สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ส่วนใหญ่ ที่มาพูดแบบนี้กับภรรยาได้ มักจะเป็นคนที่ซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายที่บ้านทั้งหมด
ภรรยา มีหน้าที่เป็นแม่บ้านอย่างเดียว จึงไม่มีปากเสียง
เขาพูดอะไรมา แม้ไม่เชื่อ ก็ต้องแสร้งทำเป็นเชื่อ
เพื่อผลประโยชน์อย่างอื่น / เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง / เพื่อยังคงความเป็นที่หนึ่ง และภูมิใจในสถานะนี้ไปก่อน
(ก่อนที่จะมารู้ตัวทีหลัง ว่าหมดค่าไปนานแล้ว ก็ตอนที่สามีไล่ออกจากบ้าน และพาคนที่สาวกว่า เข้ามาครองตำแหน่งแทน)
เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ได้ทำงานเอง
ก็ไม่จำเป็นต้องสงสัยอะไรค่ะ ต่อให้สงสัย หรือจับได้คาหนังคาเขา พาวเวอร์ของคุณก็ไม่มากพอให้เขาหยุดทำหรอก
คุณจะขู่อะไรเขาได้ล่ะ … ขู่ละเลิก ? หรือ ขู่จะหมดรัก ? เขาไม่แคร์ความรู้สึกคุณมากไปกว่าความสนุกของเขาหรอกค่ะ
แต่ถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่ทำงานหาเงินได้ สามีมิได้หาเลี้ยง (หรือบางทียังหาเลี้ยงสามีด้วย)
ถ้าเป็นแบบนี้ แล้วยังเชื่อคำพูดเขา ว่าพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ใช่การนอกใจ ถือได้ว่าคุณผิดต่อตัวเอง
และหลงเขาจนลืมความจริงไป
สิ่งที่เขาทำ ตอนนี้ นั่นแหละค่ะ คือการนอกใจแล้ว
และความผิดถึงขั้นนี้ เพียงพอที่จะเปลี่ยนสามีได้แล้วค่ะ
จะเอาไว้ทำไม คนแบบนี้ ?
ขออนุญาต เพิ่มเติมข้อความต่อจากบรรทัดนี้ … เพราะมีหลายท่าน อ่านแล้วไม่เข้าใจ ความหมายที่จะสื่อ
กลายเป็นประเด็นว่า ผู้หญิง ที่ไม่ได้ทำงาน จำต้องทน
เราไม่ได้จะสื่อให้เป็นแบบนั้นเลยนะคะ ความจำทนอะไรทั้งหลายแหล่น่ะ
เราคนหนึ่งล่ะ ที่จะไม่ทน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะ แม่บ้านเต็มตัวสุดเพอร์เฟค หรือ เวิร์คกิ้งวูแมนที่สมบูรณ์แบบ
คุณค่าที่สามี มอบให้แด่ภรรยา ไม่ใช่ตรงนี้ เป็นหลักหรอกค่ะ เขาเลือกคนมาเป็นภรรยา มันต้องเริ่มจาก
ผู้หญิงที่เขาพร้อมจะ หยุดด้วย (หยุดเจ้าชู้เสเพล) และ พร้อมจะ เริ่มด้วย (เริ่มสร้างครอบครัว)
ย่อหน้าแรก ที่เขียน คือเขียนถึงข้อสันนิษฐาน ว่า ผู้ชาย “ที่กล้า” พูดแบบนี้ “น่าจะ” เป็นช้างเท้าหน้าเต็มตัว
เพราะ …
ผู้ชายดีๆ ที่เคารพสิทธิในชีวิตคู่ และรักภรรยา ใครจะกล้ามาพูดแบบนี้คะ ? ต่อให้ภรรยา เป็นแม่บ้าน เขาก็จะให้เกียรติเสมอ
และมันจะมีเรื่องราว แบบนี้เกิดขึ้นหรือ ถ้า ภรรยา เคารพ ความเป็นตัวเอง บอกเขาว่า เธอ “ไม่โอเค” ตั้งแต่ต้น
แค่จับได้ครั้งแรกว่าไปกินเหล้า มีเด็กนั่งดริ้งค์มานั่งด้วย
จะต้องรอให้จับได้ว่าไปหลายครั้งหรือ มีการขอไลน์ไว้ติดต่อกันไหมคะ ?
จึงเป็นที่มาของย่อหน้าที่สอง
เพราะถ้าคิดจะยอมเขา ปล่อยให้เขาทำผิดซ้ำซากเรื่อยมา … ยังจะมาสงสัยอะไรได้ ตัวเองจะไม่สบายใจเปล่าๆ
ถ้าไม่มีอำนาจต่อรอง ก็สู้จำยอมไปดีกว่า ยิ่งคิดมากยิ่งเจ็บเพิ่ม โดยไม่มีทางรักษา (ความรู้สึกตน)
ทุกครั้งที่สามีออกจากบ้าน กว่าจะกลับเกือบเช้าแบบนั้น
เพราะฉะนั้น …
หยุดเถียงกันประเด็นนี้ดีกว่านะคะ ไม่ได้มีดราม่าอะไรหรอก
มาช่วยกันคิดหาวิธี ที่จะทำให้ จขกท หายทุกข์เพราะเรื่องนี้ หากเธอยังใจอ่อนอยู่จะดีกว่า
ภรรยา มีหน้าที่เป็นแม่บ้านอย่างเดียว จึงไม่มีปากเสียง
เขาพูดอะไรมา แม้ไม่เชื่อ ก็ต้องแสร้งทำเป็นเชื่อ
เพื่อผลประโยชน์อย่างอื่น / เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง / เพื่อยังคงความเป็นที่หนึ่ง และภูมิใจในสถานะนี้ไปก่อน
(ก่อนที่จะมารู้ตัวทีหลัง ว่าหมดค่าไปนานแล้ว ก็ตอนที่สามีไล่ออกจากบ้าน และพาคนที่สาวกว่า เข้ามาครองตำแหน่งแทน)
เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ได้ทำงานเอง
ก็ไม่จำเป็นต้องสงสัยอะไรค่ะ ต่อให้สงสัย หรือจับได้คาหนังคาเขา พาวเวอร์ของคุณก็ไม่มากพอให้เขาหยุดทำหรอก
คุณจะขู่อะไรเขาได้ล่ะ … ขู่ละเลิก ? หรือ ขู่จะหมดรัก ? เขาไม่แคร์ความรู้สึกคุณมากไปกว่าความสนุกของเขาหรอกค่ะ
แต่ถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่ทำงานหาเงินได้ สามีมิได้หาเลี้ยง (หรือบางทียังหาเลี้ยงสามีด้วย)
ถ้าเป็นแบบนี้ แล้วยังเชื่อคำพูดเขา ว่าพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ใช่การนอกใจ ถือได้ว่าคุณผิดต่อตัวเอง
และหลงเขาจนลืมความจริงไป
สิ่งที่เขาทำ ตอนนี้ นั่นแหละค่ะ คือการนอกใจแล้ว
และความผิดถึงขั้นนี้ เพียงพอที่จะเปลี่ยนสามีได้แล้วค่ะ
จะเอาไว้ทำไม คนแบบนี้ ?
ขออนุญาต เพิ่มเติมข้อความต่อจากบรรทัดนี้ … เพราะมีหลายท่าน อ่านแล้วไม่เข้าใจ ความหมายที่จะสื่อ
กลายเป็นประเด็นว่า ผู้หญิง ที่ไม่ได้ทำงาน จำต้องทน
เราไม่ได้จะสื่อให้เป็นแบบนั้นเลยนะคะ ความจำทนอะไรทั้งหลายแหล่น่ะ
เราคนหนึ่งล่ะ ที่จะไม่ทน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะ แม่บ้านเต็มตัวสุดเพอร์เฟค หรือ เวิร์คกิ้งวูแมนที่สมบูรณ์แบบ
คุณค่าที่สามี มอบให้แด่ภรรยา ไม่ใช่ตรงนี้ เป็นหลักหรอกค่ะ เขาเลือกคนมาเป็นภรรยา มันต้องเริ่มจาก
ผู้หญิงที่เขาพร้อมจะ หยุดด้วย (หยุดเจ้าชู้เสเพล) และ พร้อมจะ เริ่มด้วย (เริ่มสร้างครอบครัว)
ย่อหน้าแรก ที่เขียน คือเขียนถึงข้อสันนิษฐาน ว่า ผู้ชาย “ที่กล้า” พูดแบบนี้ “น่าจะ” เป็นช้างเท้าหน้าเต็มตัว
เพราะ …
ผู้ชายดีๆ ที่เคารพสิทธิในชีวิตคู่ และรักภรรยา ใครจะกล้ามาพูดแบบนี้คะ ? ต่อให้ภรรยา เป็นแม่บ้าน เขาก็จะให้เกียรติเสมอ
และมันจะมีเรื่องราว แบบนี้เกิดขึ้นหรือ ถ้า ภรรยา เคารพ ความเป็นตัวเอง บอกเขาว่า เธอ “ไม่โอเค” ตั้งแต่ต้น
แค่จับได้ครั้งแรกว่าไปกินเหล้า มีเด็กนั่งดริ้งค์มานั่งด้วย
จะต้องรอให้จับได้ว่าไปหลายครั้งหรือ มีการขอไลน์ไว้ติดต่อกันไหมคะ ?
จึงเป็นที่มาของย่อหน้าที่สอง
เพราะถ้าคิดจะยอมเขา ปล่อยให้เขาทำผิดซ้ำซากเรื่อยมา … ยังจะมาสงสัยอะไรได้ ตัวเองจะไม่สบายใจเปล่าๆ
ถ้าไม่มีอำนาจต่อรอง ก็สู้จำยอมไปดีกว่า ยิ่งคิดมากยิ่งเจ็บเพิ่ม โดยไม่มีทางรักษา (ความรู้สึกตน)
ทุกครั้งที่สามีออกจากบ้าน กว่าจะกลับเกือบเช้าแบบนั้น
เพราะฉะนั้น …
หยุดเถียงกันประเด็นนี้ดีกว่านะคะ ไม่ได้มีดราม่าอะไรหรอก
มาช่วยกันคิดหาวิธี ที่จะทำให้ จขกท หายทุกข์เพราะเรื่องนี้ หากเธอยังใจอ่อนอยู่จะดีกว่า
แสดงความคิดเห็น
เมื่อสามีชอบเที่ยวกลางคืน เรียกเด็กดิงค์มานั่ง