ตั้งแต่เริ่มดูฟุตบอลครั้งแรกปี2000 ฟุตบอลยูโรรอบรองชนะเลิศ ฝรั่งเศสพบโปรตุเกส ปีนั้นจำได้ว่าตื่นมาดูกับพ่อ และเชียร์ฝรั่งเศสตั้งแต่นั้นมา โดยนักเตะคนแรกที่รู้จักคือ ซีเนอดีน ซีดาน และปีนั้นก็สมหวัง ฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร2000ไป
แต่หลังจากนั้นฟุตบอลโลก2002เป็นอะไรที่เจ็บปวดมาก เมื่อทีมที่เชียร์ทั้งฝรั่งเศสแชมป์เก่าและเป็นเต็ง1และอุรุกวัยที่จับมาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ต้องกระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่มทั้งคู่(และเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่ดูและครั้งที่แย่ที่สุดแล้วที่ทีมที่เชียร์ทั้งหมดตกรอบแรกเร็วขนาดนี้)
หลังจากนั้นมา 4ทีมที่เชียร์มาตลอด20ปี ก็คือ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ อุรุกวัย และโคลอมเบีย ขนาดเชียร์ตั้ง4ทีม ยังนับครั้งที่สมหวังได้เลย แค่2ครั้งเท่านั้น(ไม่รวมฟุตบอลยูโรปี2000ที่ฝรั่งเศสได้แชมป์และโคปาอเมริกาปี2001ที่โคลอมเบียได้แชมป์เพราะตอนนั้นเพิ่งเริ่มดูบอลและยังไม่ได้ติดตามจริงจัง) และไม่รวมรายการย่อยอย่างคอนเฟดเดอเรชั่นคัพหรือเนชั่นส์ลีกที่ฝรั่งเศสได้แชมป์ไป เพราะไม่ได้รู้สึกอินอะไรเลย
และในปี2006ก็พบกับความผิดหวังอีกครั้ง เมื่อฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศ ฝรั่งเศสแพ้จุดโทษอิตาลีไป และเป็นการปิดฉากอาชีพของซีดาน นักเตะที่ชอบที่สุดด้วยการเอาหัวโหม่งมาเตรัซซี่ แทนที่จะเป็นการได้ชูถ้วยแชมป์ นับเป็นการปิดฉากที่ไม่สวยงามเอาซะเลย และที่ตลกร้ายกว่านั้นคือ คนที่พลาดจุดโทษคนเดียวของฝรั่งเศส คือดาวิดเทรเซเก้ คนที่ยิงประตูชัยให้ฝรั่งเศสเอาชนะอิตาลีคว้าแชมป์ได้ในยูโร2000 นับเป็นครั้งที่เสียใจที่สุดในตอนนั้น
แต่ความเสียใจยังไม่หมดแค่นั้น เมื่อฟุตบอลโลกปี2010 เนเธอร์แลนด์ยุค3ทหารเสือ(ร็อบเบน ชไนเดอร์ ฟานเพอร์ซี่) ต้องมาแพ้สเปนในนัดชิงชนะเลิศ นับเป็นอีกครั้งที่เสียใจมากๆสุดๆเลย ทั้งๆที่รอบรองชนะเลิศเป็นการพบกันของ2ทีมที่เชียร์ทั้งคู่ คือเนเธอร์แลนด์กับอุรุกวัย (ส่วนฝรั่งเศสปีนั้นมีข่าวแคมป์แตกก็เลยไม่ได้เชียร์และตกรอบแบ่งกลุ่มไป) และตอนนั้นที่ดิเอโก้ฟอร์ลันของอุรุกวัยได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเม้นต์และได้ฉายารองเท้าชั่งทอง ถึงแม้ว่าอุรุกวัยจะจบแค่ที่4ก็ตาม และตอนนั้นก็ได้กำเนิดนักเตะที่ชอบที่สุดคนใหม่ที่ชอบต่อจากซีดาน คือหลุยส์ซัวเรซของอุรุกวัย ที่ฟอร์มดีมากในฟุตบอลโลกครั้งนั้น และยังฟอร์มดีต่อเนื่อง โดย3ประสานแดนหน้าอุรุกวัย ซัวเรซ คาวานี่ ฟอร์ลัน ได้พาอุรุกวัยคว้าแชมป์โคปาอเมริกาปี2011 นับเป็นความสมหวังครั้งแรกตั้งแต่เริ่มดูบอลมา
ต่อมาในฟุตบอลโลก2014ปีนี้เป็นปีแรกที่ทีมที่เชียร์เข้ารอบสุดท้ายมาครบทั้ง4ทีม คือฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ อุรุกวัย โคลอมเบีย และทั้ง4ทีมสามารถผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ได้ทั้งหมด โดยอุรุกวัยฟอร์มกระท่อนกระแท่นสุด เมื่อนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม หลุยส์ซัวเรซไปกัดแขนจอร์โจ้คิเอลลินี่ และหลุยส์ซัวเรซโดนแบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอล3เดือน และโดนแบนในทีมชาติถึง10นัด นับเป็นการลงโทษแบนที่โหดร้ายมากๆ ของฟีฟ่า แต่ถึงอย่างนั้นบาร์เซโลน่าก็ยังคว้าตัวหลุยส์ซัวเรซจากลิเวอร์พูลไปร่วมทีม ทั้งที่ติดโทษแบนอยู่ โดยนัดที่จอร์โจ้ คิเอลลีนี่โดนกัดแขน เป็นนัดสุดท้ายที่ทีมชาติอิตาลีได้มาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจนถึงปัจจุบัน
ทำให้ตอนนั้นฟุตบอลโลก2014รอบ16ทีมที่อุรุกวัยโคจรมาเจอกับโคลอมเบียที่เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายครั้งแรกนับตั้งแต่ปี1998และกำลังฟอร์มดีนำทัพโดยฮาเมสโรดิเกซ เลยเลือกที่จะเชียร์โคลอมเบียมากกว่า และโคลอมเบียก็ได้ผ่านเข้ารอบ8ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งตอนนั้นฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ก็ผ่านเข้าถึงรอบ8ทีมเหมือนกัน นับเป็นช่วงที่ดีที่สุดที่ทีมที่เชียร์ผ่านเข้าถึงรอบลึกๆได้เยอะที่สุดขนาดนี้ แต่แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อฝรั่งเศสและโคลอมเบียต้องกระเด็นตกรอบ8ทีม และเนเธอร์แลนด์แพ้จุดโทษอาร์เจนตินาในรอบรอง
มาที่ยูโร2016ที่ต้องผิดหวังอีกครั้ง เมื่อฝรั่งเศสที่เป็นเจ้าภาพยูโรปีนั้น ที่ฟอร์มดีโค่นทีมใหญ่มาตลอด ต้องมาแพ้โปรตุเกสในรอบชิง เป็นอีกครั้งที่เสียใจเหมือนกัน
แต่ต่อมาฟุตบอลโลก2018ฝรั่งเศสก็สามารถคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ โดยการแจ้งเกิดของผู้ชายที่ชื่อเอ็มบับเป้(ว่าที่นักเตะที่ชอบที่สุด) และเป็นการสมหวังครั้งที่2และเป็นครั้งที่ดีใจที่สุดในชีวิตตั้งแต่ดูฟุตบอลมา
จนมาถึงฟุตบอลโลกปี2022ที่ปีนี้คาดหวังเอาไว้มากๆ กับการคุมทีมครั้งสุดท้ายของหลุยส์ฟานกัล ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่ป่วยเป็นมะเร็งไปฉายแสงมาหลายครั้ง และการปิดฉากอาชีพของนักบอลที่ชอบที่สุดอย่างหลุยส์ซัวเรซกับทีมชาติอุรุกวัย แต่แล้วก็ต้องผิดหวังทั้งหมด เมื่ออุรุกวัยต้องกระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยน้ำมือของโปรตุเกส ปิดฉากการเล่นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายด้วยน้ำตาของหลุยส์ซัวเรซ และเนเธอร์แลนด์ก็ดวลลูกโทษที่จุดโทษแพ้อาร์เจนตินาไปในรอบ8ทีม ปิดฉากการคุมทีมครั้งสุดท้ายของหลุยส์ฟานกัล ทำให้เหลือแต่ฝรั่งเศสกับประธานเอ็มบับเป้ (นักเตะที่ชอบที่สุดต่อจากหลุยส์ซัวเรซ) แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง แม้ประธานเป้จะเก่งแค่ไหน ทำแฮตทริกในรอบชิง ยิงประตูรวม8ลูกในฟุตบอลโลก2022 แต่ด้วยความเหนียวของมาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูอาร์เจนตินา ทำให้ฝรั่งเศสแพ้จุดโทษอาร์เจนตินาในรอบชิงชนะเลิศ ตามรอยเนเธอร์แลนด์ไป ปิดฉากการค้าแข้งของนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลอย่างลิโอเนลเมสซี่ด้วยการคว้าแชมป์โลกกับอาร์เจนตินา ทั้งที่ปีก่อนก็เพิ่งคว้าแชมป์โคปาอเมริกาไป เหมือนบทเขียนมาให้เมสซี่จริงๆ ถามว่าปีนี้เสียใจมั้ย ก็เสียใจอยู่ แต่คงไม่เท่าครั้งก่อนๆ อาจเพราะด้วยวัยที่โตขึ้น และพบกับความผิดหวังในชีวิตมามากมายแล้ว ทำให้แข็งแกร่งขึ้น ยินดีกับเมสซี่ด้วยจริงๆครับ
จากใจคนที่เชียร์ทีมชาติฝรั่งเศสมา22ปี ถึงจะแพ้แต่ขอบอกไว้
แต่หลังจากนั้นฟุตบอลโลก2002เป็นอะไรที่เจ็บปวดมาก เมื่อทีมที่เชียร์ทั้งฝรั่งเศสแชมป์เก่าและเป็นเต็ง1และอุรุกวัยที่จับมาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ต้องกระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่มทั้งคู่(และเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่ดูและครั้งที่แย่ที่สุดแล้วที่ทีมที่เชียร์ทั้งหมดตกรอบแรกเร็วขนาดนี้)
หลังจากนั้นมา 4ทีมที่เชียร์มาตลอด20ปี ก็คือ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ อุรุกวัย และโคลอมเบีย ขนาดเชียร์ตั้ง4ทีม ยังนับครั้งที่สมหวังได้เลย แค่2ครั้งเท่านั้น(ไม่รวมฟุตบอลยูโรปี2000ที่ฝรั่งเศสได้แชมป์และโคปาอเมริกาปี2001ที่โคลอมเบียได้แชมป์เพราะตอนนั้นเพิ่งเริ่มดูบอลและยังไม่ได้ติดตามจริงจัง) และไม่รวมรายการย่อยอย่างคอนเฟดเดอเรชั่นคัพหรือเนชั่นส์ลีกที่ฝรั่งเศสได้แชมป์ไป เพราะไม่ได้รู้สึกอินอะไรเลย
และในปี2006ก็พบกับความผิดหวังอีกครั้ง เมื่อฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศ ฝรั่งเศสแพ้จุดโทษอิตาลีไป และเป็นการปิดฉากอาชีพของซีดาน นักเตะที่ชอบที่สุดด้วยการเอาหัวโหม่งมาเตรัซซี่ แทนที่จะเป็นการได้ชูถ้วยแชมป์ นับเป็นการปิดฉากที่ไม่สวยงามเอาซะเลย และที่ตลกร้ายกว่านั้นคือ คนที่พลาดจุดโทษคนเดียวของฝรั่งเศส คือดาวิดเทรเซเก้ คนที่ยิงประตูชัยให้ฝรั่งเศสเอาชนะอิตาลีคว้าแชมป์ได้ในยูโร2000 นับเป็นครั้งที่เสียใจที่สุดในตอนนั้น
แต่ความเสียใจยังไม่หมดแค่นั้น เมื่อฟุตบอลโลกปี2010 เนเธอร์แลนด์ยุค3ทหารเสือ(ร็อบเบน ชไนเดอร์ ฟานเพอร์ซี่) ต้องมาแพ้สเปนในนัดชิงชนะเลิศ นับเป็นอีกครั้งที่เสียใจมากๆสุดๆเลย ทั้งๆที่รอบรองชนะเลิศเป็นการพบกันของ2ทีมที่เชียร์ทั้งคู่ คือเนเธอร์แลนด์กับอุรุกวัย (ส่วนฝรั่งเศสปีนั้นมีข่าวแคมป์แตกก็เลยไม่ได้เชียร์และตกรอบแบ่งกลุ่มไป) และตอนนั้นที่ดิเอโก้ฟอร์ลันของอุรุกวัยได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเม้นต์และได้ฉายารองเท้าชั่งทอง ถึงแม้ว่าอุรุกวัยจะจบแค่ที่4ก็ตาม และตอนนั้นก็ได้กำเนิดนักเตะที่ชอบที่สุดคนใหม่ที่ชอบต่อจากซีดาน คือหลุยส์ซัวเรซของอุรุกวัย ที่ฟอร์มดีมากในฟุตบอลโลกครั้งนั้น และยังฟอร์มดีต่อเนื่อง โดย3ประสานแดนหน้าอุรุกวัย ซัวเรซ คาวานี่ ฟอร์ลัน ได้พาอุรุกวัยคว้าแชมป์โคปาอเมริกาปี2011 นับเป็นความสมหวังครั้งแรกตั้งแต่เริ่มดูบอลมา
ต่อมาในฟุตบอลโลก2014ปีนี้เป็นปีแรกที่ทีมที่เชียร์เข้ารอบสุดท้ายมาครบทั้ง4ทีม คือฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ อุรุกวัย โคลอมเบีย และทั้ง4ทีมสามารถผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ได้ทั้งหมด โดยอุรุกวัยฟอร์มกระท่อนกระแท่นสุด เมื่อนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม หลุยส์ซัวเรซไปกัดแขนจอร์โจ้คิเอลลินี่ และหลุยส์ซัวเรซโดนแบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอล3เดือน และโดนแบนในทีมชาติถึง10นัด นับเป็นการลงโทษแบนที่โหดร้ายมากๆ ของฟีฟ่า แต่ถึงอย่างนั้นบาร์เซโลน่าก็ยังคว้าตัวหลุยส์ซัวเรซจากลิเวอร์พูลไปร่วมทีม ทั้งที่ติดโทษแบนอยู่ โดยนัดที่จอร์โจ้ คิเอลลีนี่โดนกัดแขน เป็นนัดสุดท้ายที่ทีมชาติอิตาลีได้มาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจนถึงปัจจุบัน
ทำให้ตอนนั้นฟุตบอลโลก2014รอบ16ทีมที่อุรุกวัยโคจรมาเจอกับโคลอมเบียที่เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายครั้งแรกนับตั้งแต่ปี1998และกำลังฟอร์มดีนำทัพโดยฮาเมสโรดิเกซ เลยเลือกที่จะเชียร์โคลอมเบียมากกว่า และโคลอมเบียก็ได้ผ่านเข้ารอบ8ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งตอนนั้นฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ก็ผ่านเข้าถึงรอบ8ทีมเหมือนกัน นับเป็นช่วงที่ดีที่สุดที่ทีมที่เชียร์ผ่านเข้าถึงรอบลึกๆได้เยอะที่สุดขนาดนี้ แต่แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อฝรั่งเศสและโคลอมเบียต้องกระเด็นตกรอบ8ทีม และเนเธอร์แลนด์แพ้จุดโทษอาร์เจนตินาในรอบรอง
มาที่ยูโร2016ที่ต้องผิดหวังอีกครั้ง เมื่อฝรั่งเศสที่เป็นเจ้าภาพยูโรปีนั้น ที่ฟอร์มดีโค่นทีมใหญ่มาตลอด ต้องมาแพ้โปรตุเกสในรอบชิง เป็นอีกครั้งที่เสียใจเหมือนกัน
แต่ต่อมาฟุตบอลโลก2018ฝรั่งเศสก็สามารถคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ โดยการแจ้งเกิดของผู้ชายที่ชื่อเอ็มบับเป้(ว่าที่นักเตะที่ชอบที่สุด) และเป็นการสมหวังครั้งที่2และเป็นครั้งที่ดีใจที่สุดในชีวิตตั้งแต่ดูฟุตบอลมา
จนมาถึงฟุตบอลโลกปี2022ที่ปีนี้คาดหวังเอาไว้มากๆ กับการคุมทีมครั้งสุดท้ายของหลุยส์ฟานกัล ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่ป่วยเป็นมะเร็งไปฉายแสงมาหลายครั้ง และการปิดฉากอาชีพของนักบอลที่ชอบที่สุดอย่างหลุยส์ซัวเรซกับทีมชาติอุรุกวัย แต่แล้วก็ต้องผิดหวังทั้งหมด เมื่ออุรุกวัยต้องกระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยน้ำมือของโปรตุเกส ปิดฉากการเล่นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายด้วยน้ำตาของหลุยส์ซัวเรซ และเนเธอร์แลนด์ก็ดวลลูกโทษที่จุดโทษแพ้อาร์เจนตินาไปในรอบ8ทีม ปิดฉากการคุมทีมครั้งสุดท้ายของหลุยส์ฟานกัล ทำให้เหลือแต่ฝรั่งเศสกับประธานเอ็มบับเป้ (นักเตะที่ชอบที่สุดต่อจากหลุยส์ซัวเรซ) แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง แม้ประธานเป้จะเก่งแค่ไหน ทำแฮตทริกในรอบชิง ยิงประตูรวม8ลูกในฟุตบอลโลก2022 แต่ด้วยความเหนียวของมาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูอาร์เจนตินา ทำให้ฝรั่งเศสแพ้จุดโทษอาร์เจนตินาในรอบชิงชนะเลิศ ตามรอยเนเธอร์แลนด์ไป ปิดฉากการค้าแข้งของนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลอย่างลิโอเนลเมสซี่ด้วยการคว้าแชมป์โลกกับอาร์เจนตินา ทั้งที่ปีก่อนก็เพิ่งคว้าแชมป์โคปาอเมริกาไป เหมือนบทเขียนมาให้เมสซี่จริงๆ ถามว่าปีนี้เสียใจมั้ย ก็เสียใจอยู่ แต่คงไม่เท่าครั้งก่อนๆ อาจเพราะด้วยวัยที่โตขึ้น และพบกับความผิดหวังในชีวิตมามากมายแล้ว ทำให้แข็งแกร่งขึ้น ยินดีกับเมสซี่ด้วยจริงๆครับ