮีดสโตรก
ในวันที่เราเลิกกับแฟน หลังจากเลิกกัน เวลาที่เสียใจนั้นเราทำไปเพื่ออะไร เพื่อสร้างภูมิต้านทานเรื่องรักแบบนั้นหรือ
************************************นี่เราเพ้อเจ้ออะไรของเรานะ*****************************เปล่าเลยเราไม่ได้เพ้อเจ้อแต่มันคือสิ่งที่เกิดกับเราจริง******
สำหรับวันนี้ถึงแม้เราจะไม่มีแฟนหรือคนรักก็ตาม และเราก็ไม่ได้คาดหวังหรือไขว่คว้าจะมีแฟนแล้วก็ตาม แต่เราก็มีความสุขกับชีวิตที่เหลืออยู่ได้นะ
ถามว่าหน้าตาสำคัญไหมกับการมีแฟน สำคัญในวันนึงและไม่สำคัญในวันนึง เราเคยคิดนะถ้าหากการจะมีแฟนและให้แฟนอูยู่กับเรานาน ๆ เราต้องเหนื่อยกับการต้องทำให้สวย ดูดีตลอดเวลา การแต่งตัวตามเทรนด์หรือแต่งตัวสวยตลอดเวลา เราว่าเราเหนื่อยนะ ถ้าหากการมีแฟนแล้วเราต้องออกกำลังกายเพื่อเหตุผลคือให้หุ่นดีตลอดเวลา เราก็เหนื่อยนะ ถ้าหากเป้าหมายนั้นคือ การทำให้แฟนเรามองเราแล้วเราสวยและหุ่นดีตลอดเวลา เราก็ไม่ได้ว่าใครนะคนที่ชอบแต่งตัวแต่งหน้า สวยตลอดก็คือความสุขของเค้าเราไม่ก้าวก่าย คือถ้าจะให้อออกำลังกายเป้าหมายคือ สุขภาพดี ส่วนหุ่นดีมันจะตามมาเอง หรือการแต่งตัว แต่งหน้า ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ชอบนะ มันทำให้น่ามองและดูดี แต่เราว่าเราเหนื่อยและค่าใช้จ่ายตรงนั้นเราว่ามันสูงพอสมควร ถึงแม้จะใช้เครื่องสำอางราคาประหยัดก็ตาม เราไม่มีความพยายามที่ตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำผม แต่งหน้า แต่งตัว และใช้เวลากับตรงนี้นาน ๆ
ถ้าจะมีแฟนเราก็คาดหวังว่าคน ๆ นั้นน่าจะรักเราเพราะจิตใจภายในนะ ภายนอกนั้นเห็นจากหน้าตา รูปร่าง คราวแรก ๆ แรกรัก แรกพอเจอ แรกเห็นในรูป ถามว่เราสวยไหมภายนอก สวยแต่งตัวเก่งอยู่นะแต่อย่างที่บอกแหละ
เหนื่อยว่ะ 555
แต่กับคนๆนึงเราชอบคุย ชอบพูด ชอบแลกเปลียนความคิดเห็น ได้มองตา ได้สัมผัสอารมณ์ ความรู้สึก มากกว่า ถุ้าหากให้เรารักหรือชอบใครสักคนผ่านจอคอมหรือมือถือ เราเลือกไม่รักดีกว่า หรือแค่พิมพ์คุยกัน วิดีโอคอลเห็นแต่หน้า เราเลือกไม่คุยนะ เราชอบเห็นตัวเป็นๆ มากกว่านะ มันสัมผัสได้ถึงการแสดงออกที่จริงและเฟคยาก ถึงเฟคก็จับโป๊ะได้
และถามว่าการมีแฟนน้ันเราต้องรู้จักอะไรเค้ามากหรือลึกขนาดไหน พ่อแม่ พี่น้องเค้า การทำงานหรือการใช้ชีวิตของเค้า การงาน หรือเงินเก็บเค้า
เพื่อนรอบตัวเค้า เพราะการมีแฟนเราไม่ได้มีชีวิตกันแค่คนสองคนเท่านั้น หน้าที่การงานของเค้า เงินเดือนหรือรายได้ของเค้า
นอกโลกมานานละ นี่เราเพ้ออะไรของเรา บัย....
การเลิกกับแฟนที่ (เคย) รักกันมากๆ ทำไมต้องเศร้า เหงา และร้องไห้ (หนัก) มากขนาดนั้นละ
ณ ตอนนั้นเราแทบล้มทั้งยืน ตอนที่เค้าคนนั้นบอกเลิกและเดินหันหลังกลับไปและไม่ติดต่อมาอีกเลย มีแต่เรานี่แหละที่ยังคงพยายาม ๆ ติดต่อ พยายามโทรหา พยายามทักเฟส พยายามติดตามทุกช่องทางที่ทำได้ ไปรอเจอหน้าบ้านเค้า (รอบนรถ) และสิ่งที่ได้รับกลับมาคือ มันบล็อคเราทุกช่องทางเลยนะ
เราพยายามอยู่สักพักและพักใหญ่เลยก็ว่าได้ จนเริ่มท้อแท้เริ่มสิ้นหวังและไม่มีทางไหนเลยที่จะมีโอกาสได้หวนกลับไป (รัก) กับมันได้อีก เราเริ่มหันมาสนใจอย่างอื่นที่ไม่เคยสนใจแทน เริ่มใส่ใจคนรอบข้างมากขึ้น เริ่มเก็บเงิน (จากที่ไม่เคยเก็บมาก่อน) เริ่มหันมาแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม ตามเทรนด์แฟชั่น สิ่งที่เกิดนี้ไม่รู้ว่าเรียกว่า การหนีหรือการพยายามที่จะหาอะไรมาแทนเวลากับการคิดถึงคน ๆ นั้น รึเปล่า เราไม่รู้นะ
เราไม่ได้พยายามติดตามหรือติดต่อคนๆนั้นอีกแล้ว มีความสุข (จริงๆนะหรือ) กับเพื่อน กับคนรอบข้าง กับพ่อแม่ กับพี่น้อง เราไม่ได้ทำอะไรเพื่อเป็นการบล็อคคนๆนึงเลย เรายังปกติดี เพราะเราไม่ชอบบล็อคใครออกไปจากชีวิต เพราะถึงบล็อคคนๆนึงที่เค้าเลือกที่จะไม่รู้จับกับเราแล้ว เราว่ามันก็เหมือนบล็อคอัตโนมัตินะแหละนะ ไม่บล็อคก็เหมือนบล็อคนี่แหละนะ
บางครั้งเราฟังเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับคนรักเก่า อดีตแฟน อะไรประมาณนี้ เรายังคิดเลยว่าเนื้อหาเพลงบางเพลงมันเหมือนกับว่าคนๆนั้นมีคุณค่ากับเรามากขนาดนั้นเลยหรือ คนๆนั้นเค้าสำคัญกับเรามากเลยหรือไง การโหยหาหรือโหนหวน หวลกลับไปเจอกับคนๆนั้น อ้อนวอนให้เค้ากลับมารักกับเราเหมือนเดิม
บางเพลงก็เหมือน "ขาดเค้าไม่ได้" บางเพลงก็ "มีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าเค้าไม่กลับมาหาเราอีก" อยากรู้ว่ามีจริงๆ ไหมคนๆนั้นที่คิดแบบนั้นอะ
ในช่วงที่โดนบอกเลิกหรือ "อกหัก" สิ่งที่จะช่วยให้เราหายจากอาการป่วยใจแบบนั้นคือใคร ปรึกษาเพื่อน พ่อแม่ หรือญาติพี่น้อง หรือใครหรือ พ่อแม่พี่น้องเองก็ตาม ....ตอนที่อยู่ด้วยกันยังมีทะเลาะกัน ยังมีขัดใจกัน แต่เราก็เชื่อได้นะตอนเราบอกแม่ว่าเราอกหัก เราโดนบอกเลิก จากแม่ที่บ่นเรา ตำหนิเรา ต่อว่าเรา ในบางครั้ง พอเราร้องไห้เดินไปหาเค้ากับสิ่งที่เราเจอ ถามว่าแม่ "ซ้ำเติม" เราไหม ไม่เลยนะ แม่ปลอบใจเราและให้กำลังใจเรามาก ลืมวันเดิมๆที่แม่เคยทะเลาะกับเรา และวันที่เรางอนและคิดไม่ดีกับแม่ หรือพ่อด้วยก็ตาม เราก็สังเกตนะว่าตอนเรา
รักกันกับแฟนเราไปไหนมาไหน เที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง ใช้เงินเพื่ออยู่กับแฟน มีความสุข ไปเที่ยาต่างจังหวัด ซื้อของขวัญให้แฟน ทำอะไรหลายอย่างที่พิเศษที่ไม่เคยทำให้ใครเลย แม้กระทั่งพ่อแม่ แต่เราทำให้แฟน และวันนั้นเองที่เราเที่ยวจนลืมคนทางบ้าน หรือกลับดึกแล้วโดนพ่อแม่บ่น โดนพ่อแม่ตำหนิเรา เราก็โมโหและไม่เข้าใจอะไรกับสิ่งที่พ่อแม่คิดเลย ถึงแม้เราจะไป "แค่เที่ยว" เท่านั้นไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดไปก็ตาม ตอนมีแฟนเราก็อยู่กับแฟนแทบตลอดเวลา โทรคุยกับแฟน แชทกับแฟน เวลาอยู่กับพ่อแม่น้อยลง
หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง เช่น หมา แมว ที่เราเลี้ยงไว้ก็ตาม ตอนเรามีแฟน มันมีเห็บ มีหมัด เราก็จะไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่ คอยพาไปฉีดวัคซีน พาไปหาหมอ คอยดูแลผิวหนัง ขน เล็บเค้า พอมีแฟน น้องหมาที่บ้านดูซุดโทรมไปเลย หรือแม้กระทั่งหนูแฮมสเตอร์ที่เราลืมเปลียนน้ำให้เค้ากิน จนเค้าตายเพราะฮีดสโตรก
ในวันที่เราเลิกกับแฟน หลังจากเลิกกัน เวลาที่เสียใจนั้นเราทำไปเพื่ออะไร เพื่อสร้างภูมิต้านทานเรื่องรักแบบนั้นหรือ
************************************นี่เราเพ้อเจ้ออะไรของเรานะ*****************************เปล่าเลยเราไม่ได้เพ้อเจ้อแต่มันคือสิ่งที่เกิดกับเราจริง******
สำหรับวันนี้ถึงแม้เราจะไม่มีแฟนหรือคนรักก็ตาม และเราก็ไม่ได้คาดหวังหรือไขว่คว้าจะมีแฟนแล้วก็ตาม แต่เราก็มีความสุขกับชีวิตที่เหลืออยู่ได้นะ
ถามว่าหน้าตาสำคัญไหมกับการมีแฟน สำคัญในวันนึงและไม่สำคัญในวันนึง เราเคยคิดนะถ้าหากการจะมีแฟนและให้แฟนอูยู่กับเรานาน ๆ เราต้องเหนื่อยกับการต้องทำให้สวย ดูดีตลอดเวลา การแต่งตัวตามเทรนด์หรือแต่งตัวสวยตลอดเวลา เราว่าเราเหนื่อยนะ ถ้าหากการมีแฟนแล้วเราต้องออกกำลังกายเพื่อเหตุผลคือให้หุ่นดีตลอดเวลา เราก็เหนื่อยนะ ถ้าหากเป้าหมายนั้นคือ การทำให้แฟนเรามองเราแล้วเราสวยและหุ่นดีตลอดเวลา เราก็ไม่ได้ว่าใครนะคนที่ชอบแต่งตัวแต่งหน้า สวยตลอดก็คือความสุขของเค้าเราไม่ก้าวก่าย คือถ้าจะให้อออกำลังกายเป้าหมายคือ สุขภาพดี ส่วนหุ่นดีมันจะตามมาเอง หรือการแต่งตัว แต่งหน้า ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ชอบนะ มันทำให้น่ามองและดูดี แต่เราว่าเราเหนื่อยและค่าใช้จ่ายตรงนั้นเราว่ามันสูงพอสมควร ถึงแม้จะใช้เครื่องสำอางราคาประหยัดก็ตาม เราไม่มีความพยายามที่ตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำผม แต่งหน้า แต่งตัว และใช้เวลากับตรงนี้นาน ๆ
ถ้าจะมีแฟนเราก็คาดหวังว่าคน ๆ นั้นน่าจะรักเราเพราะจิตใจภายในนะ ภายนอกนั้นเห็นจากหน้าตา รูปร่าง คราวแรก ๆ แรกรัก แรกพอเจอ แรกเห็นในรูป ถามว่เราสวยไหมภายนอก สวยแต่งตัวเก่งอยู่นะแต่อย่างที่บอกแหละ เหนื่อยว่ะ 555
แต่กับคนๆนึงเราชอบคุย ชอบพูด ชอบแลกเปลียนความคิดเห็น ได้มองตา ได้สัมผัสอารมณ์ ความรู้สึก มากกว่า ถุ้าหากให้เรารักหรือชอบใครสักคนผ่านจอคอมหรือมือถือ เราเลือกไม่รักดีกว่า หรือแค่พิมพ์คุยกัน วิดีโอคอลเห็นแต่หน้า เราเลือกไม่คุยนะ เราชอบเห็นตัวเป็นๆ มากกว่านะ มันสัมผัสได้ถึงการแสดงออกที่จริงและเฟคยาก ถึงเฟคก็จับโป๊ะได้
และถามว่าการมีแฟนน้ันเราต้องรู้จักอะไรเค้ามากหรือลึกขนาดไหน พ่อแม่ พี่น้องเค้า การทำงานหรือการใช้ชีวิตของเค้า การงาน หรือเงินเก็บเค้า
เพื่อนรอบตัวเค้า เพราะการมีแฟนเราไม่ได้มีชีวิตกันแค่คนสองคนเท่านั้น หน้าที่การงานของเค้า เงินเดือนหรือรายได้ของเค้า
นอกโลกมานานละ นี่เราเพ้ออะไรของเรา บัย....