[ระบาย] รู้สึกแย่มาก เหมือนฉันเป็นซึมเศร้าแล้วถูกส่งตัวไปโรงบาลรัฐครังแรก

หากพันทิปนี้ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยทั้งสิ้นนะคะ
เกริ่นก่อนว่า ก่อนหน้าที่เราจะไปโรงบาลรัฐ เราได้เข้าไปทางสาธารณสุขก่อนค่ะ ตั้งแต่เดือนที่แล้ว พอไปและนัดครั้งถัดไป ซึ่งก็คือครั้งที่ไปมาวันนี้ เค้าบอกเราควรส่งตัวไปโรงบาลเลยค่ะ จากนั้นนักจิตวิทยาของสาธารณสุขจึงเขียนใบส่งตัวไปโรงบาลที่เรามีสิทธิ์ พร้อมยื่นซองๆหนึงมา โดยนักจิตกำชับว่าใบนี้ห้ามใครเปิดเด็ดขาดยกเว้นหมอที่เราจะไปเจอ
เราไปกับแม่สองคนค่ะ พอได้ใบอะไรต่างๆมาเสร็จแล้วเราก็นั่งรถเมลล์ไปโรงบาลที่ว่าต่อ ซึ่งก็คือโรงบาลรัฐแห่งหนึ่ง(ขอสงวนนาม) พอไปถึงก็ไปตรงเวชระเบียนก่อน แต่พอไปเค้าก็ไล่ให้ไปอีกที่คือตรงพยาบาลด้านหน้า พอไปหาพยาบาลด้านหน้าเค้าก็บอกให้ไปตรงนี้ๆๆๆ(จำไม่ค่อยได้แล้วค่ะ )พอไปตรงนี้ๆๆๆๆเค้าก็ไล่ให้ไปตรงนู้น วนลูปแบบนี้อยู่นานเลยค่ะ คือเหมือนแต่ละคนเค้าจะมีความรู้ในสถานที่ไม่เหมือนกันหรอคะ มาตรงนี้บอกอีกอย่าง มาตรงนู้นบอกอีกอย่าง เรากับแม่งงไปหมด เดินว่อนในโรงบาลจนขาเมื่อย
หลังจากเดินว่อนแทบตาย ถามพี่ยาม ในที่สุดเราก็มาถึงจุดจิตเวชค่ะ ซึ่งเห็นแม่บอกว่านักจิตวิทยาจากสาธารณสุขบอกว่าอาการจิตเวชสามารถรักษาที่ไหนก็ได้ไม่ต้องทำบัตรหรือไรซักอย่าง(ไม่แน่ใจนะคะ ความทรงจำเลือนลางมากเลย;_;)แต่เอาเป็นว่าเราควรจะได้รักษาภายในวันนี้อ่ะค่ะ มันควรจะเป็นอย่างนั้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ พอเราไปตรงจุดจิตเวช ก็ไม่ได้เข้าพบหมอทันที(อันนี้เข้าใจ) แต่ต้องไปหาป้าพนักงาน(หรือพยาบาลก็ไม่รู้แต่เค้าไม่ได้ใส่ชุดพยาบาลนะ)คนหนึงหน้าห้องหมอจิตเวช เพื่อขอเอกสารและซักถามอะไรก่อน และจู่ๆป้าแกก็ชี้ไปที่ซองในตอนแรกที่แม่ถือและบอกว่า'แกะซะ แกะออกให้หมด' เรากับแม่ก็พยายามบอกแล้วว่าซองนี่ให้คุณหมอแต่ป้าแกไม่ฟังบอกให้แกะๆๆๆๆ พอแกะออกปุ๊บในนั้นจะมีเอกสารสองชุดค่ะ ชุดแรกเป็นเอกสารทางการ บอกถึงข้อมูลส่วนตัวของเราและอาการเรา เราควรรักษาอะไรยังไงบลาๆๆๆ
แต่ที่เราอึ้งก็คือ อีกใบมันมี3แผ่น และเป็นใบที่เราเขียนระบายตอนได้คุยกับนักจิตวิทยาในสาธารณสุขค่ะ จังหวะนั้นเราอึ้งมาก แบบเห้ยมันความลับเราไม่ใช่หรอ แถมแม่อยู่อีก(และแม่เป็นคนแกะด้วย) แค่หน้าแรกมาเราก็พิมพ์หยิกๆๆๆไรเยอะแยะแล้วอ่ะคือเห็นหมดแล้วมั้ง เราก็พยายามจะบอกว่าใช่หรอทำท่าจะหยิบคืน(คือกลัวมาก นั่นความลับเราทั้งนั้นเลยนะ) แต่แม่บอกให้ป้าพนักงานไปให้เป็นเอกสารประกอบ เราก็งงอิหยังวะ แค่เอาใบทางการอันนั้นก็ได้แล้วป่ะใบที่เราเขียนเพ้อเขียนระบายมันควรจะเป็นความลับแค่กับเรา นักจิตวิทยา และคุณหมอที่จะพบไม่ใช่หรอคะ??? แล้วนี่อะไรอ่ะคะ ป้าพนักงานคนนั้นก็ดันหยิบไปอ่านเฉยเลย คือเราอายมากจะหยิบคืนก็โดนแม่ขวาง ปรากฏว่าโป๊ะแตกป้าแกบอกยังทำไม่ได้ให้ไปทำบัตรไรไม่รู้ ละก็ชี้ทาง พอไปก็สู่ลูปเดิมอีกแล้วอ่ะคือทางนั้นที่เราไปเค้าก็ไล่ให้มาอีกทางเช่นกัน เดินวนไปวนมาระหว่างตรงป้าพนักงานกับตรงนู้นตรงนี้ไปเรื่อย ละที่สำคัญคือ ทุกที่ๆไปแม่จะยื่นเอกสารทุกอย่างของเราให้พนักงาน พยาบาล หรือใครไม่รู้ที่ประจำที่ตรงนั้นหมด ใบระบาย บ่น และเพ้อของเราที่เกิดจากความทุกข์ถูกคนเป็นสิบอ่านอย่างสนุกสนาน
มีจังหวะหนึงเราทนไม่ไหวมากๆ ตอนนั้นกำลังเดินไปอีกจุดหนึง(ตามลูปที่ว่า เดินไปเดินมาเพราะแต่ละคนบอกทางกันมั่วซั่วงวยงงมาก) เราที่ทนไม่ไหวกับความอับอายของใบระบายนั้นจึงขอใบแม่คืนและจะหยิบจากมือแม่ สิ่งที่เกิดขึ้นคือแม่หันมาตะคอกใส่เราว่า'โอ้ยอะไรนักหนา เอาใบไปประกอบไง!!! แค่นี้ก็ยุ่งยากจะตายอยู่ละ' คือเราแบบบ ร้องไห้เลยอ่ะค่ะ แบบร้องไห้เลยจริงๆ(ดีที่แม่ไม่เห็น) คือเราเหนื่อยมากกับการมาหาหมอสวัสดิการโรงบาลรัฐ แล้วก่อนหน้านี้ก็เหนื่อยใจกับชีวิตมากอยู่แล้ว เรากลับต้องมากังวลและอับอายใบระบายที่คนเป็นสิบต้องมาอ่านทั้งๆที่ไม่จำเป็น แถมโดนแม่ตะคอกแบบโกรธอีก
เราเข้าใจแม่นะว่ามันก็เหนื่อยที่ต้องมาทำเรื่องลูกละมันยุ่งยากไปหมด แต่ทำไมต้องมาตะคอกใส่แรงกันขนาดนี้ด้วย แถมนั่นใบความลับในชีวิตเราด้วยซ้ำ บางเรื่องแม่ยังไม่รู้เลย แต่นี่แม่กลับจะเอาใบนั้นไปให้ใครก็ไม่รู้ที่ไม่ใช่แม้แต่หมอ ใบประกอบ? เอกสารสำคัญในการทำบัตร? ตรงไหน ใบระบายของเรามันเกี่ยวตรงไหน นักจิตวิทยาก็บอกเต็มปากว่า'แค่หมอ' แต่แม่กลับไม่เชื่อละเอาไปยื่นให้ทุกคนที่ไปซักถามทำเรื่อง ไม่ฟังเราด้วย
เราก็เดินไปร้องไห้ไปจนต้องฮึดไว้เก็บน้ำตาไว้เพราะคนมันเยอะด้วย ละเราก็เดินแบบเงียบๆในสภาพจิตใจแตกสลายทรุดโทรมมากไปทั้งอย่างงั้น(บางคนอาจจะมองว่าตลก เรื่องแค่นี้กังวลมากขนาดนี้ทำไม ส่วนตัวเราเป็นคนคิดมากอยู่แล้วค่ะ กังวลทุกเรื่อง และเซนซิทีฟมากๆ เรื่องนี้จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเรามากๆไป)
และปรากฏพีคในพีคอีก คือ1.เราพบหมอวันนี้ไม่ได้คิวเต็ม ต้องหาวันธรรมดามาใหม่เพื่อนัด ซึ่งเราเลือกพรุ่งนี้เพราะกีฬาสีพอดีไม่ได้แข่งไรด้วย แต่ถึงอย่างงั้นเราก็ยังต้องลาการไปรร.(ถึงแม้ปกติจะไม่ได้ชอบไปรร.อยู่แล้วก็ตาม) 2.นัดแล้วอะไรแล้วนึกว่าเรื่องจะจบ ไม่จ้า ต้องไปทำเรื่องย้ายสิทธิ์ที่คลีนิค(ขอสงวนนาม) ละเรากับแม่ไม่ได้นั่งรถไปนะ เดินไป เกือบกิโล เพื่อไปคลีนิคที่ว่า ไปถึงนั่งรออีกครึ่งชั่วโมง(หรือนานกว่านั้น?) อากาศก็ร้อนอบอ้าว แอร์ไม่เย็น จนกล้ามเนื้อขาข้างซ้ายเราตึง ทรมานมาก.....
ก็นั่นแหละค่ะ พรุ่งนี้เราก็ต้องไปอีก ทั้งๆที่ไม่อยากไปแล้ว เราคิดด้วยซ้ำว่าตายไปแต่แรกเรื่องก็จบไปแล้วแท้ๆทำไมต้องมาทำเรื่องให้ยุ่งยากปานนี้ด้วย เหนื่อย ที่เราหนักใจและเศร้าสุดก็คงเป็นโดนคนเป็นสิบเป็นร้อยอ่านเอกสารระบาย3หน้าเต็มแผ่น(ละบางคนอ่านแบบตั้งใจอ่านจริงจังมาก ยกตัวอย่างเช่นพี่พนักงานในคลีนิค ใช่ค่ะ แม่ก็ยื่นใบระบายของเราให้พี่เค้าในคลีนิคด้วย...) และโดนแม่ตะคอกเพราะเราจะขอใบนั้นคืน... พรุ่งนี้แม่ก็บอกว่าให้เอาใบนั้นยื่นให้พยาบาลด้วยนะ(กลับบ้านมาเราขอคืนอีกครั้งเพราะทนไม่ได้จริงๆแม่ยอมคืนแต่เหมือนจะต้องยื่นอยู่ดีในวันพรุ่งนี้) เรานี่แบบ ท้อ เหนื่อย เหนื่อยมากๆเลยค่ะ พรุ่งนี้จะมีใครได้อ่านสิ่งที่เราระบายและความลับของเราอีกกี่คนก็ไม่รู้ ไม่อยากไปแล้วค่ะ เราไปเพื่อที่จะรักษาอาการให้ดีขึ้น แต่กลับรู้สึกแย่กว่าเดิมเพราะความเละเทะมั่วซั่วและยุ่งยากของโรงบาล ไหนจะความไม่รู้ของแม่และพี่ๆพนักงาน&พยาบาลจนแกะซองที่ควรยื่นให้แค่หมอไปอ่านกันและมันก็ไม่ใช่ความลับที่มีคนรู้ไม่กี่คนอีกต่อไป ทั้งอาย ทั้งเครียดร้องไห้((((
ปล.ขอความกรุณาทุกคนพิมพ์อย่างสุภาพและไม่รุนแรงด้วยนะคะ เราเปราะบางและเซนซิทีฟมากตอนนี้เพราะงั้นขอร้องนะคะ🥹
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่