เมื่ออาแปะมองดูกัญชา..
มองในมุมสุขภาพกาย การแพทย์ ... มันบ่งบอกถึงการไม่เพียร"พยายาม"รักษาสุขภาพของตน,ของแต่ละคน เมื่อไม่"พยายาม"รักษาสุขภาพ ก็เป็นโรคร้ายต่างๆ ก็ต้องพึ่งยารักษา เสาะแสวงหายาเพื่อรักษาโรค แล้วก็ไปจับเอากัญชามาปั่น.. ยิ่งมีความต้องการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์มากมันก็บ่งบอกถึงสุขภาพที่ย่ำแย่ถดถอยลงของสังคมมนุษย์
มองในมุมเศรษฐกิจ ... กัญชามันทำให้คนเกียจคร้าน หนักไม่เอาเบาไม่สู้ อยากแต่เสพอารมณ์สุขจากกัญชา และประชากรวัยรุ่นเสี่ยงที่จะเสพติดกัญชาได้มาก นั่นหมายถึงประชากรในวัยที่กำลังเป็นอนาคตของชาติจะถูกลดทอนความสามารถลงไป
มองในมุมสุขภาพจิต ... มันบ่งบอกถึงการแก้ปัญหาทางอารมณ์และปัญหาทางใจไม่ถูกวิธี แทนที่จะแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันที่กระทบอารมณ์ด้วยสติและปัญญา กลับไปใช้กัญชาแทน กัญชามันหลอนประสาท ทำให้ผู้เสพ ไม่มองโลกตามที่เป็นจริง สร้างโลกส่วนตัวขังจิตใจตนเอง ไม่เกิดการเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาทางอารมณ์ในชีวิตประจำวันด้วยสติ แต่ไปใช้กัญชากลบเกลื่อนปัญหาค้างคาใจตนแทนสติปัญญา สุดท้ายผู้เสพกัญชาจนติดก็จะกลายเป็นปัญหาของครอบครัว เป็นปัญหาของสังคม เพราะหลงติดในโลกของตน ปัญหาทางอารมณ์และปัญหาทางใจก็ไม่ถูกแก้ มันก็เป็นปัญหาหมักหมมใจอยู่อย่างนั้น คุณภาพทางความคิดจิตใจอย่างเป็นเหตุเป็นผลก็เสื่อมถอยลงไปทุกวันๆ เพราะกัญชายิ่งเสพยิ่งทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ยิ่งมีการใช้กัญชามากมันก็บ่งบอกความเสื่อมถอยลงของจิตใจมนุษย์..
ดังนี้แล้ว อาแปะว่านโยบายเปิดกว้างเกี่ยวกับกัญชา ของพรรคการเมือง
เป็นนโยบายที่ขาดการไตร่ตรองถึงผลกระทบต่อคุณภาพของประชากร..
เป็นนโยบายที่ขาดการไตร่ตรองถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาว..
และเป็นนโยบายที่ขาดการไต่ตรองถึงผลกระทบด้านสุขภาพจิต ทั้งEQ และIQ ของประชากรในประเทศ..
มาร่วมไม่ไปด้วยกัญฯ กับอาแปะ...นะครับ..
มาร่วมร่วมกันต่อต้านกัญฯ ..
อมิตพุทธ..
สวัสดียามเช้า วันทำงานแรกของสัปดาห์..
อาแปะว่านโยบาย "กัญชา" จะมองมุมไหนมันก็เป็นกระจกสะท้อนความเสื่อมถอยลงของมนุษย์..
มองในมุมสุขภาพกาย การแพทย์ ... มันบ่งบอกถึงการไม่เพียร"พยายาม"รักษาสุขภาพของตน,ของแต่ละคน เมื่อไม่"พยายาม"รักษาสุขภาพ ก็เป็นโรคร้ายต่างๆ ก็ต้องพึ่งยารักษา เสาะแสวงหายาเพื่อรักษาโรค แล้วก็ไปจับเอากัญชามาปั่น.. ยิ่งมีความต้องการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์มากมันก็บ่งบอกถึงสุขภาพที่ย่ำแย่ถดถอยลงของสังคมมนุษย์
มองในมุมเศรษฐกิจ ... กัญชามันทำให้คนเกียจคร้าน หนักไม่เอาเบาไม่สู้ อยากแต่เสพอารมณ์สุขจากกัญชา และประชากรวัยรุ่นเสี่ยงที่จะเสพติดกัญชาได้มาก นั่นหมายถึงประชากรในวัยที่กำลังเป็นอนาคตของชาติจะถูกลดทอนความสามารถลงไป
มองในมุมสุขภาพจิต ... มันบ่งบอกถึงการแก้ปัญหาทางอารมณ์และปัญหาทางใจไม่ถูกวิธี แทนที่จะแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันที่กระทบอารมณ์ด้วยสติและปัญญา กลับไปใช้กัญชาแทน กัญชามันหลอนประสาท ทำให้ผู้เสพ ไม่มองโลกตามที่เป็นจริง สร้างโลกส่วนตัวขังจิตใจตนเอง ไม่เกิดการเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาทางอารมณ์ในชีวิตประจำวันด้วยสติ แต่ไปใช้กัญชากลบเกลื่อนปัญหาค้างคาใจตนแทนสติปัญญา สุดท้ายผู้เสพกัญชาจนติดก็จะกลายเป็นปัญหาของครอบครัว เป็นปัญหาของสังคม เพราะหลงติดในโลกของตน ปัญหาทางอารมณ์และปัญหาทางใจก็ไม่ถูกแก้ มันก็เป็นปัญหาหมักหมมใจอยู่อย่างนั้น คุณภาพทางความคิดจิตใจอย่างเป็นเหตุเป็นผลก็เสื่อมถอยลงไปทุกวันๆ เพราะกัญชายิ่งเสพยิ่งทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ยิ่งมีการใช้กัญชามากมันก็บ่งบอกความเสื่อมถอยลงของจิตใจมนุษย์..
ดังนี้แล้ว อาแปะว่านโยบายเปิดกว้างเกี่ยวกับกัญชา ของพรรคการเมือง
เป็นนโยบายที่ขาดการไตร่ตรองถึงผลกระทบต่อคุณภาพของประชากร..
เป็นนโยบายที่ขาดการไตร่ตรองถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาว..
และเป็นนโยบายที่ขาดการไต่ตรองถึงผลกระทบด้านสุขภาพจิต ทั้งEQ และIQ ของประชากรในประเทศ..
มาร่วมไม่ไปด้วยกัญฯ กับอาแปะ...นะครับ..
มาร่วมร่วมกันต่อต้านกัญฯ ..
อมิตพุทธ..
สวัสดียามเช้า วันทำงานแรกของสัปดาห์..