สวัสดีค่ะวันนี้เราขอมาแชร์เคล็ดลับในการหายเป็นฝ้า ที่แม่เราทำแล้วหายมาให้ทุกคนอ่านกัน แต่ขอเล่าก่อนเลยว่า แม่เราเป็นมนุษย์ป้าที่ยังทำงานออฟฟิศทั่วไปอยู่นี่แหละ มีลูกมีภาระก็เลยยังต้องทำงานแหละค่ะ แต่คือก็โหมงานหนักมาก แต่ละวันกว่าจะได้กลับบ้านก็คือดึกแล้ว เป็นพวกแบบบ้างาน ถ้างานไม่เสร็จดีก็ยังไม่กลับ กลับมาถึงบ้านทีไร อาบน้ำเสร็จปุ๊ป หัวถึงหมอนก็คือหลับเลย แม่เราก็เลยไม่มีเวลาดูแลตัวเอง บวกกับการที่พอว่างๆแม่เราก็ชอบไปทำกิจกรรม outdoor บ่อย เช่น ปลูกต้นไม้ทำสวนบ้าง หรือ บางทีก็มีไปตีกอล์ฟกับพ่อบ้าง คงเป็นเพราะแม่เรามีพฤติกรรมแบบนี้สะสมบ่อยๆจนนานๆเข้ามันเลยเป็นฝ้าอยู่ที่หน้านี่แหละค่ะ
        คืออย่างที่เห็นกันแบบในรูปนี่แหละค่ะ แม่เราเป็นฝ้าที่ไม่ได้เยอะมากขนาดนั้น แต่คือมีกระจายๆอยู่ค่อนข้างทั่วหน้าเลย แม่เราชอบพูดว่ารู้สึกหมดความมั่นใจไปนิดนึงเลย อย่างเวลาช่วงสิ้นปี ทางฝั่งครอบครัวเราก็จะมีงานปาร์ตี้ปีใหม่ทุกปี คล้ายๆงานรวมญาติเลยนั่นแหละ แม่เราก็ต้องไปทุกรอบ เวลาไปงานทีไร เจอพวกญาติๆทีไรนะ เขาก็ชอบเข้ามาแซว มาแขวะแม่เราบ้าง ว่าแบบโห..เป็นผู้หญิงยังไง ทำไมหน้าถึงเป็นฝ้าได้ ไม่เห็นจะสวยเลย ส่วนบางคนก็ถึงขั้นพูดว่า เป็นฝ้าแบบนี้ไม่อายบ้างหรอ สามียังจะรักไหมเนี่ย แม่เราฟังแล้วแบบจุกนะ แม่เราแบบเจ็บเลยแหละค่ะ ก็คิดดูสิ ขนาดแม่ไม่ได้เป็นเยอะขนาดนั้น แต่พวกญาติยังแซวขนาดนี้ แล้วนี่เป็นคนในครอบครัว ไม่คิดถึงใจ ไม่คิดถึงความรู้สึกแม่เรากันบ้างหรอ ถึงบางทีเขาอาจจะพูดเล่นๆ แต่คือก็ไม่โอเค พอพูดบ่อยๆเข้าทุกครั้งที่เจอ มันยิ่งทำให้แม่เราเสียความรู้สึก เสียความมั่นใจไปเลยนะ แม่เราเลยคิดว่ามันคงถึงเวลาจริงๆแล้วที่ต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองสักที ฝ้าจะได้หาย พวกญาติๆทั้งหลายมันจะได้เลิกแซว เลิกพูดจาแบบนั้นสักที
        แม่เราก็เริ่มจากหาข้อมูลตามในเน็ต หาอยู่หลายวันเลยนะ ว่าต้องทำยังไงบ้าง ดูไปดูมา ตามอ่านอยู่หลายโพสต์หลายกระทู้เลย ก็เห็นมีเขาแนะนำให้ลองซื้อครีม ซื้อพวกยามาทาเองดูก่อน ป้าก็เชื่อเลยซื้อมาตามที่เขาแนะนำกันเลย ตอนนั้นที่ซื้อมาใช้จะเป็นพวกครีมเซรั่มที่ทาลดฝ้าแล้วก็บำรุงหน้าไปด้วยในตัว แล้วก็เป็นยาทาลดฝ้ามาใช้ดูก่อน ใช้มาได้อยู่ประมาณ 2-3 เดือน มันก็ไม่เห็นจะหายดีอะไรเหมือนที่ใครเขาว่ากันเลย หรือมันคงขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าแต่ละคนด้วยมั้ง ทีนี้ก็เลยเลิกใช้ก่อนแล้วแม่เราก็ไปบ่นไปปรึกษาเพื่อนว่าควรจะรักษาหรือใช้ครีมใช้ยาอะไรดีถึงจะหาย เพื่อนแม่เราบอกว่าแค่ทายาทาครีมเฉยๆเอาไม่อยู่หรอกนะ เขาบอกให้แม่เราไปหาอ่านรีวิวดูเอาว่ารักษากับคลินิกไหนที่ดีจริงๆ แม่เราเลยไปเริ่มหาตามพวก pantip ตามเน็ตกับพวกคลิปรีวิวอะไรพวกนี้ ก็ใช้เวลาหาอยู่สักพักเลยนะ จนไปเจอคลินิกที่ใกล้บ้านที่น่าสนใจ ก็คือธาดาคลินิก แม่เราเลยเลือกที่จะรักษากับที่นี่ค่ะ เพราะ ในพวกรีวิวตามเน็ตเขาบอกกันว่าที่นี่รักษาหายได้จริงๆค่ะ
        พอไปถึงคลินิกคุณหมอก็จะตรวจเช็คประเมินสภาพผิวหน้า ดูสภาพฝ้าของแม่เรว่าเป็นยังไงบ้าง แล้วคุณหมอก็จะอธิบายพวกสาเหตุการเกิดฝ้าและจะแนะนำวิธีในการรักษาที่เหมาะกับสภาพฝ้า รวมไปถึงสภาพผิวหน้าแม่เราให้เลยทีเดียว ของแม่เราคุณหมอแนะนำว่าให้ทำpeelingก่อน เห็นว่าเป็นสูตรเฉพาะของธาดาคลินิกเลยนะ จะเป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไปกับเอาพวกสิ่งสกปรกที่มันอุดตันอยู่ให้มันหลุดออกไปก่อน ซึ่งจะช่วยเผยผิวใหม่ให้ดูใสขึ้น ตอนทำpeelingนะ ค่อนข้างจะสบายหน้าเลยแหละ แต่บางทีก็แอบมีบ้างที่อุ่นๆร้อนๆหน้านิดหน่อย แต่หมอก็เอาเจลมาประคบเย็นให้ เย็นๆฟินๆดีนะ แป๊ปเดียวก็หายแล้วค่ะ หลังจากขั้นตอนนี้หมอแนะนำให้แม่เราทำเลเซอร์ที่ฝ้าโดยตรงไปเลย มันจะหายได้ไวกว่าเยอะมากเลยค่ะ ตอนแรกคือแม่เราแบบกลัวมาก กลัวเจ็บ ค่อนข้างเป็นคนขี้กลัวเลย แม่บอกว่าก็ไม่เคยทำอ่ะค่ะ55555 ยอมรับนะว่าตอนทำมันก็แอบมีเจ็บจี๊ดๆแต่แค่นิดเดียวแหละค่ะอารมณ์เหมือนประมาณว่ามดกัด55555 ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่เลยค่ะตรงนี้ รู้ตัวอีกทีก็เสร็จแล้ว  มากันที่ขั้นตอนสุดท้ายเป็นอะไรที่แม่เราชอบมาก เพราะ ฟินหน้าสบายหน้าสุดๆเลย คือ การมาส์กหน้านั่นเองค่ะ ก็จะช่วยบำรุงผิวหน้าหลังจากที่โดนการทำเลเซอร์กับpeelingมาค่ะ แล้วหมอก็มีนัดมาเช็คมาดูกันอีกเป็นระยะๆไปค่ะ หมอก็จะคอยดูแลจนกว่าเราจะหายเลย การมาหาหมอแต่ละครั้งจะรักษาเหมือนกันทุกครั้งเลยค่ะ พอแม่เรากลับมาบ้านก็คือยังต้องดูแลตัวเองอยู่นะ ตามที่หมอบอกก็คือต้องทาครีมบำรุงหน้า ทาครีมกันแดด ทายาลดฝ้า กลางคืนก็คือทาเหมือนกัน แต่จะเน้นเป็นพวกครีมบำรุงหน้าที่ลดฝ้าไปในตัว แล้วก็ทายาลดฝ้าค่ะ ต้องทาทุกวันนะ ต้องมีวินัยมันจะได้หายสักทีค่ะ อ้อ..ของป้ารักษาอยู่ประมาณ6เดือนได้ค่ะ อาศัยไปหาหมอตามที่หมอนัด แล้วก็ทายาทาครีมตามที่หมอแนะนำตลอดเวลา จนในที่สุดฝ้าแม่เราก็จางลงจนหายไปได้แล้วค่ะ
        แม่เราบอกว่าชอบมากเลยนะ รู้สึกว่าคิดถูกเลยที่ได้มารักษาที่คลินิกนี้ คือ หมอใส่ใจดูแลดีมาก หมอใจเย็นมากด้วย ที่สำคัญเลยคือรักษาแบบไม่เลี้ยงไข้เลย ดูแลให้คำปรึกษาตลอดจนฝ้าแม่เราหายดี ทีนี้แหละพอไปเจอญาติอีกครั้ง พวกนั้นก็ไม่กล้าแซวไม่กล้าว่าแม่เราแล้ว กลับกลายเป็นว่าเดินเข้ามาทักว่าหน้าสวยขึ้นนะ กลายเป็นว่ามาขอเคล็ดลับกับแม่เราซะมากกว่าค่ะ55555 ตอนนี้แม่เราคือระวังและดูแลตัวเองมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลย แม่เราฝากมาอยากบอกทุกคนว่าเวลาจะออกไปไหนคือต้องทากันแดดนะ ทาครีมทายาที่หมอบอกอย่าให้ขาดเลย ต้องจำให้ขึ้นใจเลย แล้วก็ต้องใส่ใจมากๆเลยในเรื่องการดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ