10 เหตุผลที่ทำให้คุณต้องหลงรัก Audemars Piguet
Audemars Piguet อีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกาหรู ผู้เป็นสมาชิก Holy Trinity of Haute Horlogerie ตั้งแต่ครั้งแรกเริ่มออกแบบนาฬิกาพกพา ตำแหน่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เพราะอะไร ไปดูกัน
Audemars Piguet อีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกาหรู ผู้เป็นสมาชิก Holy Trinity of Haute Horlogerie ตั้งแต่ครั้งแรกเริ่มออกแบบนาฬิกาพกพา ตำแหน่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เพราะนาฬิกาอันแสนล้ำสมัยจาก Vallée Joux ได้พิสูจน์ความเหนือชั้นทางเทคนิคอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมากด้วยเสน่ห์จากการออกแบบที่โดดเด่น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเหตุผลที่เรารัก Audemars Piguet นั้นมีมากมาย แต่ในวันนี้เรามาพร้อมกับอีก 10 เหตุผลทำให้คุณต้องตกหลุมรัก Audemars Piguet อย่างปฏิเสธไม่ได้
1. การผลิตที่ไม่ขึ้นตรงกับใคร
ตั้งแต่การก่อตั้งในปี 1875 จนถึงปัจจุบัน Audemars Piguet เป็นหนึ่งในบริษัทได้รับการดูแลภายใต้ครอบครัวผู้ก่อตั้งมาโดยตลอด ซึ่งสิ่งนี้จะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอนในอนาคต เพราะ Audemars Piguet ต้องการแสดงถึงจิตวิญญาณแห่งความเป็นอิสระ ซึ่งเรียกได้ว่าหายากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคปัจจุบันที่หลาย ๆ แบรนด์ต่างก็ต้องพึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ในการดูแลหรือถูกเปลี่ยนผ่านมือจากผู้ผลิตคนแรกมาเป็นคนใหม่ ซึ่ง Olivier Audemars รองประธานของ Audemars Piguet เคยกล่าวไว้ว่า
“Audemars Piguet เป็นมากกว่าบริษัท บริษัทยังคงเป็นอิสระจากมือผู้อื่นและยังคงเป็นมรดกของครอบครัวมาโดยตลอด ซึ่งเรารับผิดชอบในการถ่ายทอดความรู้และกรรมวิธีแก่คนรุ่นหลังไว้ ณ ที่นี้ ใน Le Brassus ที่ที่ซึ่งทุกอย่างเริ่มต้นในปี 1875”
นับว่าเป็นคำกล่าวที่แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนจากตำแหน่งของตนเองว่า Audemars Piguet นั้นยึดถือและให้ความเคารพต่อตัวเองอย่างไร และเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า Audemars Piguet เป็นผู้ผลิตนาฬิกาอันเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในยุคของเรา อีกทั้งยังเป็นสมาชิกที่ถูกต้องตามกฎหมายของ Holy Trinity ยิ่งตอกย้ำว่าสิ่งนี้จะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไปได้ง่าย ๆ
2. Gérald Genta และ Royal Oak
Gérald Genta ผู้โด่งดังและเป็นตำนานด้วยการเป็นที่รู้จักจากผลงานการออกแบบที่สะอาดตาและการตีความการออกแบบที่ล้ำสมัยกว่าใคร การสร้างสรรค์อันไร้ที่ติของเขาได้ดึงดูดใจผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาทั่วโลก อีกทั้งยังช่วยชีวิตให้หลายแบรนด์ไม่ต้องล้มเลิกกิจการ ซึ่ง Royal Oak Collection อันเลื่องชื่อมีต้นกำเนิดโดยตรงจากปลายปากกาของ Gérald Genta ในขณะที่นาฬิกาชื่อดังอีกเรือนหนึ่งของเขาอย่าง Patek Philippe Nautilus นั้นชวนให้นึกถึงช่องหน้าต่างเรือ แต่กลับกันการออกแบบ Royal Oak นั้นดันมีความคล้ายคลึงกันกับหมวกดำน้ำจากยุค 1920 ถึง 1930
ลายเซ็นของ Gérald Genta นั้นปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดในนาฬิกาทั้งสองรุ่น ไม่เพียงเพราะตัวเรือนและสายนาฬิกาที่ดูกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว แต่ยังเป็นเพราะ Genta ให้ความสำคัญกับการออกแบบของทั้งสองรุ่นด้วยธีมการเดินเรือ เขาสามารถผสมผสานลักษณะของธรรมชาติของการเดินเรือเข้ากับประวัติและความเป็นมาของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งท่านจะสังเกตเห็นความพิเศษนี้ได้ก็ต่อเมื่อมองหามันอย่างตั้งใจเท่านั้น วันนี้ Royal Oak Series เป็นหนึ่งในนาฬิกาข้อมือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกและสมควรที่จะได้รับรางวัลในลิสต์เหตุผลที่ทำให้เราหลงรัก Audemars Piguet
3. มูลนิธิ Audemars Piguet
“Watches for the protection of forests” หรือ “นาฬิกาผู้พิทักษ์ผืนป่า” คำขวัญของมูลนิธิ Audemars Piguet เพื่อดำเนินหลักการนาฬิกาควบคู่ความยั่งยืนของธรรมชาติ ซึ่งในปี พ.ศ. 2535 Jacques-Louis Audemars ได้ก่อตั้งมูลนิธินี้ขึ้นมาภายในบริษัท มูลนิธิแห่งนี้ทำงานอย่างหนักและไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อรักษาผืนป่าที่มีอยู่และผืนป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ทั่วโลกนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาที่ต้นตอของปัญหา อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมในหมู่คนหนุ่มสาว
ซึ่งทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้การนำของ Jasmine Audemars ผู้ดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิหรือบุตรสาวของ Jacques-Louis Audemars โดยองค์กรใช้ประโยชน์จากผลงานทางวิทยาศาสตร์ของ International Union for Conservation of Nature (IUCN) และอื่น ๆ มาเป็นกำลังในการดูแลผืนป่าต่าง ๆ ปัจจุบันองค์กรอนุรักษ์แห่งนี้ประกอบด้วยสมาชิกทั้งภาครัฐและเอกชนเกือบ 1,000 คนที่มุ่งมั่นที่จะปกป้องสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั่วโลก ด้วยการเล็งเห็นถึงความสำคัญและการตระหนักรู้ของบริษัทเกี่ยวกับความยั่งยืน จึงเป็นอีกหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Audemars Piguet ได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูง
4. The Beast: Audacity pays off
Royal Oak Offshore เป็นที่รู้จักในชื่อเล่นว่า “The Beast” เนื่องจากนาฬิการุ่นนี้เป็นนาฬิกาที่มีภาพลักษณ์ค่อนข้างจะดูชั่วร้าย ดุดันกว่ารุ่นอื่น ๆ เพราะ Royal Oak Offshore รุ่นนี้มีขนาดใหญ่กว่า หนักกว่า และดูใหญ่กว่า Royal Oak ยอดนิยมมาก Audemars Piguet คิดค้นนาฬิกาข้อมือแนวสปอร์ตรุ่นนี้ขึ้นใหม่โดยกล้าที่จะท้าทายกระแสนิยมทั้งหมดในขณะนั้น ความสำเร็จที่พวกเขาได้รับนับว่าเป็นเครื่องยืนยันว่าพวกเขาคิดถูก นาฬิกาข้อมือ Offshore ที่สะดุดตานี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คอนาฬิกา นอกจากนี้ Royal Oak Offshore Collection ยังทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการทดลองวัสดุและการออกแบบใหม่ ๆ อยู่เป็นประจำ ซึ่งเรียกได้เลยว่า Audemars Piguet ได้สร้างนาฬิกาที่ประสบความสำเร็จขึ้นมาอีกรุ่น ซึ่งทำให้เข้าใจความหมายของสมญานามอย่าง “เปรี้ยวจี๊ด” ได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
5. เป็นผู้สนับสนุนโรงละคร Bolshoi
โรงละคร Bolshoi ในตำนานเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานแห่งวัฒนธรรมนานาชาติ ตั้งอยู่กลางเมืองหลวงของรัสเซีย มีอายุยืนยาวหลายศตวรรษ ทันทีที่เริ่มมืด โรงละครทั้งหมดจะถูกอาบด้วยแสงสีทอง ทำให้ทั้งอาคาร ทุกสิ่งและทุกคนในบริเวณใกล้เคียงเปล่งประกายระยิบระยับ Audemars Piguet เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของโรงละคร Bolshoi ตั้งแต่ปี 2009 และในปี 2019 ยังเปิดตัวนาฬิการุ่นบางพิเศษในจำนวนจำกัดเพื่อเป็นเกียรติแก่ Bolshoi อีกด้วย
6. การสนับสนุนในโลกกีฬา
Audemars Piguet เป็นพันธมิตรกับผู้มีความสามารถพิเศษด้านกีฬามากมาย อีกทั้งแบรนด์ยังได้หนุนหลังนักเทนนิสชื่อดังอย่าง Stan Wawrinka และ Serena Williams แต่นอกจากทั้งคู่จะมีชื่อย่อที่เหมือนกัน ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่เหมือนกันคือทั้งคู่เป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่ดีที่สุดในโลกและพวกเขาพร้อมที่จะทดสอบขีดจำกัดของตัวเองเสมอ เช่นเดียวกับ Audemars Piguet ยังไม่รวมถึงนักกอล์ฟมากความสามารถอย่าง Darren Clarke, Trick-shot Tania Tare และ Viktor Hovland ผู้ซึ่งเป็นพันธมิตรกับแบรนด์เช่นกัน
7. ความรักในดนตรีและวัฒนธรรม
เทศกาลดนตรีอย่าง The Montreux Jazz จัดขึ้นที่ทะเลสาบเจนีวาเป็นประจำทุกปีเพื่อเฉลิมฉลองดนตรี ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลดนตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุโรป ตลอดระยะเวลา 16 วัน ศิลปินจากหลากหลายแนวดนตรีจะขึ้นแสดงใน 17 เวทีและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนด้วยดนตรีของพวกเขา แม้ว่าชื่อของเทศกาลจะบ่งบอกถึงการเน้นดนตรีแจ๊ส แต่กลับมีนักดนตรีหลากหลายแนวหมุนเวียนมาขึ้นเวที Audemars Piguet ทำหน้าที่เป็นหุ้นส่วนของ Montreux Jazz Festival ตั้งแต่ปี 2010 โดยสนับสนุนการพัฒนา Montreux Jazz Digital Project ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์คลังภาพถ่ายของเทศกาล ซึ่ง UNESCO ก็ยกให้คลังภาพถ่ายนี้ให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกสารคดีโลก
8. Haute Horlogerie & Haute Joaillerie
หากต้องการฝ่าฝืนกฎ คุณต้องเชี่ยวชาญกฎก่อน ตามสุภาษิตนี้ ช่างทำนาฬิกาที่ Audemars Piguet จึงเป็นหนึ่งในผู้ที่เก่งที่สุดในแวดวงของตน การเคลื่อนไหวจาก Le Brassus นั้นได้สร้างชื่อเสียงให้กับ Audemars Piguet ในโลกของ Haute Joaillerie ด้วยการสร้างผลงานชิ้นเอก เช่น นาฬิกา Sapphire Orbe ประดับด้วยอัญมณีมีค่ามากกว่า 12,000 เม็ด ต้องใช้กลเม็ดเด็ดพรายมหาศาลและความเชี่ยวชาญหลายปี อัญมณีทุกเม็ดได้รับการเจียระไนและประกอบด้วยมือของ Audemars Piguet ทุกชิ้น แสดงให้เห็นถึงทักษะในด้านนี้อย่างแท้จริงด้วยนาฬิกาหลากหลายรุ่นที่ประดับด้วยอัญมณีล้ำค่า และหากคุณเคยมีโอกาสได้ชมเพชรจำนวนมากเช่นนี้ด้วยตัวเอง คุณจะเข้าใจว่าทำไมนี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ Audemars Piguet ได้รับความนิยม
9. ตัวแทนแห่ง Art Basel
ด้วยแนวคิดที่ต้องการจะสร้างพื้นที่อันสามารถก่อกำเนิดแรงบันดาลใจให้กับผู้มาเยือน Audemars Piguet ได้สร้าง Collectors Lounge ในเมืองฮ่องกง บาเซิลและหาด Miami ตั้งแต่ปี 2013 โดยดำรงฐานะเป็นหนึ่งในพันธมิตรระดับโลกของนิทรรศการศิลปะ Art Basel ซึ่งมีศิลปินหลากหลายนำผลงานไปจัดแสดงในพื้นที่รอบ ๆ Collectors Lounge อยู่เสมอ ๆ
10. นาฬิกาพกพาแสนคลาสสิก Audemars Piguet Classique
ด้วยศิลปะ การเสาะแสวงหาความสมบูรณ์แบบและจิตวิญญาณแห่งความเป็นอิสระของแบรนด์ที่สะท้อนให้เห็นใน Classique Collection อันประกอบด้วยนาฬิกาพกโดยเฉพาะ เป็นการระลึกถึงนาฬิกาเรือนแรกที่แบรนด์ผลิตขึ้น แม้ว่านาฬิกาพกจะไม่เป็นไปตามกระแสนิยมในปัจจุบันและมีแนวโน้มที่จะก้าวล้ำไปจากบรรทัดฐานเดิม แต่เราก็รู้สึกขอบคุณ Audemars Piguet ที่อนุรักษ์ประวัติศาสตร์ชิ้นนี้ไว้ให้เราได้สัมผัส เรียกว่านาฬิกาพกใน Classique Collection คือประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตของ Audemars Piguet เลยก็ว่าได้
ทำไมถึงแพง? มาดู 10 เหตุผลที่จะทำให้คุณต้องหลงรักนาฬิกา Audemars Piguet (AP)
Audemars Piguet อีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกาหรู ผู้เป็นสมาชิก Holy Trinity of Haute Horlogerie ตั้งแต่ครั้งแรกเริ่มออกแบบนาฬิกาพกพา ตำแหน่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เพราะอะไร ไปดูกัน
Audemars Piguet อีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกาหรู ผู้เป็นสมาชิก Holy Trinity of Haute Horlogerie ตั้งแต่ครั้งแรกเริ่มออกแบบนาฬิกาพกพา ตำแหน่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เพราะนาฬิกาอันแสนล้ำสมัยจาก Vallée Joux ได้พิสูจน์ความเหนือชั้นทางเทคนิคอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมากด้วยเสน่ห์จากการออกแบบที่โดดเด่น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเหตุผลที่เรารัก Audemars Piguet นั้นมีมากมาย แต่ในวันนี้เรามาพร้อมกับอีก 10 เหตุผลทำให้คุณต้องตกหลุมรัก Audemars Piguet อย่างปฏิเสธไม่ได้
1. การผลิตที่ไม่ขึ้นตรงกับใคร
ตั้งแต่การก่อตั้งในปี 1875 จนถึงปัจจุบัน Audemars Piguet เป็นหนึ่งในบริษัทได้รับการดูแลภายใต้ครอบครัวผู้ก่อตั้งมาโดยตลอด ซึ่งสิ่งนี้จะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอนในอนาคต เพราะ Audemars Piguet ต้องการแสดงถึงจิตวิญญาณแห่งความเป็นอิสระ ซึ่งเรียกได้ว่าหายากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคปัจจุบันที่หลาย ๆ แบรนด์ต่างก็ต้องพึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ในการดูแลหรือถูกเปลี่ยนผ่านมือจากผู้ผลิตคนแรกมาเป็นคนใหม่ ซึ่ง Olivier Audemars รองประธานของ Audemars Piguet เคยกล่าวไว้ว่า
“Audemars Piguet เป็นมากกว่าบริษัท บริษัทยังคงเป็นอิสระจากมือผู้อื่นและยังคงเป็นมรดกของครอบครัวมาโดยตลอด ซึ่งเรารับผิดชอบในการถ่ายทอดความรู้และกรรมวิธีแก่คนรุ่นหลังไว้ ณ ที่นี้ ใน Le Brassus ที่ที่ซึ่งทุกอย่างเริ่มต้นในปี 1875”
นับว่าเป็นคำกล่าวที่แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนจากตำแหน่งของตนเองว่า Audemars Piguet นั้นยึดถือและให้ความเคารพต่อตัวเองอย่างไร และเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า Audemars Piguet เป็นผู้ผลิตนาฬิกาอันเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในยุคของเรา อีกทั้งยังเป็นสมาชิกที่ถูกต้องตามกฎหมายของ Holy Trinity ยิ่งตอกย้ำว่าสิ่งนี้จะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไปได้ง่าย ๆ
2. Gérald Genta และ Royal Oak
Gérald Genta ผู้โด่งดังและเป็นตำนานด้วยการเป็นที่รู้จักจากผลงานการออกแบบที่สะอาดตาและการตีความการออกแบบที่ล้ำสมัยกว่าใคร การสร้างสรรค์อันไร้ที่ติของเขาได้ดึงดูดใจผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาทั่วโลก อีกทั้งยังช่วยชีวิตให้หลายแบรนด์ไม่ต้องล้มเลิกกิจการ ซึ่ง Royal Oak Collection อันเลื่องชื่อมีต้นกำเนิดโดยตรงจากปลายปากกาของ Gérald Genta ในขณะที่นาฬิกาชื่อดังอีกเรือนหนึ่งของเขาอย่าง Patek Philippe Nautilus นั้นชวนให้นึกถึงช่องหน้าต่างเรือ แต่กลับกันการออกแบบ Royal Oak นั้นดันมีความคล้ายคลึงกันกับหมวกดำน้ำจากยุค 1920 ถึง 1930
ลายเซ็นของ Gérald Genta นั้นปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดในนาฬิกาทั้งสองรุ่น ไม่เพียงเพราะตัวเรือนและสายนาฬิกาที่ดูกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว แต่ยังเป็นเพราะ Genta ให้ความสำคัญกับการออกแบบของทั้งสองรุ่นด้วยธีมการเดินเรือ เขาสามารถผสมผสานลักษณะของธรรมชาติของการเดินเรือเข้ากับประวัติและความเป็นมาของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งท่านจะสังเกตเห็นความพิเศษนี้ได้ก็ต่อเมื่อมองหามันอย่างตั้งใจเท่านั้น วันนี้ Royal Oak Series เป็นหนึ่งในนาฬิกาข้อมือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกและสมควรที่จะได้รับรางวัลในลิสต์เหตุผลที่ทำให้เราหลงรัก Audemars Piguet
3. มูลนิธิ Audemars Piguet
“Watches for the protection of forests” หรือ “นาฬิกาผู้พิทักษ์ผืนป่า” คำขวัญของมูลนิธิ Audemars Piguet เพื่อดำเนินหลักการนาฬิกาควบคู่ความยั่งยืนของธรรมชาติ ซึ่งในปี พ.ศ. 2535 Jacques-Louis Audemars ได้ก่อตั้งมูลนิธินี้ขึ้นมาภายในบริษัท มูลนิธิแห่งนี้ทำงานอย่างหนักและไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อรักษาผืนป่าที่มีอยู่และผืนป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ทั่วโลกนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาที่ต้นตอของปัญหา อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมในหมู่คนหนุ่มสาว
ซึ่งทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้การนำของ Jasmine Audemars ผู้ดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิหรือบุตรสาวของ Jacques-Louis Audemars โดยองค์กรใช้ประโยชน์จากผลงานทางวิทยาศาสตร์ของ International Union for Conservation of Nature (IUCN) และอื่น ๆ มาเป็นกำลังในการดูแลผืนป่าต่าง ๆ ปัจจุบันองค์กรอนุรักษ์แห่งนี้ประกอบด้วยสมาชิกทั้งภาครัฐและเอกชนเกือบ 1,000 คนที่มุ่งมั่นที่จะปกป้องสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั่วโลก ด้วยการเล็งเห็นถึงความสำคัญและการตระหนักรู้ของบริษัทเกี่ยวกับความยั่งยืน จึงเป็นอีกหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Audemars Piguet ได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูง
4. The Beast: Audacity pays off
Royal Oak Offshore เป็นที่รู้จักในชื่อเล่นว่า “The Beast” เนื่องจากนาฬิการุ่นนี้เป็นนาฬิกาที่มีภาพลักษณ์ค่อนข้างจะดูชั่วร้าย ดุดันกว่ารุ่นอื่น ๆ เพราะ Royal Oak Offshore รุ่นนี้มีขนาดใหญ่กว่า หนักกว่า และดูใหญ่กว่า Royal Oak ยอดนิยมมาก Audemars Piguet คิดค้นนาฬิกาข้อมือแนวสปอร์ตรุ่นนี้ขึ้นใหม่โดยกล้าที่จะท้าทายกระแสนิยมทั้งหมดในขณะนั้น ความสำเร็จที่พวกเขาได้รับนับว่าเป็นเครื่องยืนยันว่าพวกเขาคิดถูก นาฬิกาข้อมือ Offshore ที่สะดุดตานี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คอนาฬิกา นอกจากนี้ Royal Oak Offshore Collection ยังทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการทดลองวัสดุและการออกแบบใหม่ ๆ อยู่เป็นประจำ ซึ่งเรียกได้เลยว่า Audemars Piguet ได้สร้างนาฬิกาที่ประสบความสำเร็จขึ้นมาอีกรุ่น ซึ่งทำให้เข้าใจความหมายของสมญานามอย่าง “เปรี้ยวจี๊ด” ได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
5. เป็นผู้สนับสนุนโรงละคร Bolshoi
โรงละคร Bolshoi ในตำนานเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานแห่งวัฒนธรรมนานาชาติ ตั้งอยู่กลางเมืองหลวงของรัสเซีย มีอายุยืนยาวหลายศตวรรษ ทันทีที่เริ่มมืด โรงละครทั้งหมดจะถูกอาบด้วยแสงสีทอง ทำให้ทั้งอาคาร ทุกสิ่งและทุกคนในบริเวณใกล้เคียงเปล่งประกายระยิบระยับ Audemars Piguet เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของโรงละคร Bolshoi ตั้งแต่ปี 2009 และในปี 2019 ยังเปิดตัวนาฬิการุ่นบางพิเศษในจำนวนจำกัดเพื่อเป็นเกียรติแก่ Bolshoi อีกด้วย
6. การสนับสนุนในโลกกีฬา
Audemars Piguet เป็นพันธมิตรกับผู้มีความสามารถพิเศษด้านกีฬามากมาย อีกทั้งแบรนด์ยังได้หนุนหลังนักเทนนิสชื่อดังอย่าง Stan Wawrinka และ Serena Williams แต่นอกจากทั้งคู่จะมีชื่อย่อที่เหมือนกัน ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่เหมือนกันคือทั้งคู่เป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่ดีที่สุดในโลกและพวกเขาพร้อมที่จะทดสอบขีดจำกัดของตัวเองเสมอ เช่นเดียวกับ Audemars Piguet ยังไม่รวมถึงนักกอล์ฟมากความสามารถอย่าง Darren Clarke, Trick-shot Tania Tare และ Viktor Hovland ผู้ซึ่งเป็นพันธมิตรกับแบรนด์เช่นกัน
7. ความรักในดนตรีและวัฒนธรรม
เทศกาลดนตรีอย่าง The Montreux Jazz จัดขึ้นที่ทะเลสาบเจนีวาเป็นประจำทุกปีเพื่อเฉลิมฉลองดนตรี ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลดนตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุโรป ตลอดระยะเวลา 16 วัน ศิลปินจากหลากหลายแนวดนตรีจะขึ้นแสดงใน 17 เวทีและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนด้วยดนตรีของพวกเขา แม้ว่าชื่อของเทศกาลจะบ่งบอกถึงการเน้นดนตรีแจ๊ส แต่กลับมีนักดนตรีหลากหลายแนวหมุนเวียนมาขึ้นเวที Audemars Piguet ทำหน้าที่เป็นหุ้นส่วนของ Montreux Jazz Festival ตั้งแต่ปี 2010 โดยสนับสนุนการพัฒนา Montreux Jazz Digital Project ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์คลังภาพถ่ายของเทศกาล ซึ่ง UNESCO ก็ยกให้คลังภาพถ่ายนี้ให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกสารคดีโลก
8. Haute Horlogerie & Haute Joaillerie
หากต้องการฝ่าฝืนกฎ คุณต้องเชี่ยวชาญกฎก่อน ตามสุภาษิตนี้ ช่างทำนาฬิกาที่ Audemars Piguet จึงเป็นหนึ่งในผู้ที่เก่งที่สุดในแวดวงของตน การเคลื่อนไหวจาก Le Brassus นั้นได้สร้างชื่อเสียงให้กับ Audemars Piguet ในโลกของ Haute Joaillerie ด้วยการสร้างผลงานชิ้นเอก เช่น นาฬิกา Sapphire Orbe ประดับด้วยอัญมณีมีค่ามากกว่า 12,000 เม็ด ต้องใช้กลเม็ดเด็ดพรายมหาศาลและความเชี่ยวชาญหลายปี อัญมณีทุกเม็ดได้รับการเจียระไนและประกอบด้วยมือของ Audemars Piguet ทุกชิ้น แสดงให้เห็นถึงทักษะในด้านนี้อย่างแท้จริงด้วยนาฬิกาหลากหลายรุ่นที่ประดับด้วยอัญมณีล้ำค่า และหากคุณเคยมีโอกาสได้ชมเพชรจำนวนมากเช่นนี้ด้วยตัวเอง คุณจะเข้าใจว่าทำไมนี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ Audemars Piguet ได้รับความนิยม
9. ตัวแทนแห่ง Art Basel
ด้วยแนวคิดที่ต้องการจะสร้างพื้นที่อันสามารถก่อกำเนิดแรงบันดาลใจให้กับผู้มาเยือน Audemars Piguet ได้สร้าง Collectors Lounge ในเมืองฮ่องกง บาเซิลและหาด Miami ตั้งแต่ปี 2013 โดยดำรงฐานะเป็นหนึ่งในพันธมิตรระดับโลกของนิทรรศการศิลปะ Art Basel ซึ่งมีศิลปินหลากหลายนำผลงานไปจัดแสดงในพื้นที่รอบ ๆ Collectors Lounge อยู่เสมอ ๆ
10. นาฬิกาพกพาแสนคลาสสิก Audemars Piguet Classique
ด้วยศิลปะ การเสาะแสวงหาความสมบูรณ์แบบและจิตวิญญาณแห่งความเป็นอิสระของแบรนด์ที่สะท้อนให้เห็นใน Classique Collection อันประกอบด้วยนาฬิกาพกโดยเฉพาะ เป็นการระลึกถึงนาฬิกาเรือนแรกที่แบรนด์ผลิตขึ้น แม้ว่านาฬิกาพกจะไม่เป็นไปตามกระแสนิยมในปัจจุบันและมีแนวโน้มที่จะก้าวล้ำไปจากบรรทัดฐานเดิม แต่เราก็รู้สึกขอบคุณ Audemars Piguet ที่อนุรักษ์ประวัติศาสตร์ชิ้นนี้ไว้ให้เราได้สัมผัส เรียกว่านาฬิกาพกใน Classique Collection คือประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตของ Audemars Piguet เลยก็ว่าได้