14 ธ.ค. 2565 - 20:26 น.
ผอ.โรงเรียน เผยคำพูด ด.ญ.7 ขวบชวนขนลุก ระหว่างพ่อมาหาแล้วคลั่งกอดแน่นร้องไห้โฮ ก่อนครูจะปฏิบัติการณ์ตามแผนที่เคยซ้อมเผชิญเหตุ ส่งสัญญาณให้ครูพานักเรียนหนี
วันที่ 14 ธ.ค.2565 จากกรณีชาย อายุ 35 ปี ซื้อพิชซ่ามาเยี่ยมลูกสาววัย 7 ชวบ นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนในพื้นที่อำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ แล้วเกิดอาการคลั่งกอดลูกแน่นร้องไห้โฮภายในห้องเรียนของลูก ท่ามกลางความตกใจของครูและเพื่อนนักเรียน ก่อนครูประจำชั้นจะปฏิบัติการตามแผนที่เคยซ้อมเผชิญเหตุ แจ้งตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์ เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.30 น.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเรื่องนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า ครูต้องให้ชายที่ก่อเหตุ เข้ามาเพราะเป็นผู้ปกครองเด็ก แต่ครูต้องเฝ้าระวังซึ่งครูประจำชั้นก็ได้ทำตามขั้นตอน หลังจากพ่อของเด็กเริ่มมีอาการคุ้มคลั่ง ครูประจำชั้นได้แยกเด็กออกไปจากห้องนั้นทันที จากนั้นได้สั่งให้ครูนักเรียนชั้นอนุบาลเอาเด็กทั้งหมดไปรวมกันที่อาคารเอนกประสงค์
โดยให้เหตุผลเด็กว่าจะไปทำกิจกรรม ระหว่างนั้นได้มีการประสานกับตำรวจไว้แล้ว เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ไม่เกิดเหตุร้ายแรง แต่หากไม่มีการวางแผนหรือเกิดการล่าช้ามากกว่านี้อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ โดยเฉพาะคำพูดของเด็กที่พูดออกมาระหว่างที่พ่อฟูมฟายว่า “หนูยังไม่อยากตาย” คาดว่าพ่อคงอาจจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ลูกต้องพูดคำนั้นออกมา
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7414213
ชวนขนลุก! ผอ.เผยคำพูดนร.หญิง 7 ขวบ พูดกับพ่อคลั่ง ตร.ชาร์จระทึกห้องเรียน
14 ธ.ค. 2565 - 20:26 น.
ผอ.โรงเรียน เผยคำพูด ด.ญ.7 ขวบชวนขนลุก ระหว่างพ่อมาหาแล้วคลั่งกอดแน่นร้องไห้โฮ ก่อนครูจะปฏิบัติการณ์ตามแผนที่เคยซ้อมเผชิญเหตุ ส่งสัญญาณให้ครูพานักเรียนหนี
วันที่ 14 ธ.ค.2565 จากกรณีชาย อายุ 35 ปี ซื้อพิชซ่ามาเยี่ยมลูกสาววัย 7 ชวบ นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนในพื้นที่อำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ แล้วเกิดอาการคลั่งกอดลูกแน่นร้องไห้โฮภายในห้องเรียนของลูก ท่ามกลางความตกใจของครูและเพื่อนนักเรียน ก่อนครูประจำชั้นจะปฏิบัติการตามแผนที่เคยซ้อมเผชิญเหตุ แจ้งตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์ เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.30 น.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเรื่องนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า ครูต้องให้ชายที่ก่อเหตุ เข้ามาเพราะเป็นผู้ปกครองเด็ก แต่ครูต้องเฝ้าระวังซึ่งครูประจำชั้นก็ได้ทำตามขั้นตอน หลังจากพ่อของเด็กเริ่มมีอาการคุ้มคลั่ง ครูประจำชั้นได้แยกเด็กออกไปจากห้องนั้นทันที จากนั้นได้สั่งให้ครูนักเรียนชั้นอนุบาลเอาเด็กทั้งหมดไปรวมกันที่อาคารเอนกประสงค์
โดยให้เหตุผลเด็กว่าจะไปทำกิจกรรม ระหว่างนั้นได้มีการประสานกับตำรวจไว้แล้ว เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ไม่เกิดเหตุร้ายแรง แต่หากไม่มีการวางแผนหรือเกิดการล่าช้ามากกว่านี้อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ โดยเฉพาะคำพูดของเด็กที่พูดออกมาระหว่างที่พ่อฟูมฟายว่า “หนูยังไม่อยากตาย” คาดว่าพ่อคงอาจจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ลูกต้องพูดคำนั้นออกมา
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7414213