ปิดทองหลังพระ
.
วันนี้รีบบึ่งมาพบอัยการ ให้ปากคำคดีอาชญากรรมข้ามชาติถึงที่ “สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด” แถวตลิ่งชัน พร้อมมอบเอกสารสำคัญต่างๆ 
.
วันหน้ายังต้องมาให้การอีก เพราะเรื่องมันยาว ให้การถึง 5 ทุ่มก็ไม่เสร็จ
.
เมื่อตำรวจ อัยการ ไม่พัก ผมก็ยอมไม่พัก 
.
ปีใหม่ก็ไม่ต้องหยุด ยกเลิกโปรแกรม ยกเลิกทริปต่างจังหวัด ยกเลิกการเที่ยวทั้งหมด
.
งานนี้ถึงไหนถึงกัน ไม่เคยเป็นพยานปรักปรำใครมาก่อนแม้แต่ครั้งเดียวในชีวิต
.
เคยเป็นแต่ “จำเลย” ถูกตีตรวนล่ามโซ่ที่ขามาจากคุก ขึ้นศาลอาญาสนามหลวงเมื่อหลายสิบปีก่อนยังจำได้แม่น เพราะโดนไถค่าข้าวผัดจานละ 5,000 บาท มาแล้ว
.
วันนี้ให้การเสร็จ พักกินข้าวเที่ยงหิวท้องร้อง ท่านอธิบดี กุลธนิต มงคลสวัสดิ์ เรียกให้มากินข้าวกัน
.
ไอ้เราก็นึกว่าจะได้กินอาหารเหมือนที่ไปหาท่าน ผบ.ตร. วันก่อน ที่มีรองโจ๊ก รองต่อ ร่วมวงด้วย
มีอาหาร กุ้ง ปู ปลา เต็มโต๊ะ 
.
แต่ที่ไหนได้ อัยการให้กิน “ข้าวกล่อง” ผัดกระเพรา กับน้ำเปล่า 1 ขวด แล้วก็กินแบบนี้กันหมดสำนักงาน รวมทั้งอธิบดีด้วย
.
ช่างน่าเห็นใจ เพราะงบไม่มี จะเบิกอะไรก็ติดขัดไปหมด เป็นพวกปิดทองหลังพระ 
.
ส่วนพวกที่ปิดทองหน้าพระ คือ ตำรวจ 
.
และพวกที่ปิดทองที่เศียรพระ คือ ดีเอสไอ 
.
เพราะหากดีเอสไอรับเป็น “คดีพิเศษ” มีระเบียบเบิกค่าใช้จ่ายสำหรับสืบสวนสอบสวน วงเงินครั้งละ 50 ล้านบาทต่อคดี
.
อื้อหือ! อู้ฟู่ จริงเชียว
.
อัยการไปสอบสวนต่างจังหวัด นั่งรถทัวร์ แต่ ดีเอสไอ ได้นั่งเครื่องบิน
.
วันหลังมาให้การคงต้องเอาข้าวใส่กล่องมากินเองซะแล้ว แถมซื้อมาฝากบรรดาท่านอัยการด้วย
.
แต่ที่แน่ๆ หากไปให้การที่ดีเอสไอเมื่อไหร่
.
มีหวังได้กินโต๊ะจีนแน่นอน

https://www.facebook.com/100044444678982/posts/pfbid0tYb5ob2ttQMB7FRj3ubAPK2uGGf5aPP1xC24JYpQrs7ppBDNQPK3a9Y5oHc2NTXTl/