12 ธันวาคม 2565...
ประเด็นดราม่า
การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022
ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และ
กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.
กับ การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท.
หลังจาก
กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม
เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส.
ได้อนุมัติเงิน 600 ล้านบาท
เพื่อสนับสนุนถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022
แต่สุดท้าย กกท.กลับยกเลิกและไปทำบันทึกข้อตกลงร่วมอีกอัน ที่ให้ exclusive right กับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE
และได้ยื่นศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ
ออกคำสั่งห้าม AIS Playbox ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก และ กล่องไอพีทีวี “จอดำ”
รวมไปถึงจานดาวเทียม
ล่าสุด ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต หนึ่งในกรรมการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โพสต์บัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว Pirongrong Ramasoota ว่า จะไม่โพสต์ประเด็นบอลโลก ระหว่าง กสทช. กับ กกท. แล้ว
เพราะกำลังเป็นเรื่องราวทางกฎหมาย
และไม่อยากมีส่วนไปกระพือดราม่า
แต่ในฐานะของกสทช. ที่กำกับดูแลกิจการโทรทัศน์ และเป็นเสียงส่วนน้อย
ที่ไม่ได้อนุมัติการสนับสนุนเงิน 600 ล้าน
เพื่อซื้อลิขสิทธิ์บอลโลกมาตั้งแต่ต้น
มีสองประเด็นที่คิดว่า
น่าจะต้องสร้างความกระจ่างคือ
1. ในการรับเงินสนับสนุนเงินจากกองทุน กทปส. 600 ล้านบาท กกท. มีหน้าที่ต้องบริหารจัดการให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ทุกประเภทของ กสทช.
ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกได้
และ กกท. ก็รับทราบก่อนการทำ MOU และ
การลงนามใน MOU ที่รับการสนับสนุนแล้วว่า กสทช. มีเงื่อนไขสำคัญเกี่ยวกับกฎ must have / must carry
ส่วนหนึ่งเพราะ กกท. เคยมีประสบการณ์บริหารสิทธิ์การถ่ายทอดกีฬาโอลิมปิคที่ ครม.ได้อนุมัติหลักการให้ กกท. ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนการกีฬา (50%) ให้มาขอรับ
การสนับสนุนเงินจากกองทุน กทปส. (50%)
ซึ่งในครั้งนั้น กกท. ก็ได้รับการสนับสนุนไป
เช่นเดียวกับครั้งนี้ (แต่ครั้งนี้ไม่มีมติครม.)
และทราบเงื่อนไขสำคัญนี้ ของ กสทช.
เป็นอย่างดี ซึ่ง กกท. ก็สามารถทำตามกฎ
ทั้ง 2 ได้โดยเรียบร้อยทุกแพลตฟอร์ม
ออกอากาศได้หมด (ยกเว้น OTT ที่ กสทช.
ไม่มีขอบเขตอำนาจกำกับดูแล)
ดังนั้น การที่ กสทช. ให้การสนับสนุนไป
โดยเสียงข้างมาก ก็เข้าใจว่า กกท. จะสามารถดำเนินการให้ผู้รับใบอนุญาตออกอากาศ
ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
การไปทำข้อตกลงหรือสัญญาใดๆตามมา
ที่ขัดแย้งกับ MOU ที่ได้ทำมาก่อนหน้า
แม้จะอ้างข้อจำกัดใดๆ หรือความเห็นใดๆ
ที่ไม่ได้ปรากฎเป็นลายลักษณ์อักษร
ย่อมไม่มีประเด็นให้หักล้างความไม่ชอบธรรมทางกฎหมายได้
2.ในประเด็นที่กสทช. มีมติให้ สำนักงาน กสทช. แจ้งให้ กกท. ปฎิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไขใน MOU และหากไม่ดำเนินการโดยทันที
กสทช. จะดำเนินการแจ้งยกเลิกการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2022 (รอบสุดท้าย)
และให้กกท. คืนเงินสนับสนุนที่ได้รับไว้ทั้งหมดคืนแก่สำนักงาน กสทช. ภายใน 15 วัน
นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือนั้น
เหตุที่ กสทช. ต้องดำเนินการเช่นนี้
เนื่องจากเงิน 600 ล้านบาท เป็นเงินของรัฐ
ที่กองทุน กทปส. จะต้องใช้จ่ายให้เป็นไป
ตามวัตถุประสงค์
ซึ่งแต่แรก ความเห็นส่วนตัวเราเห็นว่า
ยังไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การจ่ายเงินจากกองทุนอย่างชัดเจน จึงมีความเห็น
เป็นเสียงข้างน้อยที่จะไม่ให้การสนับสนุน
อย่างไรก็ดี กสทช.เป็นการทำงานในรูปแบบองค์กรกลุ่ม มติจึงต้องเป็นไปตามเสียงข้างมาก และเมื่อได้สนับสนุนออกไปแล้ว ปรากฎว่า
การใช้จ่ายไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์
ของ MOU จึงมีการออกมติตามมาดังข้างต้น
ในความเห็นส่วนตัว มองว่า ณ จุดนี้ ความเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตาม MOU ได้บังเกิดแล้ว การจะยกประโยชน์ให้ฝ่ายที่ละเมิด MOU กับ กสทช. และยังไม่รวมสิทธิประโยชน์อื่นๆ
ที่เป็นผลพวงตามมาย่อมไม่เป็นการเยียวยาความเสียหายใดๆ และไม่สามารถลบล้างเจตนาที่จะละเมิด MOU กับ กสทช. ซึ่งสำเร็จเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่วันที่ไปลงนามใน MOU
กับผู้ประกอบการรายใหญ่
จึงเรียนมาเพื่อเป็นข้อมูลให้เกิดความกระจ่าง.
🧐 "พิรงรอง" ชี้ กกท. ฉีกเงื่อนไข MOU ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022
กสทช. จะดำเนินการแจ้งยกเลิกการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2022 (รอบสุดท้าย)
และให้กกท. คืนเงินสนับสนุนที่ได้รับไว้ทั้งหมดคืนแก่สำนักงาน กสทช. ภายใน 15 วัน
นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือนั้น
เหตุที่ กสทช. ต้องดำเนินการเช่นนี้
เนื่องจากเงิน 600 ล้านบาท เป็นเงินของรัฐ
ที่กองทุน กทปส. จะต้องใช้จ่ายให้เป็นไป
ตามวัตถุประสงค์
ซึ่งแต่แรก ความเห็นส่วนตัวเราเห็นว่า
ยังไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การจ่ายเงินจากกองทุนอย่างชัดเจน จึงมีความเห็น
เป็นเสียงข้างน้อยที่จะไม่ให้การสนับสนุน
อย่างไรก็ดี กสทช.เป็นการทำงานในรูปแบบองค์กรกลุ่ม มติจึงต้องเป็นไปตามเสียงข้างมาก และเมื่อได้สนับสนุนออกไปแล้ว ปรากฎว่า
การใช้จ่ายไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์
ของ MOU จึงมีการออกมติตามมาดังข้างต้น
ในความเห็นส่วนตัว มองว่า ณ จุดนี้ ความเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตาม MOU ได้บังเกิดแล้ว การจะยกประโยชน์ให้ฝ่ายที่ละเมิด MOU กับ กสทช. และยังไม่รวมสิทธิประโยชน์อื่นๆ
ที่เป็นผลพวงตามมาย่อมไม่เป็นการเยียวยาความเสียหายใดๆ และไม่สามารถลบล้างเจตนาที่จะละเมิด MOU กับ กสทช. ซึ่งสำเร็จเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่วันที่ไปลงนามใน MOU
กับผู้ประกอบการรายใหญ่
จึงเรียนมาเพื่อเป็นข้อมูลให้เกิดความกระจ่าง.