ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ กำลังจะแยกทางกับสามี ที่คบกันมาถึง 14ปี

ก่อนอื่นเลย เราอายุ 31 ปี แต่คบกับแฟนคนนี้มาเกือบครึ่งชีวิตได้เลยค่ะ คบกัน 12 ปี (อาศัยอยู่ด้วยกันก่อนแต่ง 3ปี)และแต่งงานกันได้ 2 ปี  และกำลังจะหย่าร้างเลิกลากันไป  
คือตอนคบเป็นแฟน แฟนเราค่อนข้างเป็นคนที่คล้อยตามเราทุกเรื่อง เชื่อฟังเราเป็นอย่างดีค่ะ  ซึ่งบ้านเราจะมีฐานะปานกลาง มีกินมีใช้ปกติ ไม่รวย ส่วนบ้านแฟนฐานะค่อนข้างแย่ค่ะ สมัยมหาลัยเค้าหยิบยืมเงินเราประจำ เพราะที่บ้านให้เงินมาบ้าง บางวันก็ไม่ให้บ้าง ซึ่งแม่แฟนเค้าไม่ได้ทำงาน เป็นแม่บ้านอยู่ทำงานบ้านเฉยๆในสมัยนั้น อาศัยเงินเดือนพ่อเค้าทางเดียว  เวลากินอะไร เที่ยวไหน เรามักจะเป็นคนออกเงินให้อยู่ตลอด บางทีไปบ้านเค้า ทั้งบ้านเค้าไม่มีตังติดตัวจะกินข้าวกันเลยบางที เราก็แสดงสปีริท ซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารให้กินเกือบทุกอาทิตย์ ช่วยล้างจาน เอาใจแม่แฟนกับแฟนมากๆ แต่บางครั้งการกระทำหลายๆอย่างในครอบครัวเค้า มันขัดใจเรามาก ตัวอย่างเช่น วันนั้นบังเอิญเค้าได้เงินญาติมา พอมีเงินอยู่ 4-5 ร้อยบาท เค้ากลับซื้อผ้าเช็ดตัวใหม่ ซึ่งในความคิดเรามองว่า ควรเก็บเงินสำรองไว้ใช้จ่ายที่จำเป็น และอีกในหลายๆเรื่อง เรื่องการบริหารการเงิน การเก็บเงิน  ซึ่งแฟนเราเค้าเห็นด้วยกับแม่เค้าแทบจะทุกเรื่อง บางทีเค้าเหมือนคนมีเหตุมีผล แต่การกระทำเค้าไม่เป็นไปตามปากเลยค่ะ
 
เราก็คบกันมา จนกระทั่งตอนเริ่มทำงาน พึ่งทำงานได้ปีแรกปีเดียว เราทำงานได้เงินเดือนสูงกว่า (6หมื่น++)  ส่วนแฟนเงินเดือน (9พัน) เราก็ไม่เคยดูถูกหรือบั่นทอนจิตใจอะไรเค้าเลยนะ แถมเราทั้งคู่ยังมีความคิดลงทุนหาขายของตลาดนัดกันด้วยค่ะ ซึ่งโดยส่วนตัวเราเงินเราพอใช้สบายๆแบบเหลือๆ แต่ทางเค้าก็คงอยากมีรายได้มากกว่านี้ เพื่อมาช่วยที่บ้านและพอมีเงินพาเราไปเที่ยวบ้าง  แต่มันไม่ง่ายแบบนั้นค่ะ บางครั้งเงินหมุนไม่ทัน ไปซื้อของแล้วสั่งของมาเกินงบ เค้าจะโทรมาขอเงินเรากระทันหันแบบเราปฏิเสธไม่ออก ครั้งละ 5พัน-2 หมื่น แต่เราก็ให้ทุกที แต่ก่อนจะให้เราก็มีปากเสียง กันตลอด จนบางครั้งเค้ามีน้อยใจไล่ให้เราเลิกกับเค้าไป เพราะเค้ามันจน อยู่กับเค้าต้องรับภาระเค้า ซึ่งเราว่าเราก็เป็นคนดีคนนึงเลยค่ะ ขี้สงสารเห็นใจ โทรไปขอโทษเค้า แถมโอนเงินให้เค้าอีกนะคะ  บางครั้งก้ได้คืน บางครั้งก็ลืมๆบ้าง แต่สุดท้ายการขายของของเค้ามันกลายเป็นธุรกิจครอบครัวเค้า แม่เค้ากับน้องชายเค้ามาช่วยขาย ในขณะที่บางครั้งเงินทุนหมุนไม่ทัน เค้าก็ยืมเรา  มีครั้งนึงเรากู้โลนมาใช้ชื่อเรา แต่เราวางแผนอยากไปใช้ชีวิตคู่กับเค้าสองคนที่เมืองนอก ซึ่งจะได้เงินเยอะกว่าที่ไทย  โดยเอาเงินสเตทเม้นไปใส่ให้บช เค้า เราย้ำกับเค้าตลอดเลยว่าห้ามกดมาใช้นะ  จนมารุ้ตอนหลังเค้ากดมาใช้ซื้อของจนหมด เงินหลักแสนเลยค่ะ

ซึ่งแฟนเราเค้าจะเป็นคนอยากได้อยากมีตลอด ไอโฟนนี่ 2 ปีเปลี่ยนรุ่นใหม่เป็นว่าเล่น ในขณะที่เราใช้เครื่องเดิมมา 5-6 ปี ไม่ค่อยอยากได้อยากมีอะไรกับเค้า เราก็มักเติมเต็มอยากให้แฟนสมหวัง ใจอ่อนพาไปซื้อทุกครั้ง เค้าบอกจะผ่อนเอง แต่ใช้บัตรเรารูดนะ เป็นแบบนี้บ่อย สุดท้ายเค้าก็ผ่อนแต่งวดแรกๆ หลังๆเราก้ผ่อนให้หมดทุกอย่าง จนลืมนับไปเลยค่ะ ว่ามียอดอะไรของเค้าบ้าง โลนเราก้ใช้เงินเราปิดเองด้วยนะคะ 
เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ ไปญี่ปุ่นเราอยากไปอะเน้อะ เค้าก้อยากไปแต่เค้าไม่มีตัง แล้วช่วงนั้นก้ออกงานประจำมาขายของอย่างเดียว ซึ่งแผงเล็กๆ เลี้ยงทั้งบ้านไม่ค่อยจะพอกันหรอกค่ะ เราก้ซัพพอร์ตเลี้ยงค่าตั้วค่าที่พัก ค่ากิน บลาๆพาไปญี่ปุ่น 
จนกระทั่งเค้ามาสมัครงานใหม่ ซึ่งแฟนเราคนนี้บุคลิกดีเลยค่ะ หน้าตาดี น้ำเสียงดี มารยาทดี เคยเป็นนายแบบด้วยนะคะ งานนี้ใช้บุคคลิก เค้าก้อัพเงินเดือนขึ้นมาหน่อย บางเดือนไเ่เป็นแสน บางเดือนได้ 2-3 หมื่น หรือบางเดือน หมื่นกว่า คือเงินเดือน 9 พันแต่มีค่าคอม ซึ่งรายได้ก้ไม่ค่อยแน่นอน แต่เฉลี่ยทั้งปีแล้วก้พอๆกัน ช่วงนี้เราไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเงินกันเท่าไหร่ค่ะ ช่วงนี้เรารู้สึกภูมิใจในตัวเค้า ที่เค้าทำงานได้ดี ประสบความสำเร็จระดับนึง เรารุ้สึกเหมือนเราพลักดันกับเค้าเยอะมาก ลุ้นกับเค้าในหลายๆเรื่อง ช่วยทั้งเงิน และแรงกาย พอรายได้เค้าเริ่มมี ช่วงนี้แม่เค้าเริ่มมาเจาะแจะ โทรยืมเงิน ลูกชายตลอด แซะขอนุ่นนี่ ตลอดเลยค่ะ ระหว่างนี้เราเคยบอกแม่เค้าเหมือนกันนะคะ ว่าแฟนเราเค้าเป็นหนี้เราหลักแสนเลย แต่ดูแม่เค้าไม่เห็นค่อยจะสนใจเรื่องหนี้ที่แฟนเค้าติดเราเลยค่ะ  ลืมบอกไประหว่างขายของ เราลงทุนขายเสื้อผ้าอีกล้อตให้แม่เค้าขายให้ค่ะ จ้างแม่เค้า ให้แม่เค้ามีเงินใช้ แต่เราลงทุนให้ จ่ายค่าล้อคให้ นี่เราเล่าไปก้คิดไปนะคะ ว่าเรานี้ประเสริฐเลยนะ บ้านเค้าฐานะพอมีจะกินได้ ก็น่าจะมาจากเราหลักๆเลยค่ะ  และแล้วโควิดก็มากระทบงานแฟนเรา ซึ่งแฟนเราได้แต่เงินเดือน 9 พันแถมจะลดเงินเดือนอีกค่ะ แฟนเราทำงานได้ 2 ปี และลืมบอกนะคะ เงินเดือนเราเยอะระดับนึง งานเราเอกชน ทำงาน 8โมงถึง 2ทุ่มเกือยทุกวัน แถมวันเสาร์ยังต้องเข้าโอ ซึ่งเราแบ่งเวลา ลงทุนขายของให้แม่เค้า และลงทุนขายของออนไลน์เอง ทำไปทำมา รายได้ก็พอได้มี ซึ่งประกอบกับแฟนเราก้แย่ค่ะ รายได้หด เค้าจึงตัดสินใจ ออกจากงานมาช่วยแพ็คของ ผ่านมาไม่กี่เดือนเราก้มีความเห็นจะออกจากงานมาทำกับแฟน เนื่องจากเราค่อนข้างยุ่งมาก อยากเอาดีธุรกิจส่วนตัว เพราะแฟนเค้าก้มีหน้าที่แพ้คตามออเดอร์อย่างเดียว และเราก้ย้ายบ้านกันด้วยค่ะ 

สุดท้ายเราย้ายบ้านมาอยู่อีกที่ และตัดสินใจแต่งงาน ซึ่งเราออกจากงานมา เราได้เงินกองทุนหลักแสนเลยค่ะ 3-4 แสน ทำงานมา 5ปี ที่เดียวยาวๆเลย เลยมีเงินติดตัวหลังจากออกงานมา ซึ่งแฟนเราไม่มีตังเหมือนเคยค่ะ ทำงานก้ไม่มีเงินเก็บ พอได้เงินมา ก้อยากได้แบรนเนม ซื้อใช้ 
เราก้ใช้เงินเราลงทุนซื้อของตุน ทำจริงจัง งานแต่งงานเราก้ใช้เงินเราจัดงาน บ้านแฟน กับแฟนเราไม่ช่วยออกสักบาท แต่เราก้ไม่คิดมากค่ะ 
บางทีไปกินเลี้ยงกับเพื่อนๆแฟน เค้าพาแฟนไปด้วยเค้าก้เลี้ยงแฟนกัน ในขณะที่เราเป็น ผญ เลี้ยงแฟน ผช ในกลุ่มเพื่อนของแฟนเราด้วยซ้ำ เป็นแบบนี้ตลอดจนกระทั่ง แต่งงานกันมา 2ปี ทำงานด้วยกัน ระหองระแหงทั้งเรื่องงาน ทั้งเรื่องเงิน บ้านแฟนก้โทรหยิบยืมแฟนตลอด แต่พักหลังเราไม่ค่อยรุ้หรอกค่ะ เค้าไม่ค่อยจะบอกเราเพราะกลัวมีปัญหา จนกระทั่งเราเห็นว่าเงินไม่เข้า บช เค้าเลย เราเลยจัดการให้เงินเข้า บช เค้าบ้าง เค้าพอมีสเตทเม้น เลยมี ธ.เสนอโลนให้ เราก้แนะนำให้เค้ารับไว้ เพื่อเกบไว้ช่วยสำรองธุรกิจเรา  แต่ๆเรื่องนี้ถึงหูแมีแฟนเราค่ะ  บอกแล้วแฟนเราจะมีอะไรไม่ได้เลยค่ะ แม่แฟนจะคอยสอบถาม เซาะแซะจนรุ้จนได้ แล้วเค้าก้กลอุบายขอลูกเพื่อไปใช้หนี้น้องชาย (น้าแฟน) ซึ่งเป็นหนี้เกิน 6ปีมาและ ซึ่งเราไม่คิดว่าแม่เค้าจะใช้น่าคืนด้วยซ้ำ 
พอบังเอิญเราได้รุ้ ซึ่งเค้าไม่ได้บอกเราก่อนนะ เรามารุ้ทีหลัง เราผรี้ดดแตกเลย โมโหมาก เพราะเราเป็นครอบครัวกันแล้ว เค้าไม่เคยคิดจะให้เราไเ้พึ่งพาหรือสบายใจเรื่องเงินบ้างเลยค่ะ พอมีเค้ากลับรีบหยิบยืมให้แบบไม่ยั้งคิด จริงๆจะทยอยให้ จะผ่อนให้ก้ได้ค่ะ แต่นี่ให้เป็นก้อนใหญ่ๆตู้มเดียว โดยที่เดือนต่อเดือนที่หลังแต่งกันมา เราก้มีให้เงินเดือนเค้านะ เค้าแทบจะไม่เคยเลี้ยงข้าวเราเลยสักครั้ง พอเหตุการณ์ที่ผ่านมา เราว่าแม่เค้าให้เค้าฟัง ว่าแม่เทอเป็นผู้ใหญ่ที่ทำไม่ถูกต้อง  เค้าปรี้ดดแตก โมโหเรามาก พูดกู ทำลายข้างของ เหมือนจะเข้ามาทำร้ายเราเลยค่ะ จนตอนนี้ เรากับแฟนไม่โดนตัวกัน ไม่ดีกัน มา 13 วันแล้ว และล่าสุด เค้าเริ่มพูดเรื่องแยกทาง และเค้าจะไปหางานทำ ก่อนทิ้งท้ายว่าที่เราว่าแม่เค้า เค้าไม่ชกเราก็ดีแค่ไหนแล้ว 
โอ้โกว เรานี่เสียใจสุดๆ  แม่เราก้พอรับรุ่เรื่องเรา ซึ่งแม่เราก้ไม่ค่อยรู้สึกดีสักเท่าไหร่ แต่แม่เราก้เป็นผู้ใหญ่และพยายามจะเป็นกลางค่ะ

เราวอนผู้รู้ว่า เรื่องนี้อเราผิดมากหรอค่ะ แต่ถ้าจะต้องเลิกเนาก้ยินดีที่จะต้องเป็นไปตามนั้น แต่เราอยากรู้ว่าเราดูเป็นคนแย่ขนาดนั้สเลยใช่ไหมต่ะ 
ขอความคิดเห็นทุนท่านด้วยนะคะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ มีตวามคิดเห็นเกี่ยวกับแม่แฟน และ แฟน และเราอย่างไร เชิญติ ขม ได่ตามจริงเลยค่ะ เราพร้อมอ่านทุกคอมเม้นต์
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
คุณผิดมากจริงๆค่ะ
กว่าเราจะอ่านจบ เรานี่ กลั้นหายใจหลายรอบมาก (อินไปหน่อย)

คุณเขียนกระทู้ได้ดีมากเลยนะคะ มีข้อความครบถ้วน ค่อยๆเฉลยสิ่งที่เราอ่านแล้วสงสัยออกมา
และตอนจบก็สมบูรณ์แบบ

ตอนนี้ เหลือแต่เรื่องอารมณ์ของคุณแล้วล่ะ คุณพร้อมแล้วถ้าจะต้องเลิกกัน …
ซึ่งตรงนี้ ขอให้จริงนะคะ  ต้องหนักแน่นนะ  ไม่ใช่พอเขามาง้อ คุณก็ใจอ่อนอีก

ท่องไว้นะคะ ถ้าคุณใจอ่อนอีก ยังยอมกลับไปคืนดี
แปลว่าคุณยังไม่หมดหนี้เวรหนี้กรรมกับเขา
แปลว่า คุณยอมเอง ที่จะ ให้คนบ้านนี้ “ทวงหนี้” เอากับคุณอีก  
เพราะฉะนั้นเขาทวงมาเท่าไหร่ อยากได้อะไรตอนไหน คุณ “ไม่มีสิทธิ์” ไปด่าแม่เขานะคะ

ที่เราว่าคุณผิด คือ ผิดตรงนี้ค่ะ ผิดตรงที่ “คุณยอมเขาเองตลอดมา”
14 ปี คุณหมดไปเท่าไหร่ ไม่เคยได้คืน แต่คุณกลับหลับหูหลับตา ทุ่มเทให้เหมือนคนไร้สติสัมปชัญญะขั้นสุด
ในเมื่อคุณ ให้ความ “เคยชิน” กับพวกเขาแบบนี้
แล้วจู่ๆ คุณไปตำหนิแม่เขา เรื่องพฤติกรรมเดิมๆ ที่แม่เขาทำ เขาถึงโกรธมากยังไงล่ะคะ

คุณมีเงิน เขาหล่อ คุณอยากจะเลี้ยงดูเขาและครอบครัวยังไงก็ได้ ไม่ผิดเลย
แต่ผิดตรงวิธีการที่คุณให้ คุณให้โดยที่เขาไม่เกรทฟูลกัน คุณให้ในฐานะ “ลูกหนี้” ไม่ใช่ให้ในฐานะ “ผู้มีบุญคุณ”
คุณผิด ตรงที่ เลือกให้คนผิด ค่ะ

เขายังมีหน้า มาบอกว่า ไม่ทำร้ายคุณก็บุญเท่าไหร่แล้ว  จำคำนี้ไว้ให้ขึ้นใจนะคะ
จำไว้ด้วยตอนเขาทำลายข้าวของ และ ตอนเขาโกรธจนฟิวส์ขาด กระทั่งเกือบจะทำร้ายคุณเข้า

เพราะเรามองว่า ไม่นาน เขาจะกลับมาง้อคุณ
คุณคือ หม้อข้าวหม้อน้ำของเขา เขาไม่คิดจะทุบหม้อข้าวตัวเองทิ้งหรอกค่ะ
เขาแค่คิดว่า จะควบคุมยังไง ให้คุณหุบปาก เลิกบ่น โอนทุกอย่างให้เขา และใช้หนี้แทนเขาแบบที่เคยเป็นมา

ถ้าว่าง …
ช่วงนี้ ลองนั่งเขียนบันทึกเล่นๆค่ะ อะไรที่เคยลืมไปแล้ว มันจะผุดขึ้นมา
ลองทำเป็นบัญชีรายจ่ายคร่าวๆ ดูว่า  กับผู้ชายคนนี้ คุณหมดไปเท่าไหร่ แล้วลองทำบัญชีรายรับเล่นๆดูว่า
คุณได้รับ “ความรัก” จากเขามาคุ้มค่าเงินที่คุณจ่ายออกไปหรือไม่

ลองทำดู ตัวเลข จะช่วยเป็นยันต์กันใจอ่อน ให้คุณอีกชั้นหนึ่งค่ะ

เทียน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่