คนไทยเวลาจะอวยใคร ไม่แพ้ใครบนโลกใบนี้

เรื่องเกี่ยวกับ ดร อาจองนี่ยังมีอีกเยอะนะ ตอนเด็กๆจ่าก็เคยปลื้ม ดร คนนี้เพราะเขาให้สัมภาษณ์ว่าไปคิดระบบไอพ่นฝักบัวลงจอดบนดาวอังครและปิ๊งไอเดียด้วยการนั่งสมาธิ 
พอโตขึ้น เอ๊ะ ทำไมข้อมูลมันเปลี่ยนไป ไอ้เรื่องฝักบัวไอพ่นยิ้มหายไปเฉย 
กลายเป็นว่า ดร อาจอง เป็นคนคิดระบบเซ็นเซอร์ลงจอดบนดาวอังคาร
เออ เอาก็เอาวะ ยังถือว่าเก่งระดับโลกอยู่
แต่ชักสงสัยว่าถ้าคนๆนี้เก่งจริง ทำไมหลังจากนั้นไม่มีผลงานใดๆ
ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาตร์ระดับโลก หรือระดับชาติบ้างเลยวะ
เห็นแต่เรื่องโรงเรียนไสบาบา กับพวกปิรามิดบ้าบออะไรนั่น
ก็เลยไปค้นข้อมูลไอ้ระบบจอดยานของยานไวกิ้งมาดู 

เจออะไรรู้มั้ยครับ ระบบลงจอดของยานไวกิ้งถูกพัฒนาโดยบริษัท Martin Marrietta 
เป็นการใช้เรดาร์ส่งคลื่นวิทยุลงไปยังพื้นดาวอังคารแล้วส่งสัญญาณกลับมา
เพื่อที่ว่าระบบแลนดิ้งจะได้สามารถกะระยะลงจอดได้ถูกต้อง และลงจอดได้อย่างนิ่มนวล
เพราะอุปกรณ์ในยาวไวกิ้ง มันเป็นพวกคอมพิวเตอร์ที่ใช้วิเคราะห์องค์ประกอบของหิน ดิน บนดาวอังคาร ถ้ากระทบกระเทือนมากอาจพังได้ ฟังดูแล้วเก๋ดีใช่มั้ยครับ ถ้าคนไทยคิดค้นระบบนี้
ประเด็นคือระบบนี้ทางนาซ่าเขาพัฒนาต่อยอดมาตั้งแต่สมัยโครงการอพอลโล ตั้งแต่ช่วงปี 60s แล้วว่ะครับ ไม่ใช่เทคนิคใหม่แต่ประการใด เขาพัฒนาปรับปรุงให้ประสิทธิภาพมันดีขึ้นมาเรื่อยๆ โดยไม่ต้องรอให้คนไทยคนนึงไปนั่งขัดสมาธิจนเกิดพุทธปัญญาแล้วสอนเขาหรอกนะ
อีกอย่างช่วงเวลาก็เป็นอะไรที่น่าสนใจ คือช่วงที่ ดร อาจองอ้างว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ เป็นช่วงสั้นๆตอนปลายโครงการ ก่อนปล่อยกระสวยแค่สองสามปี และแกก็พักงานสอนหนังสือที่เมืองไทยสองปี แล้วเดินทางไปอเมริกาเพื่อ "ดูงาน" นะครับ

ล่าสุดที่ประวัติ ดร อาจองไม่ว่าจะอ้างอิงจากแหล่งไหน ไม่มีการพูดถึงการทำงานที่นาซ่าอีกแล้ว
และเอกสารการพัฒนายานไวกิ้งของนาซ่าก็เปิดให้สาธารณะชนโหลดอ่านได้ตามสะดวก
ซึ่งแน่นอนว่า เอกสารหนาเตอะ ไม่มีชื่อของ ดร อาจอง ปรากฏแม้แต่คำเดียว

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่