ช่วงนี้ใกล้ถึงเทศกาลประจำปีของวัดเขาวงพระจันทร์ อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรีแล้ว ทางวัดจัดงานประจำปีในช่วงวันตรุษจีนนะคะ ซึ่งจะมีผู้คนขึ้นมาเที่ยวเยอะมาก
เราเลือกไปเที่ยววัดเขาวงพระจันทร์และขึ้นบันได 3790 ขั้นในวันธรรมดา ก่อนมีงานประจำปี และคิดถูกที่เลือกไปช่วงว่างเว้นจากเทศกาล เพราะหนึ่ง คนไม่เยอะ สอง อากาศกำลังดี และสาม ทางขึ้นเขาเป็นทางชันมากในช่วง 2500 ขั้นขึ้นไป นึกภาพที่คนแออัด มีแต่คนเฮโลขึ้นไป การก้าวขึ้นบันไดทีละก้าวท่ามกลางผู้คนมากมาย คงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่
บันไดทางขึ้นแบ่งเป็นสองฝั่งชัดเจน แต่ไม่ได้กว้างมากมายนะคะ ขั้นบันไดค่อนข้างถี่เป็นส่วนใหญ่ มีส่วนที่หน้าบันไดกว้างเป็นช่วง ๆ พอได้หายใจบ้าง ทางวัดเปิดใช้ขึ้นทั้งวันทั้งคืน เราไปถึงตอนตีห้า แต่ด้วยเพราะยังมืดอยู่มาก เลยเลือกรอให้พระอาทิตย์ขึ้นก่อน แล้วค่อยเดินขึ้นไป เจอลูกหาบระหว่างทาง (ลูกหาบส่วนใหญ่จะหาบขนมนมเนยของแม่ค้าที่ตั้งรายทางขึ้นไปส่งตามจุดต่างๆ ให้กับร้านค้าค่ะ) ลูกหาบบอกว่า ขึ้นมาได้เลยไม่ต้องกลัว เพราะลูกหาบเริ่มหาบของกันตั้งแต่ตีหนึ่ง
ในกรณีที่มากับเพื่อนไม่ใช่มาคนเดียว ขึ้นได้เลยค่ะ ตีห้ากำลังดี แต่ถ้ามาคนเดียว เป็นผู้หญิง รอฟ้าสางก่อนเพื่อความปลอดภัย ควรแต่งกายให้ทะมัดทะแมง ขนสัมภาระให้น้อยที่สุด เรามีแค่กระติกน้ำ กับไข่ต้มสองฟอง แค่นั้นเอง
หากใครไม่ค่อยออกกำลังกาย (เช่นเรา) ควรจัดทริปไปขึ้นเขาวงพระจันทร์เป็นรายการสุดท้าย เพราะหลังจากคุณลงมาแล้ว ขาจะตึง น่องจะแข็ง ไม่สามารถหาทริปเที่ยวที่ไหนต่อได้อีก และขยาดบันไดไปอีกนาน
เราพักที่โรงแรมณัชชาเพลส ซึ่งมีห้องพักราคา 450 - 500 บาท เช็คเอาท์บ่ายโมง ตอนแรกกะจะพักคืนเดียว คือตื่นเช้ามา ออกจากที่พักตีสี่กว่า ๆ (เพราะอยู่ใกล้กับเขาวงพระจันทร์มาก) กะใช้เวลาเดินขึ้น-ลงไม่เกิน 5 ชั่วโมง กลับมาอาบน้ำอาบท่าแล้วเช็คเอาท์เลย
แต่มันไม่ใช่ค่ะ เพราะเหนื่อยมาก มาถึงที่พัก ต้องพักต่ออีกคืน และเมื่อมาถึง ไม่ทันได้อาบน้ำ คือสลบ แต่ข้อดีคือ พอเช้าอีกวัน เราสามารถไปสักการะพระพุทธโชคได้ด้วย
ใครที่วางแผนมาเที่ยวที่นี่ แนะนำให้ติดอาหารน้องหมามาด้วยนะคะ น้องน่ารัก คุ้นกับคน
ก่อนขึ้น ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ยังยิ้มได้อยู่
อันนี้คือใกล้ถึงแล้วค่ะ ด้านหน้าจะเป็นประตูวัด
ที่เห็นนั่นคือ พระพุทธโชค คือเราไม่สามารถไปสักการะทั้งพระพุทธโชคและขึ้นวัดเขาวงพระจันทร์ในวันเดียวกันได้ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งก่อน
พอขึ้นมาด้านบนของวัดเขาวงพระจันทร์แล้ว อย่าลืมถามรูปกับป้าย "ในที่สุดเราก็พิชิตเขาวงพระจันทร์ 3,790 ขั้น" ด้วยนะคะ เราไปถึง ไม่มีคน ไม่ต้องรอต่อคิวถ่ายเหมือนมาช่วงเทศกาล
เราเดินเลยไปแถวที่จอดเฮลิคอปเตอร์ ตั้งใจจะไปยกช้างเสี่ยงทาย แต่ปิด คนแถวนั้นบอกว่า จะเปิดเฉพาะในช่วงเทศกาลประจำปีเท่านั้น น่าเสียดาย แต่วิวของผานางฟ้าทดแทนได้ เพราะสวยมาก
ผานางฟ้าค่ะ
ส่วนที่เก็บช้างเสี่ยงทายปิด จะเปิดเฉพาะช่วงงานประจำปี
ด้านบนมีถ้ำแม่นางเกตุมณีศรีประจันต์ พอเข้าไปในถ้ำ จะเห็นคนนำชุดไทยมาแก้บนด้วยเหมือนกัน
บันได 3790 ขั้นที่วัดเขาวงพระจันทร์
เราเลือกไปเที่ยววัดเขาวงพระจันทร์และขึ้นบันได 3790 ขั้นในวันธรรมดา ก่อนมีงานประจำปี และคิดถูกที่เลือกไปช่วงว่างเว้นจากเทศกาล เพราะหนึ่ง คนไม่เยอะ สอง อากาศกำลังดี และสาม ทางขึ้นเขาเป็นทางชันมากในช่วง 2500 ขั้นขึ้นไป นึกภาพที่คนแออัด มีแต่คนเฮโลขึ้นไป การก้าวขึ้นบันไดทีละก้าวท่ามกลางผู้คนมากมาย คงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่
บันไดทางขึ้นแบ่งเป็นสองฝั่งชัดเจน แต่ไม่ได้กว้างมากมายนะคะ ขั้นบันไดค่อนข้างถี่เป็นส่วนใหญ่ มีส่วนที่หน้าบันไดกว้างเป็นช่วง ๆ พอได้หายใจบ้าง ทางวัดเปิดใช้ขึ้นทั้งวันทั้งคืน เราไปถึงตอนตีห้า แต่ด้วยเพราะยังมืดอยู่มาก เลยเลือกรอให้พระอาทิตย์ขึ้นก่อน แล้วค่อยเดินขึ้นไป เจอลูกหาบระหว่างทาง (ลูกหาบส่วนใหญ่จะหาบขนมนมเนยของแม่ค้าที่ตั้งรายทางขึ้นไปส่งตามจุดต่างๆ ให้กับร้านค้าค่ะ) ลูกหาบบอกว่า ขึ้นมาได้เลยไม่ต้องกลัว เพราะลูกหาบเริ่มหาบของกันตั้งแต่ตีหนึ่ง
ในกรณีที่มากับเพื่อนไม่ใช่มาคนเดียว ขึ้นได้เลยค่ะ ตีห้ากำลังดี แต่ถ้ามาคนเดียว เป็นผู้หญิง รอฟ้าสางก่อนเพื่อความปลอดภัย ควรแต่งกายให้ทะมัดทะแมง ขนสัมภาระให้น้อยที่สุด เรามีแค่กระติกน้ำ กับไข่ต้มสองฟอง แค่นั้นเอง
หากใครไม่ค่อยออกกำลังกาย (เช่นเรา) ควรจัดทริปไปขึ้นเขาวงพระจันทร์เป็นรายการสุดท้าย เพราะหลังจากคุณลงมาแล้ว ขาจะตึง น่องจะแข็ง ไม่สามารถหาทริปเที่ยวที่ไหนต่อได้อีก และขยาดบันไดไปอีกนาน
เราพักที่โรงแรมณัชชาเพลส ซึ่งมีห้องพักราคา 450 - 500 บาท เช็คเอาท์บ่ายโมง ตอนแรกกะจะพักคืนเดียว คือตื่นเช้ามา ออกจากที่พักตีสี่กว่า ๆ (เพราะอยู่ใกล้กับเขาวงพระจันทร์มาก) กะใช้เวลาเดินขึ้น-ลงไม่เกิน 5 ชั่วโมง กลับมาอาบน้ำอาบท่าแล้วเช็คเอาท์เลย
แต่มันไม่ใช่ค่ะ เพราะเหนื่อยมาก มาถึงที่พัก ต้องพักต่ออีกคืน และเมื่อมาถึง ไม่ทันได้อาบน้ำ คือสลบ แต่ข้อดีคือ พอเช้าอีกวัน เราสามารถไปสักการะพระพุทธโชคได้ด้วย
ใครที่วางแผนมาเที่ยวที่นี่ แนะนำให้ติดอาหารน้องหมามาด้วยนะคะ น้องน่ารัก คุ้นกับคน
ก่อนขึ้น ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ยังยิ้มได้อยู่
อันนี้คือใกล้ถึงแล้วค่ะ ด้านหน้าจะเป็นประตูวัด
ที่เห็นนั่นคือ พระพุทธโชค คือเราไม่สามารถไปสักการะทั้งพระพุทธโชคและขึ้นวัดเขาวงพระจันทร์ในวันเดียวกันได้ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งก่อน
พอขึ้นมาด้านบนของวัดเขาวงพระจันทร์แล้ว อย่าลืมถามรูปกับป้าย "ในที่สุดเราก็พิชิตเขาวงพระจันทร์ 3,790 ขั้น" ด้วยนะคะ เราไปถึง ไม่มีคน ไม่ต้องรอต่อคิวถ่ายเหมือนมาช่วงเทศกาล
เราเดินเลยไปแถวที่จอดเฮลิคอปเตอร์ ตั้งใจจะไปยกช้างเสี่ยงทาย แต่ปิด คนแถวนั้นบอกว่า จะเปิดเฉพาะในช่วงเทศกาลประจำปีเท่านั้น น่าเสียดาย แต่วิวของผานางฟ้าทดแทนได้ เพราะสวยมาก
ผานางฟ้าค่ะ
ส่วนที่เก็บช้างเสี่ยงทายปิด จะเปิดเฉพาะช่วงงานประจำปี
ด้านบนมีถ้ำแม่นางเกตุมณีศรีประจันต์ พอเข้าไปในถ้ำ จะเห็นคนนำชุดไทยมาแก้บนด้วยเหมือนกัน