วันที่ฟ้าเปิด บทที่ 32

กระทู้คำถาม
วันที่ฟ้าเปิด
ดรัสวันต์  และ  Q  


32

        “เนตร” เขาเรียกเตือน “ผมรู้ว่าคุณอึดอัดที่จะต้องมานอนร่วมกับผม แต่ผมไม่อยากให้คุณคลาดสายตาผมไปอีกแล้ว” พูดจบปกป้องประสานสายตากับดวงตาคมคู่สวย เพื่อเน้นย้ำคำพูด “คุณนอนเถอะ ผมจะนั่งเฝ้าเอง”

        เนตริยาก้มหน้า รู้สึกว่ากำลังทำตัวมีปัญหา หล่อนจึงยอมนั่งลงข้างๆ เขา พลางอุบอิบแก้ตัวออกไปว่า 

       “เดี๋ยวค่อยนอน ฉันยังไม่ง่วง”  

       ปกป้องไม่อยากดึงดันหากหล่อนยังไม่อยากนอนตอนนี้ แล้วเริ่มสังเกตเสื้อผ้าชุดพื้นเมืองที่หล่อนใส่อยู่ มันเป็นชุดที่เขาซื้อให้  อดนึกถึงคำบอกเล่าของแสวงก่อนหน้านี้ไม่ได้ว่า

      ‘...เธอกระตือรือร้นอยากจะมารับนายมากนะครับ อุตส่าห์แต่งชุดสวยที่นายซื้อให้ คงอยากให้นายเห็นจะได้ดีใจ’

       เขารู้สึกดีใจที่เธอมีใจจะมาต้อนรับเขากลับบ้านด้วยชุดพื้นเมืองที่เขาซื้อให้ ปกป้องยังไม่ได้บอกกับเนตริยาเลยว่าเขาซาบซึ้งใจเพียงใดที่เธอแต่งชุดนี้

      “คุณใส่ชุดนี้ได้พอดีเลยนะ”

      “เอ่อ ค่ะ” เนตริยาก้มลงมองตัวเอง

      “ผมคิดไม่ผิดที่เลือกชุดนี้ให้คุณ คุณใส่แล้วสวยมาก” นอกจากจะสวยแล้ว ปกป้องยังคิดว่าการแต่งชุดพื้นเมืองเช่นนี้ได้ช่วยพรางให้สะมะแอคิดว่าหล่อนคงเป็นแค่สาวชาวบ้านธรรมดา หากสะมะแอรู้ความจริงว่าเนตริยาเป็นทหารเธอจะมีอันตรายถึงชีวิต

      หญิงสาวยิ้มเขินกับคำชมนั้น

      “แสวงบอกว่าคุณตั้งใจใส่ชุดนี้ไปรับผมที่ท่ารถ งั้นหรือ”

      “ใครบอก เนตรไม่เคยพูดแบบนั้นสักหน่อย แสวงพูดเอาเองทั้งนั้น” หญิงสาวรีบแก้ตัวหน้าแดง แล้วทำท่าเหมือนจะค้อนคนปากดีที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น

      “คุณจะพูดหรือไม่ก็ตาม แต่ผมจะดีใจมากถ้าเป็นแบบนั้น และขอบคุณมากที่คุณเป็นห่วงกลัวว่าผมจะเป็นอันตรายไปอย่างที่ธเนศมันมาโกหกคุณ”

       คิดถึงตอนนั้นแล้ว เนตริยาอดสะท้อนใจขึ้นมาไม่ได้

       “เนตรนี่โง่มากเลยนะคะ มีคนมาหลอกแค่นี้ก็เชื่อแล้ว”

       “ถ้าไม่เป็นเพราะคุณเป็นห่วงผมมากมายขนาดนั้น คุณก็คงไม่เชื่อเขาหรอก”

       เนตริยาก้มหน้าอย่างยอมรับ นึกถึงเวลานั้นที่หล่อนตกใจกลัวเมื่อรู้ข่าวว่าเขาเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ ทั้งกลัวทั้งร้อนรนอยากรู้ว่าเขาเป็นตายร้ายดีอย่างไร 

       “ถ้าคุณเป็นอะไรไป เนตรจะทำอย่างไร” เสียงกระซิบเริ่มสั่นเครือไปกับความรู้สึกโหวงเหวงใจหายหากหล่อนจะไม่ได้พบเห็นหน้าเขาอีก
“เนตรไม่ได้กลัวว่าจะกลับบ้านไม่ได้หรอกนะคะ แต่..” รีบแก้ตัวเพราะกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิด แล้วน้อยใจเหมือนครั้งก่อน 

      “แต่อะไร” ปกป้องจ้องผู้หญิงตรงหน้าด้วยความรู้สึกรักท่วมท้น เขาเชื่อว่าเนตริยาเองก็คงมีความรู้สึกให้เขาเช่นเดียวกัน

       “แต่...” หญิงสาวเริ่มอึกอัก ถามตัวเองว่านี่หล่อนกำลังจะเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อเขาอย่างนั้นหรือ

       “เนตร” ปกป้องเรียกเตือนคนที่กำลังก้มหน้าคิดหาคำตอบมาตอบเขาด้วยความยุ่งยากใจ “ขอบคุณที่คุณห่วงใยผม แต่รู้ไหมว่าความห่วงใยที่คุณมีให้ผมยังไม่เท่าครึ่งหนึ่งที่ผมเป็นห่วงคุณ ทั้งห่วง ทั้งหวง ถ้าคุณเป็นอะไรไป ผมจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองตลอดชีวิต”

       หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาคนพูดราวกับจะค้นหาความรู้สึกของเขาที่มีต่อหล่อน แววตาเป็นประกายกล้าที่จ้องตอบมานั้นบอกถึงความในใจของเขาจนหมดสิ้น และก่อนที่หญิงสาวจะรู้ตัว แขนแข็งแรงของปกป้องก็รั้งเธอเข้ามาในอ้อมกอดแล้วริมฝีปากก็ทาบลงจุมพิตริมฝีปากบาง หวานเท่าหวาน แสนอ่อนโยนด้วยสัมผัสอันสนิทเสน่หาของชายผู้เข้ามาอยู่ในหัวใจเธอโดยไม่รู้ตัว 

       เนตริยาเหมือนตกอยู่ในความฝันอันแสนหวาน หัวใจของเธอร่ำร้องบอกเขาว่าเธอรักเขา เธอรักปกป้องยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด และชีวิตเธอคงไม่มี
ความหมายถ้าไม่มีเขา หญิงสาวอยากให้เวลาหยุดลงเพียงแค่นี้  เธอไม่อยากเป็นร้อยเอกหญิงเนตริยา และไม่อยากให้เขาเป็นโจรที่ลักพาตัวเธอมา

      ปกป้องเลื่อนไล้ริมฝีปากประทับไปที่แก้ม เปลือกตาและหยุดลงที่หน้าผาก เนตริยายามนี้อบอุ่นไปทั้งหัวใจ หล่อนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกลึกซึ้งที่แม้เขาไม่ได้บอกออกมาเป็นคำพูดแต่หล่อนก็รับรู้ได้ หญิงสาวซุกหน้าลงแนบกับอกกว้าง แขนแข็งแรงที่โอบรัดหล่อนไว้นั้น ราวกับจะหวงแหนและทำให้หล่อนมั่นใจว่าจะไม่มีวันที่ภัยอันตรายใดจะมากล้ำกลายหล่อนได้อีก 

      ปกป้องลูบเรือนผมนุ่มสลวยนั้น แล้วก้มลงมากระซิบบอกว่า 

      “เนตร จากนี้จะไม่มีใครมาทำอันตรายคุณได้อีกแล้วนะ ผมสัญญา...” คำสัญญานั้นค่อยๆ แผ่วจางลง 

      “ค่ะ” เนตริยาผงกตัวขึ้นมองร่างที่อ่อนล้าใกล้จะหมดแรงนั้น “คุณเพลียมากแล้ว พักเถอะค่ะ” แล้วค่อยๆ พยุงตัวเขาให้นอนราบลง 

      ปกป้องหลับตาลง แต่คว้าข้อมือหญิงสาวไว้มั่น

      “อยู่กับผม  อย่าไปไหนนะ”

       “ค่ะ เนตรไม่ไปไหน” หล่อนให้สัญญาแล้วค่อยๆ เอนกายลงนอนเคียงข้างชายที่บัดนี้เขาทำให้เธอรู้แล้วว่าความรักก่อให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นและเป็นสุขเพียงใด
 

       เสียงกุกกักและแสงสลัวรางของลำแสงแรกที่ทาบท้องฟ้ายามเช้าทำให้ปกป้องรู้สึกตัวตื่นขึ้น ร่างอบอุ่นของใครคนหนึ่งอิงแอบซุกอยู่ใกล้ๆ เขาขยับตะแคงตัวหันมามองคนข้างๆ ยังไม่อยากให้ใครคนนี้ตื่นขึ้นมา เขายังอยากจะทอดเวลาแห่งความปิติสุขนี้ออกไปอีก

      “เนตริยา” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง นี่เขาฝันไปหรืออย่างไร ที่มีนางฟ้ามานอนหลับอยู่เคียงข้างเขาทั้งคืน ปกป้องเอื้อมมือไปเสยปอยผมเล็กๆ
ที่ตกระข้างแก้มนวลเนียนนั้นออกอย่างแผ่วเบาเพื่อพิจารณาใบหน้าหวานที่อยู่ในห้วงคำนึงนั้นโดยใกล้ชิดอย่างที่เขาไม่เคยมีโอกาสมาก่อน 

      ....และนี่คงเป็นโอกาสเดียวและโอกาสสุดท้ายของเขา เพราะจากนี้อีกไม่นาน เวลาแห่งการจากพรากกำลังจะมาถึง เมื่อเขาต้องส่งเนตริยากลับบ้าน

       ความรู้สึกสะเทือนใจเข้าจู่โจมจนปกป้องรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งกระบอกตา อยากจะเหนี่ยวรั้งเธอไว้ อยากจะทำทุกอย่างที่ไม่ให้เธอจากเขาไป อารมณ์รักหวงแหนที่พลุ่งขึ้นมานั้นทำให้ปกป้องดึงรั้งร่างบางเข้ามากอดรัดไว้แน่น

      เนตริยาเริ่มรู้สึกตัว หล่อนตกใจทำตัวแข็งในวินาทีแรกที่รู้ตัวว่าถูกกอดรัด รอบตัวที่ยังไม่สว่างดีนักทำให้หล่อนมองเห็นหน้าคนที่อุกอาจนั้นไม่ถนัด 

      “เอ่อ อย่านะ ! ปล่อย ” อาการเสียขวัญจากเหตุการณ์เมื่อวานทำให้หล่อนเริ่มดิ้นรนด้วยความตระหนกตกใจ

       “จุ๊ จุ๊ ไม่ต้องกลัว ผมเอง” เสียงนุ่มที่ปลอบโยนนั้นทำให้หญิงสาวหยุดชะงัก หล่อนเงยหน้าขึ้นสบตาปกป้อง ดวงตาคู่นั้นของเขาเปล่งประกายแห่งความสุขเจิดจ้ายิ่งนัก

       “ขอโทษที่ทำให้คุณตกใจ” แม้ชายหนุ่มจะกล่าวขอโทษ แต่ยังไม่ยอมคลายแขน

       “ตื่นนานแล้วหรือคะ” เนตริยาถาม เก้อเขินที่หล่อนตื่นทีหลังเขา 

       “เพิ่งตื่นเหมือนกัน”

       หญิงสาวพยายามขยับตัวออก เริ่มรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัวยามเมื่อถูกเขานอนกอดเช่นนี้ แต่ปกป้องไม่ปล่อย

       “จะไปไหน” 

      “ตื่นแล้วก็ลุกซิคะ” 

      “มอร์นิ่ง คิสก่อน” พร้อมกับเอียงแก้มมารอ

      “อื๊อ เรื่องอะไรจะคิส” รีบปฏิเสธพร้อมกับดันตัวออก แต่ปกป้องกลับรัดร่างนุ่มนั้นแน่นยิ่งขึ้นจนใบหน้างามซุกอยู่กับอก 

       “เนตร คงไม่มีเวลาไหนที่ผมจะมีความสุขมากเท่านี้อีกแล้ว ขอเวลาอีกนิดเถอะนะ” คำอ้อนขอให้หล่อนเห็นใจทำให้เนตริยาอ่อนยอมแต่โดยดี หล่อนเองก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะรู้สึกอบอุ่นเป็นสุขมากเท่านี้มาก่อน 

       ต่างคนต่างอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน ปล่อยให้หัวใจสองดวงได้บอกรักกันโดยไม่ต้องการคำพูดใดๆ
 

       เสียงเปิดปิดประตูรถที่จอดอยู่ด้านนอก แสวงคงตื่นแล้ว เนตริยาขยับตัว ปกป้องคลายแขนปล่อยให้หญิงสาวเป็นอิสระ

      “แผลคุณเป็นอย่างไรบ้างคะ”

       ขณะนี้รอบตัวเริ่มสว่างพอที่ทั้งสองจะสังเกตเห็นว่าผ้าพันแผลไม่มีเลือดใหม่ไหลออกมาอีก นอกจากรอยเลือดเก่าสีแดงคล้ำที่ยังติดอยู่กับผ้าพันแผล

      “เลือดหยุดไหลแล้ว แต่ตัวยังรุมๆ อยู่ เมื่อคืนคุณมีไข้นะคะ” 

      “งั้นหรือ ผมไม่รู้สึกตัวเลย” 

      “ค่ะคุณมีไข้” เนตริยาไม่อยากบอกว่า เมื่อคืนเขาตัวร้อนจัด จนหล่อนต้องไปหาผ้ามาชุบน้ำเช็ดตัวให้เขาจนไข้เริ่มลดลง

      “ยาแก้ไข้แค่สองเม็ดที่ทานไปคงเอาไม่อยู่”

      “หิวไหมคะ เนตรจะออกไปช่วยเจ้าของบ้านเขาหุงข้าวนะคะ เผื่อจะมีน้ำข้าวร้อนๆ มาให้คุณดื่ม”

       “ขอบคุณครับ”

       ฟ้าหลังฝนกระจ่างใสปราศจากเมฆ และอากาศรอบตัวก็เย็นสดชื่น ทั้งสามขอไม่รบกวนอาหารเช้าที่เจ้าของบ้านคะยั้นคะยอให้อยู่ทานนอกจากน้ำข้าวร้อนๆ คนละถ้วย แถมปกป้องยังมอบสินน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ให้ไปอีกด้วย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งนิยาย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่