คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 20
ขอบคุณทุกคนที่มาตอบกระทู้นี้นะคะ ไม่คิดว่าจะมีคนมาตอบ จริงๆทางเราก็ได้ขอโทษป้าเขาไปแล้ว ตอนที่บอกว่ามาจอดแค่แปปเดียวค่ะ เดี๋ยวก็ไปแล้ว แต่ที่มาตั้งกระทู้นี้เพราะเราข้องใจจริงๆค่ะ บัดนี้ก็กระจ่างแล้ว
แล้วก็ไม่ได้ถึงขั้นทะเลาะวิวาทอะไรกับป้าเขาด้วย เพราะพออธิบายไปแล้ว แกไม่ฟังเราก็ขึ้นรถไปเลย
ปล.ป้าไม่ได้อยู่บ้านฝั่งตรงข้ามนะคะ ป้าอยู่เลยที่จอดรถขึ้นมาอีก
ไม่แจ้งลบกระทู้นี้นะคะ คนอื่นที่ไม่รู้เหมือนกันจะได้อ่านแล้วทำความเข้าใจใหม่ค่ะ😊
แล้วก็ไม่ได้ถึงขั้นทะเลาะวิวาทอะไรกับป้าเขาด้วย เพราะพออธิบายไปแล้ว แกไม่ฟังเราก็ขึ้นรถไปเลย
ปล.ป้าไม่ได้อยู่บ้านฝั่งตรงข้ามนะคะ ป้าอยู่เลยที่จอดรถขึ้นมาอีก
ไม่แจ้งลบกระทู้นี้นะคะ คนอื่นที่ไม่รู้เหมือนกันจะได้อ่านแล้วทำความเข้าใจใหม่ค่ะ😊
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเลยใช้ Street View ตามรอยไปถึงตรงที่เจ้าของกระทู้จอดแล้วมีเรื่อง
ถึงได้พบว่าป้าคนนั้นคงเป็นป้าบ้านฝั่งตรงข้าม ซึ่งตรงที่คุณจอดมันพอดีกับมุมที่เค้าต้องเลี้ยวตีวง
ออกจากบ้านพอดีครับ ที่เค้าบอกว่าออกไม่ได้มันก็เรื่องจริงเพราะมันติดรถคุณครับ ลองกลับไป
ดู Street View โดยดูจากฝั่งหน้าบ้านเค้าดูอีกทีแล้วจะเข้าใจว่ากว่ารถจะเลี้ยวโดยไม่เบียดกับ
เสาประตูรั้วได้ก็เล่นไปเกือบครึ่งถนนแล้วครับ กลายเป็นว่าคนที่เอารถจอดในบ้านเดือดร้อน
เพราะตัวเองทำถูกไม่เอารถมาจอดกีดขวางบนถนนเลยโดดเบียดเบียนจากคนที่คิดว่าตัวเองถูกครับ
ถึงได้พบว่าป้าคนนั้นคงเป็นป้าบ้านฝั่งตรงข้าม ซึ่งตรงที่คุณจอดมันพอดีกับมุมที่เค้าต้องเลี้ยวตีวง
ออกจากบ้านพอดีครับ ที่เค้าบอกว่าออกไม่ได้มันก็เรื่องจริงเพราะมันติดรถคุณครับ ลองกลับไป
ดู Street View โดยดูจากฝั่งหน้าบ้านเค้าดูอีกทีแล้วจะเข้าใจว่ากว่ารถจะเลี้ยวโดยไม่เบียดกับ
เสาประตูรั้วได้ก็เล่นไปเกือบครึ่งถนนแล้วครับ กลายเป็นว่าคนที่เอารถจอดในบ้านเดือดร้อน
เพราะตัวเองทำถูกไม่เอารถมาจอดกีดขวางบนถนนเลยโดดเบียดเบียนจากคนที่คิดว่าตัวเองถูกครับ
ความคิดเห็นที่ 10
ผมไม่แปลกใจ เจ้าของกระทู้นะ
ถ้าคนบ้านนอก (ยึดตามที่บอกในกระทู้)
เขาจะค่อนข้างอยู่กันแบบไม่มีระเบียบ ทำอะไรก็ทำ อยากเสียงดัง เปิดเครื่องเสียงตอนไหนก็เปิด อยากจอดรถตรงไหนก็จอด เลี้ยงสัตว์ หมา แมว ปล่อยๆ เป็นเรื่องปกติ คือพูดง่ายๆ ว่าทำอะไรตามใจฉัน พอเข้ากรุงเทพฯ มาก็ต้องปรับตัวหน่อย นี่เขาก็ยังแค่แปะกระดาษเตือน คุยกันนิดๆ หน่อยๆ มันก็ธรรมดาแหละ นี่ถ้าคุณไปเจอพวกหัวร้อน ทุบรถ ขีดรถ หรือแกล้งอย่างอื่นอีกล่ะจะหนักกว่านี้
จากที่ผมเคยไปอยู่ต่างจังหวัดมา อยู่ได้แป๊บเดียว เผ่นกลับแทบไม่ทัน อยู่ไม่ไหวจริงๆ
ถ้าคนบ้านนอก (ยึดตามที่บอกในกระทู้)
เขาจะค่อนข้างอยู่กันแบบไม่มีระเบียบ ทำอะไรก็ทำ อยากเสียงดัง เปิดเครื่องเสียงตอนไหนก็เปิด อยากจอดรถตรงไหนก็จอด เลี้ยงสัตว์ หมา แมว ปล่อยๆ เป็นเรื่องปกติ คือพูดง่ายๆ ว่าทำอะไรตามใจฉัน พอเข้ากรุงเทพฯ มาก็ต้องปรับตัวหน่อย นี่เขาก็ยังแค่แปะกระดาษเตือน คุยกันนิดๆ หน่อยๆ มันก็ธรรมดาแหละ นี่ถ้าคุณไปเจอพวกหัวร้อน ทุบรถ ขีดรถ หรือแกล้งอย่างอื่นอีกล่ะจะหนักกว่านี้
จากที่ผมเคยไปอยู่ต่างจังหวัดมา อยู่ได้แป๊บเดียว เผ่นกลับแทบไม่ทัน อยู่ไม่ไหวจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 31
อยากให้ลบพิกัดออกค่ะ
ถ้าเราเป็นบ้านของคุณป้า เราอาจจะแจ้งความคุณค่ะ เพราะคุณกำลังละเมิดความเป็นส่วนตัวของเรา (ไม่รู้แจ้งได้ไหม) คุณจะจอดตรงไหนหรือมีเรื่องยังไงเราไม่รู้นะคะ แต่การเอา location บ้านคนอื่นมาลงในเน็ตเพื่อหาคำตอบมันสมควรทำจริงๆเหรอคะ?? ในเมื่อเรื่องก็จบไปแล้ว อย่างมากก็แค่วาดรูปก็พอนี่มาแบบ เห็นถนน ซอย พิกัดมาหมด
ถ้าวันนึงคุณอยู่ตรงนั้นแล้วคนแปลกหน้าเอาพิกัดต่างๆมาถาม ถึงขนาดบางคนไปดูใน google เองได้ คุณว่าตัวคุณโอเคไหม?? ให้คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักเป็นร้อยมาซูมบ้านคุณ
ปล. เราไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่ไม่โอเคที่แชร์ location
ถ้าเราเป็นบ้านของคุณป้า เราอาจจะแจ้งความคุณค่ะ เพราะคุณกำลังละเมิดความเป็นส่วนตัวของเรา (ไม่รู้แจ้งได้ไหม) คุณจะจอดตรงไหนหรือมีเรื่องยังไงเราไม่รู้นะคะ แต่การเอา location บ้านคนอื่นมาลงในเน็ตเพื่อหาคำตอบมันสมควรทำจริงๆเหรอคะ?? ในเมื่อเรื่องก็จบไปแล้ว อย่างมากก็แค่วาดรูปก็พอนี่มาแบบ เห็นถนน ซอย พิกัดมาหมด
ถ้าวันนึงคุณอยู่ตรงนั้นแล้วคนแปลกหน้าเอาพิกัดต่างๆมาถาม ถึงขนาดบางคนไปดูใน google เองได้ คุณว่าตัวคุณโอเคไหม?? ให้คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักเป็นร้อยมาซูมบ้านคุณ
ปล. เราไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่ไม่โอเคที่แชร์ location
แสดงความคิดเห็น
ดิฉันผิดมากหรือคะหรือคะหรือคะ??
เรื่องของเรื่องคือ เรามาจากโคราชไปหาและค้างกับเพื่อนอยู่ซอยนี้
ซึ่งมันไม่มีที่จอดรถ แล้วก็เห็นปกติเขาจอดกันข้างทางแบบนี้
เราก็จอดตามเขา ครั้งแรกเราจอดแบบเก๋งข้างมอไซร์เลย แต่แปปเดียว เสร็จแล้วออกไปกินข้าวกันแต่ตอนที่มาถึงครั้งแรกเราเห็นมีป้าคนนึงยืนอยู่หน้าบ้านแถวๆเก๋งค้นหลัง นี่ก็ไม่คิดอะไร คิดว่าเขาคงมารอคน แต่พอเพื่อนลงมาจากหอ เล่าว่าเคยมีเพื่อนที่ทำงานมาจอดแบบนี้ โดนเขียนกระดาษติดหน้ารถว่าห้ามจอด แฟนเราเลยโอเค ไม่เป็นไร เพราะคำนวณแล้วว่ารถเข้าออกได้ ไม่ขวางประตูบ้านใคร รถเราเป็น SUZUKI CELERIOน้องคันเล็กมากกก พอออกไปกินข้าวเสร็จกลับมามันดึกแล้ว เราก็ไม่ได้จอดที่เดิมเพราะ มีรถมอไซร์ที่พักหอนี้จอดเต็มยาวไปถึงกำแพงรั้ว เลยขับเข้าไปจอดข้างในอีก พอขับเข้าไปก็จะเห็นป้ายห้ามจอดขวางประตู ห้ามจอดหน้าบ้าน เราก็ขับเข้าไปลึกอีก ไปเจอแท็กซี่จอดอยู่ เลยจอดถัดต่อจากแท็กซี่
จอดประมาณตรงนั้น แล้วแถวนี้ไม่มีป้าย มีรถเข้าออกในหอพักนี้ แต่แฟนเราบอกว่า เขาออกได้ เพราะมันเหลือข้างหน้ากับข้างหลังเยอะมาก พอเช้ามาก็มีกระดาษ A4 (ดูใหม่)มาติดหน้ารถ ว่าห้ามจอด! เราก็ว่าไม่เป็นไรมาแค่วันเดียวก็กำลังจะกลับแล้ว เลยไม่อะไร เพราะรถในหอเขาก็ออกกันได้ ซักพักมีป้าอีกบ้านนึงออกมายืนดู แล้วเดินมาพูดกับเราที่รอขึ้นรถว่า ทีหลังอย่ามาจอดตรงนี้นะ รถเขาออกไม่ได้ เพื่อนเราเลยตอบว่า มาจอดแปปเดียวค่ะจะกลับแล้ว ป้าเลยว่าจอดแปปเดียวอะไรจอดทั้งคืน (ดิฉันคิดในใจ ป้าแกไม่นอนหรอ จ้องแต่จะจับผิด)
แฟนเราเลยสวนไปว่าใครออกไม่ได้ มันเหลือที่ตั้งเยอะครับ แล้วก็ตรงนี้ไม่เห็นติดป้ายก็เลยจอด ตอนจอดก็กะแล้ว ป้าเลยว่าไม่มีป้ายก็ต้องคิดได้ว่ามันจอดไม่ได้ คือคนอื่นเขาก็จอดกันอะ แล้วตรงนั้นมันก็ไม่ขวางใคร เลยไม่ตอบอะไร ปิดประตูรถออกมา แล้วก็ปล่อยให้ป้าแก ปสด.ไป คืองงว่าอยู่บ้านหาความสุขเฉยๆไม่ได้หรือไง ทำไมต้องมีคอยจับผิดคนนั้นคนนี้ เลยมาแชร์เผื่อใครเจอเหตุการณ์แบบเดียวกัน เผื่อเราเองที่ผิด บ้านนอกเข้ากรุงเนาะจ้า