หนังสารคดีทาง Netflix ที่หยิบเอาเคสคดีความ ระหว่างผู้ชายคนนึงกับบริษัทเครื่องดื่มระดับโลก ที่กลายเป็นคดีตัวอย่างคดีนึงสำหรับ ผู้เรียนกฎหมายของอเมริกา
การแข่งขันเครื่องดื่มน้ำดำ ระหว่าง เป็ปซี่ และ โคคาโคล่า ที่เหมือนสงครามทางการตลาดย่อมๆ แน่นอนว่า การโฆษณา โปรโมชั่น ย่อมเป็นเครื่องมือสำคัญในการ เข้าถึงลูกค้า
แต่เมื่อ เป็ปซี่ทำโปรโมชั่น โดยโฆษณาว่า คุณสามารถสะสมคะแนนเพื่อแลกเครื่องบินรบแฮริเออร์ และคุณก็อยากได้ จนคุณหาลู่ทาง จนสามารถได้คะแนนตามที่โฆษณาไว้ได้จริงๆ แล้วคุณจะทำยังไงเมื่อ เป็ปซี่มาบอกว่า นั่นมันแค่มุขตลกในโฆษณาเท่านั้น
และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ระหว่าง เด็กหนุ่มคนนึง กับ บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่มีเส้นสายมากมายทั้งในทางกฎหมายและทางการเมือง
หนังสารคดี 4 ตอนจบ ที่ให้คุณได้พบกับผู้เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ทั้งฝ่ายหนุ่มที่สะสมคะแนน และฝ่าย คนของเป็ปซี่ รวมถึงผู้ที่ทำโฆษณาจนเป็นรื่องราว
แม้ว่าจะเป็นหนังสารคดี แต่การดำเนินเรื่องก็สามารถสร้างอารมณ์ให้เรารู้สึกสู้ไปกับเด็กหนุ่มได้ ถึงแม้ว่าจะเรื่องราวนี้จะเป็นการสู้กันทางคดีความ แต่ในหนังก็ไม่ได้พูดถึงข้อกฎหมายมากมายนัก หนังจะเน้นไปที่ ประสบการณ์ของเด็กหนุ่ม ความรู้สึกของคนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ รวมถึง มิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างการต่อสู้ คนที่ไว้ใจได้หรือไว้ใจไม่ได้ การตัดสินใจเฉพาะหน้าที่ไม่รู้ว่าผิดหรือถูก
เป็น ภาพยนตร์ สารคดีอีกเรื่อง ที่ดูจบแล้วรู้สึก อิ่มเอมใจ เพราะบางทีผลลัพท์ที่ได้ มันอาจจะอยู่ระหว่างทางที่เราเินมา มากกว่าปลายทางก็ได้
เฮ้ เป็ปซี่ เครื่องบินฉันอยูที่ไหน
การแข่งขันเครื่องดื่มน้ำดำ ระหว่าง เป็ปซี่ และ โคคาโคล่า ที่เหมือนสงครามทางการตลาดย่อมๆ แน่นอนว่า การโฆษณา โปรโมชั่น ย่อมเป็นเครื่องมือสำคัญในการ เข้าถึงลูกค้า
แต่เมื่อ เป็ปซี่ทำโปรโมชั่น โดยโฆษณาว่า คุณสามารถสะสมคะแนนเพื่อแลกเครื่องบินรบแฮริเออร์ และคุณก็อยากได้ จนคุณหาลู่ทาง จนสามารถได้คะแนนตามที่โฆษณาไว้ได้จริงๆ แล้วคุณจะทำยังไงเมื่อ เป็ปซี่มาบอกว่า นั่นมันแค่มุขตลกในโฆษณาเท่านั้น
และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ระหว่าง เด็กหนุ่มคนนึง กับ บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่มีเส้นสายมากมายทั้งในทางกฎหมายและทางการเมือง
หนังสารคดี 4 ตอนจบ ที่ให้คุณได้พบกับผู้เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ทั้งฝ่ายหนุ่มที่สะสมคะแนน และฝ่าย คนของเป็ปซี่ รวมถึงผู้ที่ทำโฆษณาจนเป็นรื่องราว
แม้ว่าจะเป็นหนังสารคดี แต่การดำเนินเรื่องก็สามารถสร้างอารมณ์ให้เรารู้สึกสู้ไปกับเด็กหนุ่มได้ ถึงแม้ว่าจะเรื่องราวนี้จะเป็นการสู้กันทางคดีความ แต่ในหนังก็ไม่ได้พูดถึงข้อกฎหมายมากมายนัก หนังจะเน้นไปที่ ประสบการณ์ของเด็กหนุ่ม ความรู้สึกของคนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ รวมถึง มิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างการต่อสู้ คนที่ไว้ใจได้หรือไว้ใจไม่ได้ การตัดสินใจเฉพาะหน้าที่ไม่รู้ว่าผิดหรือถูก
เป็น ภาพยนตร์ สารคดีอีกเรื่อง ที่ดูจบแล้วรู้สึก อิ่มเอมใจ เพราะบางทีผลลัพท์ที่ได้ มันอาจจะอยู่ระหว่างทางที่เราเินมา มากกว่าปลายทางก็ได้