คือเรามารอรถหน้าปากซอยตามปกติค่ะ แล้วรถวันนี้มาช้า เราออกมาแล้วก็ไม่อยากเดินกลับบ้านเลยยืนรอ สักพัก5นาที เราเดินไปซื้อถุงเท้าค่ะจากร้านที่เราซื้อประจำทีนี้ เขาถามเราว่ารถยังไม่มาหรอ เราบอกยังค่ะ เขาบอกวันนี้มาช้านะปกติมาไว ทีนี้เขาบอกเราว่านั่งสินั่งได้นะเดี๋ยวดูรถให้ ตอนแรกก็ปฏิเสธไป เขาก็บอกนั่งเลยๆๆ เราก็ไปนั่งค่ะ แล้วเขาก็ชวนคุยปกติ สักพักเขาลูบผมเรา แบบชวนคุย เเล้วลูบผมหลายรอบมาก เราอึดอัดค่ะแต่คิดว่าเขาเอ็นดูเพราะเห็นกันตั้งแต่เล็กๆ แล้วคุณยาย กับ แม่เรา ก็รู้จักเขาด้วย ทีนี้เขาบอกถ่ายรูปด้วยได้มั้ย เขาบอกว่าเขาถ่ายกับลูกค้าเป็นประจำเลย คือตอนนั้นเริ่มแปลกๆแต่เราก็ไม่ได้ตอบไปนะคะ แต่เขาเปิดกล้องแล้ว พอจะถ่ายเขาบอกมานั่งตักสิ เราแบบไม่ใช่และ เราทำไรไม่ถูก แต่เราก็ไม่ได้นั่งไปนะคะ ถ่ายแบบยืนปกติ เราพยายามในการเซฟตัวเองแบบสุดๆคือถ่ายครึ่งหน้า แต่เขาบอกไม่เห็นหน้าขอเต็มๆหน้า แล้วพอถ่ายเสร็จเราไม่นั่งเลยค่ะ ตอนนั้นรู้สึกสึกอึดแัดมาก จะอ้วก ขนลุกที่เขาลูบหัวตอนนั้นด้วย ทีนี้ยืนหน้าร้านเลยค่ะ สักพักเราไม่ไหวเลยบอกว่า เราไปรอตรงนู้นนะคะ พอดีว่าต้องไปซื้อของด้วย เราก็เดินไปค่ะ เป็นที่เดิมทีเรายืนตั้งแต่จะเดินไปร้านเขา แต่บังเอิญว่าร้านตรงนั้นเปิดพอดีเราเลยไปขอนั่งรอรถค่ะ
ตอนนี้เรารู้สึกแย่มากกับตัวเองและลุงคนนั้นด้วย
แย่ที่ตัวเราไม่กล้าปฏิเสธทั้งๆที่เป็นสิทธิ์ของเรา แย่อีกอย่างคือคนรู้จักกันมานานไม่คิดว่าจะเป็นนี้ ตอนนี้เรากลัวไปหมดเลยค่ะว่า รูปเราเขาจะไปทำอะไร แต่ที่บอกเซฟสุดๆคือในสถาณการณ์แบบนั้น นะคะ ถ้าเซฟจริงๆเราไม่ควรจะไปถ่ายแต่แรก เราขนลุกมากๆค่ะ
แล้วเราถามหน่อยค่ะ ว่าเรื่องนี้ควรบอกแม่มั้ยคะ
ทำยังไงให้เราเลิกคิดเรื่องนี้สักที
ขอคำปรึกษาค่ะ คนที่รู้จักแต่ไม่สนิทมาลูบผมและขอถ่ายรูป
ตอนนี้เรารู้สึกแย่มากกับตัวเองและลุงคนนั้นด้วย
แย่ที่ตัวเราไม่กล้าปฏิเสธทั้งๆที่เป็นสิทธิ์ของเรา แย่อีกอย่างคือคนรู้จักกันมานานไม่คิดว่าจะเป็นนี้ ตอนนี้เรากลัวไปหมดเลยค่ะว่า รูปเราเขาจะไปทำอะไร แต่ที่บอกเซฟสุดๆคือในสถาณการณ์แบบนั้น นะคะ ถ้าเซฟจริงๆเราไม่ควรจะไปถ่ายแต่แรก เราขนลุกมากๆค่ะ
แล้วเราถามหน่อยค่ะ ว่าเรื่องนี้ควรบอกแม่มั้ยคะ
ทำยังไงให้เราเลิกคิดเรื่องนี้สักที