สำหรับเกม Forspoken เป็นเกมแนว Openworld action role-playing game จากค่าย Square Enix ค่ะทุกคน
เนื้อเรื่องคร่าวๆของเกมนี้คือ เราจะได้รับบทเป็น Frey Holland วัยรุ่นสาวชาวนิวยอร์ก ที่จู่ๆวันหนึ่งก็ถูกดูดไปยังโลกเวทย์มนต์ ณ ดินแดนแห่ง Athia พร้อมกับกำไลเวทย์ที่ติดอยู่แขน ซึ่งจะทำให้ตัวเราสามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็วและใช้สกิลเวทย์ต่างๆได้ โดยเนื้อเรื่องรัชจะยังไม่ขอลงรายละเอียดลึกนะคะเนื่องจากตัวเกมยังเป็น Demoอยู่นั่นเองค่า
สามารถรับชมคลิปรีวิวได้ที่ :
รีวิว Demo เกม Forspoken เกมใหม่จากค่าย Square Enix
สำหรับ Demo Gameplay ของเกมนี้นะคะ จะให้เราทดลองเล่นในแผนที่ Openword เล็กๆ โดยจะมีจุดสังเกตสีม่วงในแผนที่ให้เราได้ออกไปสำรวจ
ระบบต่อสู้ของเกมนี้จะแบ่งอาวุธออกเป็น 2 แบบคือ การใช้เวทย์แบบไกลและระยะประชิด โดยปุ่ม L1/R1 จะเป็นการสลับปรับเปลี่ยนสกิล และปุ่ม L2/R2 จะเป็นการกดใช้สกิล
ซึ่งรัชลองเล่นแรกๆบอกเลยว่าค่อนข้าง งงนิดหน่อยค่ะ ด้วยตัวเกมที่ใส่สกิลเวทย์มาให้หลากหลายมากๆ ทำให้การเล่นในช่วงแรกสับสนนิดหน่อย แต่เมื่อเล่นไปเรื่อยๆบอกเลยว่าเกมนี้สนุกมากค่ะ เพราะสามารถประยุกต์ใช้สกิลต่างๆเพื่อจัดการศตรูได้ เช่น การใช้เวทย์ขึงศตรูเอาไว้และกระหน่ำฟันด้วยดาบยาว หรือการใช้ไฟเผา เป็นต้น
ซึ่งสกิลต่างๆจะเป็นระบบ Cooldown ให้เราได้เลือกใช้ในเวลาที่เหมาะสมจ้า
เกมนี้เราสามารถสแกนสิ่งรอบตัวได้โดยกด D PAD ด้านบน (PS5) ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นสะดวกในการไปทำภารกิจต่างๆและไม่พลาดสถานที่สำคัญ แถมเมื่อเรากำลังกำลังต่อสู้กับศตรูอยู่ เราก็สามารถกดสแกนศตรูได้ เพื่อดูข้อมูลจุดอ่อนจุดแข็งของศัตรูว่าแพ้อะไร ไม่แพ้อะไร ให้เราได้ออกแบบการต่อสู้ด้วยตัวเองได้เลยจ้า
ตัวเกมมีระบบอัปเกรดชุดและ Craft Item ต่างๆ ด้วยการใช้ Item และ EXP ที่เราไปสำรวจมา ซึ่งการวิ่งสำรวจในเกมนี้บอกเลยว่าทำออกมาได้ไหลลื่นมากๆ โดยผู้เล่นสามารถวิ่งปากัวได้อย่างรวดเร็ว และสามารถใช้สกิลดึงตนเองขึ้นไปยังที่สูงๆได้ แถมไม่กลัวว่าจะตกแล้วตาย เพราะตัวเรามีพลังจากกำไล ที่ทำให้การตกจากที่สูงเป็นเพียงการทำให้สกิลเกราะแตกชั่วคราวเท่านั้น แต่ถ้าสู้กับบอสแล้วเลือดหมดสกิลเกราะแตก อันนั้นคือตายของจริงจ้า
เกมนี้จะมีหอคอยให้เราได้warpขึ้นไปเพื่อมองแผนที่จากด้านบน อารมณ์คล้ายๆเกม Zelda Breath Of The Wild แต่เราไม่ต้องลำบากในการปีน โดยเราสามารถสแกนและ Mark จุดต่างๆ ที่เราต้องการจะไปได้ ซึ่งสถานที่ส่วนใหญ่ในแผนที่จะนำพาให้เราไปจัดการกับศตรู และเก็บกล่องสมบัติ รวมไปถึงการแก้ Puzzle ต่างๆ
ซึ่งใน Demo Gameplay นี้ยังมีPuzzle ที่ไม่น่าสนใจนัก ส่วนใหญ่จะเป็นปริศนาที่ซ้ำกัน ยังไม่น่าดึงดูดเท่าไหร่
ส่วนตัวรัชเองก็แอบหวังว่าตัวเกมเต็มจะมี Puzzle ที่หลากหลาย และน่าค้นหามากกว่านี้ค่ะ แต่โดยภาพรวมเกมนี้ก็ทำออกมาดีและสนุกมากกว่าที่คาดเอาไว้มากจ้า
มาในเรื่อง Graphic และ Performance ของเกมกันบ้างค่ะ Graphic ในเกมนี้จะแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ
1.
Quality Mode โดยเราจะได้ความคมชัดของภาพที่ 4K และความลื่นไหลในการเล่นเกมอยู่ที่ 30FPS
2.
Raytracing Mode เราจะได้ความคมชัดของภาพที่ 2K และความลื่นไหลในการเล่นเกมอยู่ที่ 30FPS
3.
Performance Mode เราจะได้ความคมชัดของภาพที่ 2K และความลื่นไหลในการเล่นเกมอยู่ที่ 60FPS
ซึ่งรัชเลือกเป็น Performance Mode เพราะเน้นความลื่นไหลไว้ก่อน แต่ถึงแม้ว่าภาพจะมีความคมชัดที่ 2K ก็ยังคงความสวยงามในการแสดงผลของเกมนี้เอาได้เป็นอย่างดีค่า
อีกอย่างหนึ่งที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ สำหรับเกมนี้รองรับภาษาไทยด้วยนะคะ ซึ่งจากที่ดูคร่าวๆแล้วการแปลภาษาไทย ทำได้สละสลวยดีทีเดียว แต่รัชติดอยู่เรื่องหนึ่งค่ะ คือซับไตเติ้ลตัวเล็กไปหน่อย ทำให้อ่านยาก ขนาดปรับเป็นขนาดใหญ่แล้วก็ยังดูเล็กอยู่เลยค่ะ ก็หวังว่าเกมเต็มจะแก้ปัญหาตรงนี้ด้วยนะคะ
และสำหรับเกม Forspoken ก็จะวางจำหน่ายในวันที่ 24 ม.ค. 2023 บน Playstation5 และ PC
ใครยังไม่ได้ลอง Demo เกมนี้ บอกเลยว่าต้องลองจ้า
รีวิว Demo เกม Forspoken เกมใหม่จากค่าย Square Enix
เนื้อเรื่องคร่าวๆของเกมนี้คือ เราจะได้รับบทเป็น Frey Holland วัยรุ่นสาวชาวนิวยอร์ก ที่จู่ๆวันหนึ่งก็ถูกดูดไปยังโลกเวทย์มนต์ ณ ดินแดนแห่ง Athia พร้อมกับกำไลเวทย์ที่ติดอยู่แขน ซึ่งจะทำให้ตัวเราสามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็วและใช้สกิลเวทย์ต่างๆได้ โดยเนื้อเรื่องรัชจะยังไม่ขอลงรายละเอียดลึกนะคะเนื่องจากตัวเกมยังเป็น Demoอยู่นั่นเองค่า
สามารถรับชมคลิปรีวิวได้ที่ : รีวิว Demo เกม Forspoken เกมใหม่จากค่าย Square Enix
สำหรับ Demo Gameplay ของเกมนี้นะคะ จะให้เราทดลองเล่นในแผนที่ Openword เล็กๆ โดยจะมีจุดสังเกตสีม่วงในแผนที่ให้เราได้ออกไปสำรวจ
ระบบต่อสู้ของเกมนี้จะแบ่งอาวุธออกเป็น 2 แบบคือ การใช้เวทย์แบบไกลและระยะประชิด โดยปุ่ม L1/R1 จะเป็นการสลับปรับเปลี่ยนสกิล และปุ่ม L2/R2 จะเป็นการกดใช้สกิล
ซึ่งรัชลองเล่นแรกๆบอกเลยว่าค่อนข้าง งงนิดหน่อยค่ะ ด้วยตัวเกมที่ใส่สกิลเวทย์มาให้หลากหลายมากๆ ทำให้การเล่นในช่วงแรกสับสนนิดหน่อย แต่เมื่อเล่นไปเรื่อยๆบอกเลยว่าเกมนี้สนุกมากค่ะ เพราะสามารถประยุกต์ใช้สกิลต่างๆเพื่อจัดการศตรูได้ เช่น การใช้เวทย์ขึงศตรูเอาไว้และกระหน่ำฟันด้วยดาบยาว หรือการใช้ไฟเผา เป็นต้น
ซึ่งสกิลต่างๆจะเป็นระบบ Cooldown ให้เราได้เลือกใช้ในเวลาที่เหมาะสมจ้า
เกมนี้เราสามารถสแกนสิ่งรอบตัวได้โดยกด D PAD ด้านบน (PS5) ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นสะดวกในการไปทำภารกิจต่างๆและไม่พลาดสถานที่สำคัญ แถมเมื่อเรากำลังกำลังต่อสู้กับศตรูอยู่ เราก็สามารถกดสแกนศตรูได้ เพื่อดูข้อมูลจุดอ่อนจุดแข็งของศัตรูว่าแพ้อะไร ไม่แพ้อะไร ให้เราได้ออกแบบการต่อสู้ด้วยตัวเองได้เลยจ้า
ตัวเกมมีระบบอัปเกรดชุดและ Craft Item ต่างๆ ด้วยการใช้ Item และ EXP ที่เราไปสำรวจมา ซึ่งการวิ่งสำรวจในเกมนี้บอกเลยว่าทำออกมาได้ไหลลื่นมากๆ โดยผู้เล่นสามารถวิ่งปากัวได้อย่างรวดเร็ว และสามารถใช้สกิลดึงตนเองขึ้นไปยังที่สูงๆได้ แถมไม่กลัวว่าจะตกแล้วตาย เพราะตัวเรามีพลังจากกำไล ที่ทำให้การตกจากที่สูงเป็นเพียงการทำให้สกิลเกราะแตกชั่วคราวเท่านั้น แต่ถ้าสู้กับบอสแล้วเลือดหมดสกิลเกราะแตก อันนั้นคือตายของจริงจ้า
เกมนี้จะมีหอคอยให้เราได้warpขึ้นไปเพื่อมองแผนที่จากด้านบน อารมณ์คล้ายๆเกม Zelda Breath Of The Wild แต่เราไม่ต้องลำบากในการปีน โดยเราสามารถสแกนและ Mark จุดต่างๆ ที่เราต้องการจะไปได้ ซึ่งสถานที่ส่วนใหญ่ในแผนที่จะนำพาให้เราไปจัดการกับศตรู และเก็บกล่องสมบัติ รวมไปถึงการแก้ Puzzle ต่างๆ
ซึ่งใน Demo Gameplay นี้ยังมีPuzzle ที่ไม่น่าสนใจนัก ส่วนใหญ่จะเป็นปริศนาที่ซ้ำกัน ยังไม่น่าดึงดูดเท่าไหร่
ส่วนตัวรัชเองก็แอบหวังว่าตัวเกมเต็มจะมี Puzzle ที่หลากหลาย และน่าค้นหามากกว่านี้ค่ะ แต่โดยภาพรวมเกมนี้ก็ทำออกมาดีและสนุกมากกว่าที่คาดเอาไว้มากจ้า
มาในเรื่อง Graphic และ Performance ของเกมกันบ้างค่ะ Graphic ในเกมนี้จะแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ
1.Quality Mode โดยเราจะได้ความคมชัดของภาพที่ 4K และความลื่นไหลในการเล่นเกมอยู่ที่ 30FPS
2.Raytracing Mode เราจะได้ความคมชัดของภาพที่ 2K และความลื่นไหลในการเล่นเกมอยู่ที่ 30FPS
3.Performance Mode เราจะได้ความคมชัดของภาพที่ 2K และความลื่นไหลในการเล่นเกมอยู่ที่ 60FPS
ซึ่งรัชเลือกเป็น Performance Mode เพราะเน้นความลื่นไหลไว้ก่อน แต่ถึงแม้ว่าภาพจะมีความคมชัดที่ 2K ก็ยังคงความสวยงามในการแสดงผลของเกมนี้เอาได้เป็นอย่างดีค่า
อีกอย่างหนึ่งที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ สำหรับเกมนี้รองรับภาษาไทยด้วยนะคะ ซึ่งจากที่ดูคร่าวๆแล้วการแปลภาษาไทย ทำได้สละสลวยดีทีเดียว แต่รัชติดอยู่เรื่องหนึ่งค่ะ คือซับไตเติ้ลตัวเล็กไปหน่อย ทำให้อ่านยาก ขนาดปรับเป็นขนาดใหญ่แล้วก็ยังดูเล็กอยู่เลยค่ะ ก็หวังว่าเกมเต็มจะแก้ปัญหาตรงนี้ด้วยนะคะ
และสำหรับเกม Forspoken ก็จะวางจำหน่ายในวันที่ 24 ม.ค. 2023 บน Playstation5 และ PC
ใครยังไม่ได้ลอง Demo เกมนี้ บอกเลยว่าต้องลองจ้า