ดิสแพทซ์ได้เผยบทสัมภาษณ์กับอดีตผู้จัดการของอีซึงกิ ที่เคยทำงานให้กับ Hook Entertainment ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดเผยว่าอีซึงกิไม่ได้รับค่าตอบแทนจากการทำเพลงของเขาเลย A นั้นส่วนมากจะดูแลอีซึงกิ และดาราคนอื่นด้วย แต่หลักๆคืออีซึงกิ
A ซึ่งตอนนี้ไม่ได้ทำงานเป็นผู้จัดการแล้ว เขาก็กล่าวว่า
"ผ่านไป20ปี ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย"
สิ่งหนึ่งคือ อีซึงกิต้องระวังการดื่มกาแฟร้านหรู เพราะควอนจินยอง(ซีอีโอค่าย) และเธอชอบโทรเรียกอีซึงกิไปสร้างความบันเทิงให้ตัวซีอีโอและเพื่อน
ห้องคาราโอเกะ
ควอนจินยองชอบไปดื่มกับเพื่อนของเธอดึกๆ แล้วจะโทรหาซึงกิกลางดึกให้เขาไปร้องเพลงที่คาราโอเกะ ถ้าคุณเดินถัดลงไปบล็อกหนึ่งด้านหลังชองดัมดง จะเจอห้องคาราโอเกะ นั้นแหละคาราโอเกะที่ควอนจินยองไปบ่อยๆ
จะมีเพื่อนของเธอในวงการสื่อด้วย ตอนนั้นบ้านซึงกิอยู่ซังกเย ซึ่งไกลมากจากกังนัม ตอนเช้าผมต้องไปรับเขา เขาดูเหนื่อยมาก จนต้องถามว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนเหรอ
เขาก็จะบอกว่า อ๋อออกไปข้างนอกตอนกลางดึกแปปนึงเมื่อวาน และบอกว่าที่ออกไปเพราะซีอีโอโทรเรียก ผมก็คิดว่าแค่นั้น จนได้มาได้ยินจากสไตลิสต์บริษัทว่าเขากินดื่มกันสนุกเลย แล้วโทรเรียกอีซึงกิไปร้องเพลงให้ฟัง
คิมบัป เฮฟเว่น
ผมได้อ่านบทความเมื่อวันก่อน ที่บอกว่าบริษัทให้ใช้เงินแค่สองหมื่นวอนเท่านั้นในบัตร ซึ่งก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ 20ปีที่แล้ว
ผมต้องรวมบิลกันไป ซึ่งควอนจินยองไม่ชอบใจ เอาแต่ถามอีซึงกิว่าทำไมนายกับทีมนายกินกันเยอะนัก ปกติเราจะได้เงินประมาณหนึ่งแสนห้าหมื่นวอน(ประมาณสี่พันยี่สิบบาทไทย) ในวันจันทร์สำหรับคนทั้งทีม ซึ่งประกอบไปด้วย ตัวอีซึงกิเอง และก็สไตลิสต์ของเขา
ตอนที่ถ่าย Nonstop 5 (ละครซิทคอมที่อีซึงกิร่วมแสดง) วันจันทร์จะอ่านบท วันอังคารกับพุธจะถ่ายนอกสถานที่ ส่วนวันพฤหัสจะถ่ายในร่ม ตอนนั้นอีซึงกิได้กินข้าวแต่ในร้านของกินเล่น แบบร้านคิมบัปเฮฟเว่น
เรากินข้าวแต่ในที่นั้น เพราะว่าจ่ายได้ เราต้องถ่ายซิทคอมแต่เช้าสามวัน ถึงยังงั้น อีซึงกิก็ยังถามแต่ว่า เรามีเงินเหลือพอซื้อข้าวไหมครับ บางทีผมก็จะถามว่าไปกินอะไรอร่อยๆกันไหม ซึงกิก็จะยื่นบัตรเขาเองให้เพื่อจ่าย
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่แย่สำหรับซึงกิเลย ครั้งนึงผมเคยไปทำงานกับโกฮยอนจอง ทีมเธอได้รับอนุญาตไปกินอาหารในร้านอาหารจีน เขาสั่งกันหกเจ็ดจานเพื่อเอามาแบ่งกันได้ แต่ละคนในทีมก็ได้รับอนุญาตสั่งอาหารในแต่ละจานได้
แน่นอนล่ะว่าความดังของอีซึงกิกับโกฮยอนจองต่างกันมาก ผมคิดเลยว่าเขากินอะไรที่เหมาะสมได้โดยไม่โดนบ่น ทำอะไรก็ได้โดยไม่โดนว่า แต่อีซึงกิต้องกินของทานเล่นตลอด แบบคิมบัป ถ้าเขาต้องออกไปทำงานแต่เช้า ก็จะขออนุญาตว่าขอกินคิมบัปสามเหลี่ยมได้ไหม
ตอนนั้นที่เขาเป็นเด็กใหม่ ซึงกิทำเงินไปได้ประมาณเจ็ดถึงแปดล้านวอน กับงานร้องเพลงในอีเว้นท์ ถ้าออกต่างจังหวัดนะ จะขึ้นเป็นเก้าถึงสิบล้านวอน เขาต้องออกงานอีเว้นต์สองสามงานต่อวัน แต่ละวันก็จะกินและหยุดพักตรงไฮเวย์ หรือบนรถ เขามักจะระมัดระวัง หรือบางครั้งก็ให้ผมเอาบัตรเขาไปซื้ออาหาร
ถ้าเงินค่าอาหารไม่พอนะ ควอนจินยองจะให้เพิ่มนิดหน่อย ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้น ที่เขาเริ่มทำเงินได้ล้านวอน เขาก็ยังกินแบบนั้น
เขาจะจ่ายเงินส่วนมากกับกาแฟ หรืออะไรเทือกนั้น ควอนจินยองก็จะถามว่าทำไมต้องกินสตาร์บัค สตาร์บัคจริงเหรอ และเพื่อไม่ให้มันลงไปในค่าใช้จ่าย ซึงกิจะเอาบัตรเขาให้ผมซื้อกาแฟ
คำพูดจาเหยียดหยาม
พอได้ยินเสียงอัดที่ควอนจินยองตะคอก นี่แหละสิ่งที่เกิดขึ้น 20ปีก่อน ตอนนั้น จะมีเสียงด่ากันไปมา ตอนนี้ถึงแม้ขนาดบริษัทจะเปลี่ยนไป แต่ผมรู้สึกว่าคนๆนี้ไม่เคยเปลี่ยนเลยสักนิด เธอพยายามทำให้ซึงกิดูแย่น่ะ ถ้าเขาเถียง เธอก็จะว่า ซึงกิ นั้นไงทำไมถึงทำไม่ได้ และที่ควอนจินยองชอบพูดนะคือ เป็นบ้าเหรอ
ซีอีโอควอนฝึกซึงกิหนักมากตั้งแต่ที่เขายังเด็กอยู่ ส่วนตัวซึงกิเองก็กระหาย เขามักจะพูดว่า ผมต้องทำแบบนี้แหละ ถึงจะประสบความสำเร็จแบบนี้ และผมคิดว่าชีวิตเขาก็ไปในทางนี้
ซึงกิจะไม่มีมือถือเลย จนกว่าจะถ่าย Nonstop 5 จบ เขาเลยใช้มือถือผมโทรและส่งข้อความแทน ไม่มีทางจะติดต่อเขาได้ ถึงเขาจะโตแล้ว
เหมือนดาราคนอื่นๆ เขาไม่สร้างปัญหา หรือเกเรเลยหลังจากไปดื่มกัน พอผมไปส่งเขา เขาชอบกลับบ้าน ฝึกซ้อม และอ่านบท ไม่ออกไปข้างนอกด้วยซ้ำ และก็ไม่มีมือถืออยู่ดี
เมื่อไหร่ที่มีคนพูดถึงซีอีโอควอนนะ เขาก็จะแบบ ขอตัว ตอนนี้เขาก็น่าจะเป็นแบบนั้นน่ะ เขาจะกังวลถ้าควอนโทรหาผม แล้วก็ไปที่อื่นเพื่อคุยโทรศัพท์ แล้วพอกลับมานะ สีหน้าจะไม่ดีเลย แต่ก็ต้องทำเป็นสดใส
และพอเขาทำอะไรสักอย่างแบบขึ้นแสดง ก็ชอบถามผมว่า เขาทำดีหรือยังวันนี้ ควอนจะโทรหาผมทันทีถ้าไม่ชอบใจอะไร และชอบจู้จี้ถ้าต้องคืนมือถือให้ซึงกิ
ตอนนั้นนะ ผมว่ามีเรื่องแน่ๆ เพราะเขาเป็นเด็กใหม่ แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาเกเรเลย
เงินซึงกิ แต่ควอนจินยองใช้
สิ่งที่ควอนปฏิบัติกับทีมเมเนกับอีซึงกิมันก็แบบเดียวกับ 20ปีก่อนมันน่าขนลุกนะ ผู้จัดการต้องส่งค่าใช้จ่ายในมื้ออาหารหนึ่งมื้อผ่านข้อความ คุณคิดเหรอว่าซึงกิจะใช้เงินสองหมื่นวอนในบัตรบริษัท เขาก็จะลืมซะเถอะ และใช้บัตรเขาเอง และพวกนั้นก็ยังทำแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ทำเงินให้เลยนะ
ผมว่าตอนนั้นควอนใช้รถจี๊ป เชอโรกี พอโปรโมทซึงกิ เธอก็เปลี่ยนมาใช้คาดีแลค เอสคาเลด พอซึงกิกำลังถ่าย Nonstop 5 อยู่นะ เธอก็เปลี่ยนรถมาเป็นคาร์ดีแลค แล้วก็เปลี่ยนเป็นพอร์ช
น่าขนลุกนะ ที่ทุกอย่างยังเหมือนเดิมเหมือน 20ปีก่อน
Eng trans: Koreanboo
https://www.koreaboo.com/news/dispatch-reveals-exclusive-interview-lee-seung-gis-former-manager-exposing-hooks-ceo-kwon-jin-young/
อดีตผู้จัดการอีซึงกิ เผยซีอีโอค่าย Hook ทำแย่ๆกับลีซึงกิหลายอย่างตั้งแต่เขาเป็นเด็กใหม่
ดิสแพทซ์ได้เผยบทสัมภาษณ์กับอดีตผู้จัดการของอีซึงกิ ที่เคยทำงานให้กับ Hook Entertainment ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดเผยว่าอีซึงกิไม่ได้รับค่าตอบแทนจากการทำเพลงของเขาเลย A นั้นส่วนมากจะดูแลอีซึงกิ และดาราคนอื่นด้วย แต่หลักๆคืออีซึงกิ
A ซึ่งตอนนี้ไม่ได้ทำงานเป็นผู้จัดการแล้ว เขาก็กล่าวว่า "ผ่านไป20ปี ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย"
สิ่งหนึ่งคือ อีซึงกิต้องระวังการดื่มกาแฟร้านหรู เพราะควอนจินยอง(ซีอีโอค่าย) และเธอชอบโทรเรียกอีซึงกิไปสร้างความบันเทิงให้ตัวซีอีโอและเพื่อน
ห้องคาราโอเกะ
ควอนจินยองชอบไปดื่มกับเพื่อนของเธอดึกๆ แล้วจะโทรหาซึงกิกลางดึกให้เขาไปร้องเพลงที่คาราโอเกะ ถ้าคุณเดินถัดลงไปบล็อกหนึ่งด้านหลังชองดัมดง จะเจอห้องคาราโอเกะ นั้นแหละคาราโอเกะที่ควอนจินยองไปบ่อยๆ
จะมีเพื่อนของเธอในวงการสื่อด้วย ตอนนั้นบ้านซึงกิอยู่ซังกเย ซึ่งไกลมากจากกังนัม ตอนเช้าผมต้องไปรับเขา เขาดูเหนื่อยมาก จนต้องถามว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนเหรอ
เขาก็จะบอกว่า อ๋อออกไปข้างนอกตอนกลางดึกแปปนึงเมื่อวาน และบอกว่าที่ออกไปเพราะซีอีโอโทรเรียก ผมก็คิดว่าแค่นั้น จนได้มาได้ยินจากสไตลิสต์บริษัทว่าเขากินดื่มกันสนุกเลย แล้วโทรเรียกอีซึงกิไปร้องเพลงให้ฟัง
คิมบัป เฮฟเว่น
ผมได้อ่านบทความเมื่อวันก่อน ที่บอกว่าบริษัทให้ใช้เงินแค่สองหมื่นวอนเท่านั้นในบัตร ซึ่งก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ 20ปีที่แล้ว
ผมต้องรวมบิลกันไป ซึ่งควอนจินยองไม่ชอบใจ เอาแต่ถามอีซึงกิว่าทำไมนายกับทีมนายกินกันเยอะนัก ปกติเราจะได้เงินประมาณหนึ่งแสนห้าหมื่นวอน(ประมาณสี่พันยี่สิบบาทไทย) ในวันจันทร์สำหรับคนทั้งทีม ซึ่งประกอบไปด้วย ตัวอีซึงกิเอง และก็สไตลิสต์ของเขา
ตอนที่ถ่าย Nonstop 5 (ละครซิทคอมที่อีซึงกิร่วมแสดง) วันจันทร์จะอ่านบท วันอังคารกับพุธจะถ่ายนอกสถานที่ ส่วนวันพฤหัสจะถ่ายในร่ม ตอนนั้นอีซึงกิได้กินข้าวแต่ในร้านของกินเล่น แบบร้านคิมบัปเฮฟเว่น
เรากินข้าวแต่ในที่นั้น เพราะว่าจ่ายได้ เราต้องถ่ายซิทคอมแต่เช้าสามวัน ถึงยังงั้น อีซึงกิก็ยังถามแต่ว่า เรามีเงินเหลือพอซื้อข้าวไหมครับ บางทีผมก็จะถามว่าไปกินอะไรอร่อยๆกันไหม ซึงกิก็จะยื่นบัตรเขาเองให้เพื่อจ่าย
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่แย่สำหรับซึงกิเลย ครั้งนึงผมเคยไปทำงานกับโกฮยอนจอง ทีมเธอได้รับอนุญาตไปกินอาหารในร้านอาหารจีน เขาสั่งกันหกเจ็ดจานเพื่อเอามาแบ่งกันได้ แต่ละคนในทีมก็ได้รับอนุญาตสั่งอาหารในแต่ละจานได้
แน่นอนล่ะว่าความดังของอีซึงกิกับโกฮยอนจองต่างกันมาก ผมคิดเลยว่าเขากินอะไรที่เหมาะสมได้โดยไม่โดนบ่น ทำอะไรก็ได้โดยไม่โดนว่า แต่อีซึงกิต้องกินของทานเล่นตลอด แบบคิมบัป ถ้าเขาต้องออกไปทำงานแต่เช้า ก็จะขออนุญาตว่าขอกินคิมบัปสามเหลี่ยมได้ไหม
ตอนนั้นที่เขาเป็นเด็กใหม่ ซึงกิทำเงินไปได้ประมาณเจ็ดถึงแปดล้านวอน กับงานร้องเพลงในอีเว้นท์ ถ้าออกต่างจังหวัดนะ จะขึ้นเป็นเก้าถึงสิบล้านวอน เขาต้องออกงานอีเว้นต์สองสามงานต่อวัน แต่ละวันก็จะกินและหยุดพักตรงไฮเวย์ หรือบนรถ เขามักจะระมัดระวัง หรือบางครั้งก็ให้ผมเอาบัตรเขาไปซื้ออาหาร
ถ้าเงินค่าอาหารไม่พอนะ ควอนจินยองจะให้เพิ่มนิดหน่อย ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้น ที่เขาเริ่มทำเงินได้ล้านวอน เขาก็ยังกินแบบนั้น
เขาจะจ่ายเงินส่วนมากกับกาแฟ หรืออะไรเทือกนั้น ควอนจินยองก็จะถามว่าทำไมต้องกินสตาร์บัค สตาร์บัคจริงเหรอ และเพื่อไม่ให้มันลงไปในค่าใช้จ่าย ซึงกิจะเอาบัตรเขาให้ผมซื้อกาแฟ
คำพูดจาเหยียดหยาม
พอได้ยินเสียงอัดที่ควอนจินยองตะคอก นี่แหละสิ่งที่เกิดขึ้น 20ปีก่อน ตอนนั้น จะมีเสียงด่ากันไปมา ตอนนี้ถึงแม้ขนาดบริษัทจะเปลี่ยนไป แต่ผมรู้สึกว่าคนๆนี้ไม่เคยเปลี่ยนเลยสักนิด เธอพยายามทำให้ซึงกิดูแย่น่ะ ถ้าเขาเถียง เธอก็จะว่า ซึงกิ นั้นไงทำไมถึงทำไม่ได้ และที่ควอนจินยองชอบพูดนะคือ เป็นบ้าเหรอ
ซีอีโอควอนฝึกซึงกิหนักมากตั้งแต่ที่เขายังเด็กอยู่ ส่วนตัวซึงกิเองก็กระหาย เขามักจะพูดว่า ผมต้องทำแบบนี้แหละ ถึงจะประสบความสำเร็จแบบนี้ และผมคิดว่าชีวิตเขาก็ไปในทางนี้
ซึงกิจะไม่มีมือถือเลย จนกว่าจะถ่าย Nonstop 5 จบ เขาเลยใช้มือถือผมโทรและส่งข้อความแทน ไม่มีทางจะติดต่อเขาได้ ถึงเขาจะโตแล้ว
เหมือนดาราคนอื่นๆ เขาไม่สร้างปัญหา หรือเกเรเลยหลังจากไปดื่มกัน พอผมไปส่งเขา เขาชอบกลับบ้าน ฝึกซ้อม และอ่านบท ไม่ออกไปข้างนอกด้วยซ้ำ และก็ไม่มีมือถืออยู่ดี
เมื่อไหร่ที่มีคนพูดถึงซีอีโอควอนนะ เขาก็จะแบบ ขอตัว ตอนนี้เขาก็น่าจะเป็นแบบนั้นน่ะ เขาจะกังวลถ้าควอนโทรหาผม แล้วก็ไปที่อื่นเพื่อคุยโทรศัพท์ แล้วพอกลับมานะ สีหน้าจะไม่ดีเลย แต่ก็ต้องทำเป็นสดใส
และพอเขาทำอะไรสักอย่างแบบขึ้นแสดง ก็ชอบถามผมว่า เขาทำดีหรือยังวันนี้ ควอนจะโทรหาผมทันทีถ้าไม่ชอบใจอะไร และชอบจู้จี้ถ้าต้องคืนมือถือให้ซึงกิ
ตอนนั้นนะ ผมว่ามีเรื่องแน่ๆ เพราะเขาเป็นเด็กใหม่ แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาเกเรเลย
เงินซึงกิ แต่ควอนจินยองใช้
สิ่งที่ควอนปฏิบัติกับทีมเมเนกับอีซึงกิมันก็แบบเดียวกับ 20ปีก่อนมันน่าขนลุกนะ ผู้จัดการต้องส่งค่าใช้จ่ายในมื้ออาหารหนึ่งมื้อผ่านข้อความ คุณคิดเหรอว่าซึงกิจะใช้เงินสองหมื่นวอนในบัตรบริษัท เขาก็จะลืมซะเถอะ และใช้บัตรเขาเอง และพวกนั้นก็ยังทำแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ทำเงินให้เลยนะ
ผมว่าตอนนั้นควอนใช้รถจี๊ป เชอโรกี พอโปรโมทซึงกิ เธอก็เปลี่ยนมาใช้คาดีแลค เอสคาเลด พอซึงกิกำลังถ่าย Nonstop 5 อยู่นะ เธอก็เปลี่ยนรถมาเป็นคาร์ดีแลค แล้วก็เปลี่ยนเป็นพอร์ช
น่าขนลุกนะ ที่ทุกอย่างยังเหมือนเดิมเหมือน 20ปีก่อน
Eng trans: Koreanboo
https://www.koreaboo.com/news/dispatch-reveals-exclusive-interview-lee-seung-gis-former-manager-exposing-hooks-ceo-kwon-jin-young/