หลังจบเกมชิงแชมป์ฟุตบอลโลก อันสุดมันส์ พร้อมสร้างประวัติศาสตร์มากมาย กับเมสซี่ ทำให้ คนอาร์เจนป่านนี้ยังฉลองกันไม่เลิก(ลากยาวต่อคริสมาสต์กันไปเลย)
ความยอดเยี่ยมของอาร์เจนนั้น จริงๆแล้ว ก่อนนัดแรกในบอลโลกจะเริ่มขึ้น พวกเขาพกสถิติไม่แพ้ใครมากว่า 3 ปี นัดสุดท้ายที่พวกเขาแพ้คือ ฟุตบอล โคปาอเมริกา 2019 วันที่ 2 กรกฎาคม 2019 โดยพ่ายแพ้ต่อบราซิล
หลังจากนั้น พวกเขาก็ไม่พบกับความพ่ายแพ้อีกเลย ไม่ว่าจะบอล กระชับมิตร บอลโคปาอเมริกา(แชมป์ปี 2021) หรือฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
ทำให้ บอลโลกครั้งนี้ แฟนอาร์เจนตั้งความหวังสูงมาก เพราะฟอร์มของทีมกำลังดีมาก และเมสซี่จะลงเล่นบอลโลกเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ด้วยอายุของเมสซี่ ยังไงๆ บอลโลกครั้งหน้า คงเป็นเรื่องยากมากที่จะมาได้อีก เพราะอาร์เจนไม่ได้เป็นประเทศที่ขาดแคลนนักบอลจนต้องเข็น นักเตะวัยเกือบ 40 มาเล่นบอลโลกแน่ๆ
ยิ่งนัดแรกเจอซาอุ ยิ่งไม่น่าพลาด แต่พอเกมเกิดขึ้น ก็ไม่น่าเชื่อว่า อาร์เจนแพ้ซาอุซะยังงั้น
ทีมตัวเต็งบอลโลก ทีมที่ไร้พ่ายมากว่า 3 ปี แต่เกมแรกในฟุตบอลโลก พวกเขากลับแพ้ทีมที่ น่าจะเป็นทีมที่ง่ายที่สุดในการคว้า 3 คะแนน
ทำให้ แฟนอาร์เจนเหมือนถูกปลุกให้ตื่นจากฝันดี ต้องมายอมรับความเป็นจริงว่า ความไม่พ่ายแพ้มา 3 ปี มันจะไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าต้องตกรอบแรกบอลโลก
เหล่านักเตะกับทีมงานก็เช่นกัน แน่นอนว่า พวกเขาช็อกกับผลบอล แต่สิ่งที่ทุกคนต้องทำคือการเรียกสติกลับมา และนัดที่เหลือทั้งหมด พวกเขาจำต้องเล่นให้เหมือนเป็นนัดชิงชนะเลิศทุกนัด นั่นหมายถึง จะแพ้ไม่ได้แม้แต่เกมเดียว
ความหลงระเริงกับสถิติไร้พ่าย ความมั่นใจอันมากล้น ล้วนถูกทำลายลงไป แต่สิ่งที่ได้กลับมา คือสมาธิที่มีมากขึ้น การเล่นแบบทุ่มเทมองที่ชัยชนะของทีมเป็นหลัก และเหล่านักเตะที่อายุยังน้อย พวกเขาตระหนักดีว่า นี่คือโอกาสสุดท้ายในบอลโลกของ ไอดอลของเขาแล้ว เพราะฉะนั้น พวกเขาต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เมสซี่ เก็บเกียรติยศอันสุดท้ายให้ได้ และที่สำคัญคือ พวกเขาห้ามประมาทคู่ต่อสู้โดยเด็ดขาด
หลังจากนั้น ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ทีมโค็ช ที่ศึกษาการเล่นของคู่แข่ง เลือกใช้แผนแต่ละแบบให้เหมาะกับคู่แข่ง ไม่มีการหัวดื้อ หรือทิฐิ ที่จะฝืนใช้แผนเดิมๆ หรือแผนที่คิดว่าตัวเองถนัด คู่ต่อสู้มาแบบไหน เราจะปรับทีมของเราให้สู้กับเขา เรียกว่า ทุกคนสู้เหมือนจะไม่มีวันพรุ่งนี้
ยิ่งนัดเจอฮอลแลนด์ สังเกตุได้เลยว่า นักเตะอาร์เจน พร้อมสวนเสมอ ไม่ว่าจะนักเตะหรือโค็ช โดยเฉพาะ เมสซี่ที่ปรกติจะเงียบๆ แต่หลังแมทซ์ฮอลแลนด์นี่ มีตะโกนด่านักเตะฮอลแลนด์ตอนสัมภาษณ์อีก ซึ่งแน่นอนแหละว่า มันไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีเลย แต่ทุกคนก็ไม่ค่อยจะเห็นเมสซี่ในรูปแบบนี้มากนัก เรียกได้ว่า อารมณ์ของอาร์เจนตอนนี้คือ ใครขวางตรูชนหมด
และสุดท้าย นัดชิงอันสุดมันส์ แม้ว่าอาร์เจนแทบจะกุมชัยชนะอยู่แล้ว แต่ ฝรั่งเศสกลับมาตีเสมอได้ใน ช่วง 10 นาทีก่อนหมดเวลา แน่นอนว่า ขวัญกำลังใจของเหล่าแฟนบอลถึงกับทรุดลงไปทีเดียว เพราะเหมือน โมเมนต์ของเกมมันไหลไปทางฝรั่งเศสแล้ว เหล่านักเตะเองก็เริ่มหวั่นใจ ในซุ้มม้านั่งสำรองก็เริ่มกุมหน้า กุมมือ เพราะ อีกแค่ 10 นาทีความฝันของพวกเขาจะเป็นจริงแล้ว แต่พวกเขาก็ยื้อยันเสมอจนหมดเวลา ทำให้มีเวลามารวบรวมสติกันอีกรอบ แน่นอนว่า ความรู้สึกก็ไม่ต่างอะไรกับตอนแพ้ซาอุ และในเงื่อนไขเหมือนเดิมคือ พวกเขาจะแพ้ไม่ได้
ช่วงต่อเวลา พวกเขาก็พยายามสู้ต่อ จนสามารถยิงประตูนำได้อีกครั้ง แต่ฝรั่งเศสก็สามารถเอาคืนได้อีก จากจุดโทษ จนหมดเวลา
ถึงแม้ว่า การเตะจุดโทษ จะเหมือนกึ่งการวัดดวงกลายๆ แต่อาร์เจนที่ มีความมุ่งมั่นมากกว่า เพราะพวกเขาเจอสถาณการณ์ที่แพ้ไม่ได้มาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มแล้ว รวมถึงมีประสบการณ์การดวลจุดโทษกับฮอลแลนด์มาแล้ว ทำให้ พวกเขาไม่ได้รู้สึกกลัวหรือกังวลอะไรเลย ยิ่งผู้รักษาประตูของพวกเขา ที่ยังคงมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม และพร้อมที่จะใช้กลยุทธกวนบาทาอีกฝั่งแบบไม่สนใจใครจะมองยังไง ด้วยเหตุนี้ อาร์เจนเลยยิงไม่พลาดเลยสักคน คว้าแชมป์โลกในแมทช์นัดชิงที่จะถูกกล่าวขานไปอีกนานแสนนาน
มองย้อนกลับไป การที่พวกเขาแพ้เพียงนัดเดียว อาจจะเป็นการแพ้ที่ถูกที่ถูกเวลาแล้วก็ได้ เพราะเป็นการแพ้ที่มีเวลาเหลือให้แก้ตัว และเป็นการแพ้แค่ในจุดเริ่มต้นของเกมเท่านั้น
ฟุตบอลก็ยังงี้แหละ ใครจะไปเชื่อว่า ทีมเดียวที่ชนะอาร์เจนชุดคว้าแชมป์โคปาและแชมป์โลกภายใน 2 ปีได้คือ ทีม ซาอุดิอาระเบีย
วิเคราะห์หลังเกม ยังไงก็ถูก ความพ่ายแพ้ต่อซาอุ กับแชมป์โลกของอาร์เจนติน่า
ความยอดเยี่ยมของอาร์เจนนั้น จริงๆแล้ว ก่อนนัดแรกในบอลโลกจะเริ่มขึ้น พวกเขาพกสถิติไม่แพ้ใครมากว่า 3 ปี นัดสุดท้ายที่พวกเขาแพ้คือ ฟุตบอล โคปาอเมริกา 2019 วันที่ 2 กรกฎาคม 2019 โดยพ่ายแพ้ต่อบราซิล
หลังจากนั้น พวกเขาก็ไม่พบกับความพ่ายแพ้อีกเลย ไม่ว่าจะบอล กระชับมิตร บอลโคปาอเมริกา(แชมป์ปี 2021) หรือฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
ทำให้ บอลโลกครั้งนี้ แฟนอาร์เจนตั้งความหวังสูงมาก เพราะฟอร์มของทีมกำลังดีมาก และเมสซี่จะลงเล่นบอลโลกเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ด้วยอายุของเมสซี่ ยังไงๆ บอลโลกครั้งหน้า คงเป็นเรื่องยากมากที่จะมาได้อีก เพราะอาร์เจนไม่ได้เป็นประเทศที่ขาดแคลนนักบอลจนต้องเข็น นักเตะวัยเกือบ 40 มาเล่นบอลโลกแน่ๆ
ยิ่งนัดแรกเจอซาอุ ยิ่งไม่น่าพลาด แต่พอเกมเกิดขึ้น ก็ไม่น่าเชื่อว่า อาร์เจนแพ้ซาอุซะยังงั้น
ทีมตัวเต็งบอลโลก ทีมที่ไร้พ่ายมากว่า 3 ปี แต่เกมแรกในฟุตบอลโลก พวกเขากลับแพ้ทีมที่ น่าจะเป็นทีมที่ง่ายที่สุดในการคว้า 3 คะแนน
ทำให้ แฟนอาร์เจนเหมือนถูกปลุกให้ตื่นจากฝันดี ต้องมายอมรับความเป็นจริงว่า ความไม่พ่ายแพ้มา 3 ปี มันจะไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าต้องตกรอบแรกบอลโลก
เหล่านักเตะกับทีมงานก็เช่นกัน แน่นอนว่า พวกเขาช็อกกับผลบอล แต่สิ่งที่ทุกคนต้องทำคือการเรียกสติกลับมา และนัดที่เหลือทั้งหมด พวกเขาจำต้องเล่นให้เหมือนเป็นนัดชิงชนะเลิศทุกนัด นั่นหมายถึง จะแพ้ไม่ได้แม้แต่เกมเดียว
ความหลงระเริงกับสถิติไร้พ่าย ความมั่นใจอันมากล้น ล้วนถูกทำลายลงไป แต่สิ่งที่ได้กลับมา คือสมาธิที่มีมากขึ้น การเล่นแบบทุ่มเทมองที่ชัยชนะของทีมเป็นหลัก และเหล่านักเตะที่อายุยังน้อย พวกเขาตระหนักดีว่า นี่คือโอกาสสุดท้ายในบอลโลกของ ไอดอลของเขาแล้ว เพราะฉะนั้น พวกเขาต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เมสซี่ เก็บเกียรติยศอันสุดท้ายให้ได้ และที่สำคัญคือ พวกเขาห้ามประมาทคู่ต่อสู้โดยเด็ดขาด
หลังจากนั้น ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ทีมโค็ช ที่ศึกษาการเล่นของคู่แข่ง เลือกใช้แผนแต่ละแบบให้เหมาะกับคู่แข่ง ไม่มีการหัวดื้อ หรือทิฐิ ที่จะฝืนใช้แผนเดิมๆ หรือแผนที่คิดว่าตัวเองถนัด คู่ต่อสู้มาแบบไหน เราจะปรับทีมของเราให้สู้กับเขา เรียกว่า ทุกคนสู้เหมือนจะไม่มีวันพรุ่งนี้
ยิ่งนัดเจอฮอลแลนด์ สังเกตุได้เลยว่า นักเตะอาร์เจน พร้อมสวนเสมอ ไม่ว่าจะนักเตะหรือโค็ช โดยเฉพาะ เมสซี่ที่ปรกติจะเงียบๆ แต่หลังแมทซ์ฮอลแลนด์นี่ มีตะโกนด่านักเตะฮอลแลนด์ตอนสัมภาษณ์อีก ซึ่งแน่นอนแหละว่า มันไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีเลย แต่ทุกคนก็ไม่ค่อยจะเห็นเมสซี่ในรูปแบบนี้มากนัก เรียกได้ว่า อารมณ์ของอาร์เจนตอนนี้คือ ใครขวางตรูชนหมด
และสุดท้าย นัดชิงอันสุดมันส์ แม้ว่าอาร์เจนแทบจะกุมชัยชนะอยู่แล้ว แต่ ฝรั่งเศสกลับมาตีเสมอได้ใน ช่วง 10 นาทีก่อนหมดเวลา แน่นอนว่า ขวัญกำลังใจของเหล่าแฟนบอลถึงกับทรุดลงไปทีเดียว เพราะเหมือน โมเมนต์ของเกมมันไหลไปทางฝรั่งเศสแล้ว เหล่านักเตะเองก็เริ่มหวั่นใจ ในซุ้มม้านั่งสำรองก็เริ่มกุมหน้า กุมมือ เพราะ อีกแค่ 10 นาทีความฝันของพวกเขาจะเป็นจริงแล้ว แต่พวกเขาก็ยื้อยันเสมอจนหมดเวลา ทำให้มีเวลามารวบรวมสติกันอีกรอบ แน่นอนว่า ความรู้สึกก็ไม่ต่างอะไรกับตอนแพ้ซาอุ และในเงื่อนไขเหมือนเดิมคือ พวกเขาจะแพ้ไม่ได้
ช่วงต่อเวลา พวกเขาก็พยายามสู้ต่อ จนสามารถยิงประตูนำได้อีกครั้ง แต่ฝรั่งเศสก็สามารถเอาคืนได้อีก จากจุดโทษ จนหมดเวลา
ถึงแม้ว่า การเตะจุดโทษ จะเหมือนกึ่งการวัดดวงกลายๆ แต่อาร์เจนที่ มีความมุ่งมั่นมากกว่า เพราะพวกเขาเจอสถาณการณ์ที่แพ้ไม่ได้มาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มแล้ว รวมถึงมีประสบการณ์การดวลจุดโทษกับฮอลแลนด์มาแล้ว ทำให้ พวกเขาไม่ได้รู้สึกกลัวหรือกังวลอะไรเลย ยิ่งผู้รักษาประตูของพวกเขา ที่ยังคงมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม และพร้อมที่จะใช้กลยุทธกวนบาทาอีกฝั่งแบบไม่สนใจใครจะมองยังไง ด้วยเหตุนี้ อาร์เจนเลยยิงไม่พลาดเลยสักคน คว้าแชมป์โลกในแมทช์นัดชิงที่จะถูกกล่าวขานไปอีกนานแสนนาน
มองย้อนกลับไป การที่พวกเขาแพ้เพียงนัดเดียว อาจจะเป็นการแพ้ที่ถูกที่ถูกเวลาแล้วก็ได้ เพราะเป็นการแพ้ที่มีเวลาเหลือให้แก้ตัว และเป็นการแพ้แค่ในจุดเริ่มต้นของเกมเท่านั้น
ฟุตบอลก็ยังงี้แหละ ใครจะไปเชื่อว่า ทีมเดียวที่ชนะอาร์เจนชุดคว้าแชมป์โคปาและแชมป์โลกภายใน 2 ปีได้คือ ทีม ซาอุดิอาระเบีย