สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงประมวลกฎหมายยาเสพติดที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปลายปี 2564 ทำให้อัตราโทษของการเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ลดลง ส่งผลให้ข้อหาเสพโคเคนของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส หมดอายุความลงไปโดยปริยาย
นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า หนึ่งในสองข้อหา ณ เวลาก่อนหน้านี้ ข้อหาของนายวรยุทธเหลือเพียง 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีอายุความ 15 ปี โดยนับเริ่มต้นตั้งแต่วันเกิดเหตุคือ 3 ก.ย. 2555 และคาดว่าจะขาดอายุความในวันที่ 3 ก.ย. 2570 ซึ่งเหลืออายุความประมาณ 5 ปี
ส่วนข้อหาที่ 2 ตามที่พนักงานอัยการสั่งฟ้องเพิ่มเติมหลังจากที่นำสำนวนมาตรวจพิจารณาสั่งใหม่ให้ดำเนินคดี ข้อเสพโคเคน ซึ่งเดิมไม่มี เป็นการสั่งไปตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ปี 2522 ที่บัญญัติไว้ในมาตรา 58 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ซึ่งหมายถึง "โคเคน" ด้วย ขณะที่ในมาตรา 91 ระบุว่า ใครก็ตามที่ฝ่าฝืนเสพยาเสพติดให้โทษตามมาตรา 58 ระวางโทษจำคุก 6 เดือนถึง 3 ปี หรือปรับ 10,000 - 60,000 บาท
ทำไมไม่มีสำนักข่าวไหนตามข่าวหรือสืบที่อยู่ บอสกระทิงแดงได้เลย
นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า หนึ่งในสองข้อหา ณ เวลาก่อนหน้านี้ ข้อหาของนายวรยุทธเหลือเพียง 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีอายุความ 15 ปี โดยนับเริ่มต้นตั้งแต่วันเกิดเหตุคือ 3 ก.ย. 2555 และคาดว่าจะขาดอายุความในวันที่ 3 ก.ย. 2570 ซึ่งเหลืออายุความประมาณ 5 ปี
ส่วนข้อหาที่ 2 ตามที่พนักงานอัยการสั่งฟ้องเพิ่มเติมหลังจากที่นำสำนวนมาตรวจพิจารณาสั่งใหม่ให้ดำเนินคดี ข้อเสพโคเคน ซึ่งเดิมไม่มี เป็นการสั่งไปตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ปี 2522 ที่บัญญัติไว้ในมาตรา 58 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ซึ่งหมายถึง "โคเคน" ด้วย ขณะที่ในมาตรา 91 ระบุว่า ใครก็ตามที่ฝ่าฝืนเสพยาเสพติดให้โทษตามมาตรา 58 ระวางโทษจำคุก 6 เดือนถึง 3 ปี หรือปรับ 10,000 - 60,000 บาท