รีวิว The cheese sisters สปอยแหลกและไม่อวย (6/10)

ออกตัวก่อนว่าคามิน้องปัญเลยจะพูดถึงตอน #นาวไอริน เยอะหน่อยนะคะ

พาร์ทแรก #ฝนเฟิร์น ไม่รู้จะรีวิวตอนนี้ยังไงไม่ให้ฟังดูแรงเกินไปแต่ถ้าให้พูดตรงๆคือเป็นตอนที่ไม่รู้จะชมเรื่องอะไรดีจริงๆ 
ทั้งบททั้งการกำกับไม่มีความเป็นธรรมชาติใดๆเลย ดูแล้วไม่เชื่อว่าคู่นี้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ
บทสนทนาระหว่างฝนเฟิร์นดูเก้กังและเงอะงะไปหมด การใส่คำหยาบมาให้เนยพูดก็ดูขัดกับน้ำเสียงและคาแรกเตอร์ของเฟิร์นในเรื่องเลย
ยิ่งทำให้การแสดงของน้องดูแปลกไปอีก เป็นพาร์ท30นาทีที่รู้สึกว่าน่าเบื่อและยาวนานมาก

พาร์ทสอง #นาวไอริน เป็นตอนที่อยากจะพูดว่า เสียดายที่สุด ก่อนไปดูมีอ่านรีวิวผ่านๆตามาบ้าง หลายคนบอกว่าตอนนี้ดูแล้ว
เขินเราก็งงว่าเขินกันตรงไหนวะเนี่ย แทบไม่มีซีนไหนเลยที่ทำให้เรารู้สึกว่าคู่นี้คิดกันเกินเพื่อน ไม่มีซีนจ้องตา หลบตา มองด้วย
ฟีลเขินๆหรือเริ่มคลั่งรักคือไม่มีอะ นึกไม่ออกจริงๆ ที่ชอบคือซีนที่แย่งกันทำชีสเพราะเล่นได้น่ารักน่าเอ็นดูกันดี กับซีนที่นาววิ่งมา
กอดไอรินแล้วพูดว่าคิดถึง ชอบน้ำเสียงของปัญในซีนนี้มากเพราะมันทำให้รู้สึกว่านาวคิดถึงไอรินมาตลอด 4 เดือนจริงๆ
มันมีความอ้อนวอน ความโหยหาที่ดูจะมากเกินเพื่อน แต่พอเอาโมเม้นท์นี้มาใส่โดยที่ไม่มีการปูทางมาเลยทำให้ตอนจบ
มันไม่อิมแพคอย่างที่มันควรจะเป็น ทำให้งงว่าบทของพาร์ทนี้คือฟีลเพื่อนสาวคนสนิทหรือแฟนกันแน่ การให้วีเรียกสองคนนี้ว่า
ผัวเมียแสดงว่ามันต้องเป็นพาร์ทฟีลแฟนแต่บทและการกำกับทำได้ไม่ถึง???
ที่พูดว่าเสียดายตอนนี้เพราะชอบโอชิเบะปจนมากทั้งๆที่ไม่ได้พายเรือนี้ ในเวลาแค่ 4 นาทีบนเธียเตอร์ มันมีทั้งสายตาคลั่งรัก หึงหวง
อ่อนหวาน และละมุนละไม เหมือนคู่รักที่แง้มบานประตูเล็กๆไว้ ให้เราได้เข้าไปแอบดูความสัมพันธ์ของคนสองคน ขอยกโอชิเบะ
ให้เป็นงานขึ้นหิ้งของสองคนนี้เพราะดูได้ไม่เบื่อจริงๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดายศักยภาพของน้องๆที่บทหนังพาไปได้ไม่ถึง

พาร์ทสาม #ปรางมิว เป็นพาร์ทที่บทดี การกำกับดี และการแสดงดีด้วย จะติดนิดนึงตรงที่ตัวละครปรางก็คือไพลินที่วาร์ปมาจาก 
one year เลย คือคาแรกเตอร์เดียวกันเป๊ะๆเลย พาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่ดูมีความเป็นภาพยนตร์คือมีเส้นเรื่องที่น่าสนใจแบบเอาไป
ต่อยอดเป็นหนังยาว 2 ชม.ได้ รู้สึกว่าน้องๆเล่นได้ดีแต่ก็ไม่ได้อินมากขนาดนั้นด้วยเวลาที่น้อยนิดทำให้ยังพาอารมณ์ไปได้ไม่สุด 
อีกอย่างที่สะดุดในพาร์ทนี้คือบทพูดโดยเฉพาะซีนทะเลาะกันกับซีนคุยกันตอนจบ เราว่าถ้าให้น้องๆอ่านบทแล้วพูดด้วยภาษาของ
ตัวเองมันน่าจะเข้าปากกว่า รู้สึกบทสนทนาไม่ค่อยธรรมชาติ

พาร์ทสี่ #แพทเมจิ เป็นอีกพาร์ทที่บทดี การแสดงใช้ได้(ชอบน้องคนิ้งเป็นพิเศษ) และเป็นตอนที่เด่นมากๆในด้านการกำกับ 
เป็นฟีลโรแมนติกคอมเมดี้ที่ทำได้ถึง มีซีนจ้องตา ซีนมองกันแล้วเขิน (ซีนพวกนี้แหละคือซีนที่ควรมีอยู่ในตอนของนาวไอรินบ้างแต่...T_T) 
จะมีขัดๆบ้างกับตอนจบที่สารภาพรักกัน ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ไม่ได้รู้สึกอิน อาจจะปัญหาเดียวกับตอนที่สามคือเวลาน้อยเกินที่จะทำให้
เราอินไปกับตัวละครได้

ภาพรวมก็ขอพูดตรงๆว่ายังไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ บางตอนก็มีปัญหาทั้งบททั้งการกำกับ ทุกตอนดูเร่งๆจนยากที่จะทำให้เรา
อินกับหนังได้ ใส่ดนตรีประกอบคลอตลอดเหมือนพยายามบิ้วให้เราอินกับหนัง(เยอะจนรู้สึกยัดเยียด) มีการเอาคาแรกเตอร์ปราง
มาเชื่อมเรื่องเข้าด้วยกัน ยิ่งซีนวีพูดเรื่องชีสแล้ว insert ภาพแต่ละพาร์ทเข้ามาคือไม่อินใหญ่เลย อีกอย่างควรทำหนัง
girl love ไปเลยทั้งสี่ตอน ไม่เข้าใจว่าจะทำแนวพลังเพื่อนหญิงเข้ามาทำไม
สุดท้ายแล้วสิ่งที่ชอบที่สุดของหนังเรื่องนี้คือเพลงประกอบกับไอ้โบ้จริงๆ

ปล. รู้สึกว่าอยากกลับไปฟังนาวพูดคำว่า คิดถึงงง อีกครั้ง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่