เล่าก่อนว่า สมัยก่อนเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว เราทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ตอนนั้นเราอายุ 34 ปี เราอยู่ในวัยกำลังสร้างครอบครัวค่ะ ตอนนั้นเราคุยกับผู้ชายไว้หลายคนมาก มีคนมาขายขนมจีบเรื่อยๆ แต่ล่ะคนโปรไฟล์ดีๆ หน้าที่การงานดี และมักจะอายุมากกว่าเรา แต่มีผู้ชายอยู่คนหนึ่งเป็นรุ่นน้องที่ทำงาน พึ่งเข้ามาทำงานใหม่ เข้ามาคุยด้วย มีโอกาสได้ทำความรู้จักกันสักพัก แต่ด้วยความที่วัยห่างกันมากเกินไป ตอนนั้นผู้ชายคนที่เราคุยด้วย อยู่ในวัยอายุแค่ 24 ปี พึ่งเรียนจบเริ่มทำงานมาได้ไม่นาน เราดูแล้วน้องเขายังไม่พร้อมอะไรอีกหลายๆ อย่าง แตกต่างจากผู้ชายหลายๆ คนที่เขามาจีบเรา เราเลยปฏิเสธน้องเขาไปแบบหยาบๆ ด้วยคำพูดตรงๆ ว่า “ คิดจะมีแฟน มีความรัก เอาชีวิตตัวเองให้ดีก่อน ชีวิตมีอะไรแล้วหรือยัง รถก็ขับเก่าๆ ของพ่อแม่ ไปไหนก็ไม่เคยเลี้ยง ต้องช่วยหารตลอด พอเถอะ “ แล้วเราก็ไม่อยากคุยกับน้องเขาอีกเลย จะคุยก็แค่เรื่องงาน ถามคำตอบคำ ผ่านไปไม่ถึง 1 ปี น้องเขาก็ลาออกไป สรุปเวลาผ่านไป 6-7 ปีได้ ไม่ได้เจอกันอีกเลย เราพึ่งมารู้ข่าวจากเพื่อนเราในที่ทำงานเดียวกันอีกทีว่าปัจจุบันชีวิตน้องเขาดีขึ้นมากๆ เพอร์เฟคสุดๆ ได้ยินมาว่าเมื่อ 5-6 ปีก่อนเขาได้มรดกจากปู่ ย่า เขามา และเขาเอาไปลงทุนทำธุรกิจเปิดบริษัทเป็นของตัวเองจนได้ดิบได้ดี จนปัจจุบันชีวิตเขาร่ำรวยไปแล้ว เรารู้มาอีกว่า เขาพึ่งซื้อบ้านใหม่ราคา 20 ล้านบาทไป มีรถหรู มีที่ดิน มีเงิน ไลฟสไตล์ชีวิตดีมากๆ ไปเที่ยวต่างประเทศ เข้าร้านอาหารแพงๆ ใช้ของแบรนด์เนม พูดตามตรงไม่อ้อมค้อมเลย เรารู้สึกเสียดายเขา อยากย้อนเวลากลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้งค่ะ ถ้ารู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดีขนาดนี้ ตอนนั้นเราคงไม่ทำแบบนั้นกับเขา คงลองเปิดใจคบกับเขาไปแล้ว เราจะทำยังไงดีค่ะ ขอโทษเขาดีไหมค่ะ ว่าจะลองกลับไปทำความรู้จักกับเขาอีกครั้ง จะดูน่าเกลียดเกินไปไหมค่ะ
เคยปฏิเสธผู้ชายที่มาจีบไป ผ่านมาหลายปี ชีวิตเขาดีขึ้นมาก มีบ้าน มีรถ มีที่ดิน ขอโทษเขาดีไหมค่ะ ?