777 Charlie : ชาร์ลี มะหมาท้าโลกให้รัก (Kiranraj K.)
"หนังละเอียดอ่อน อิ่มเอมใจ คนรักหมามีน้ำตาไหลไม่หยุดแน่"
เชื่อเหมือนผมไหม ว่าการมีน้องหมาหรือน้องแมวเข้ามาในชีวิตคุณ น้องไม่ได้เป็นแค่สัตว์เลี้ยงของคุณ แต่น้องคือส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ คือส่วนเติมเต็มจิ๊กซอร์ที่หายไปจากชีวิตของคุณให้มีความหมายมากขึ้น และหลายครั้ง น้องหมา น้องแมวที่เราเลี้ยง อาจเปลี่ยนตัวคุณให้เป็นคนที่ดีขึ้น ละเอียดอ่อนขึ้น และทำให้คุณนั้นสมบูรณ์แบบมากขึ้น
เช่นเดียวกับ ธรรมมะ (รักชิต เชตตี้) ชายหนุ่มที่แทบไม่สนใจโลก ไม่สนใจผู้คน เห็นแก่ตัวสุดๆ เขาใช้ชีวิตตัวคนเดียวไปวันๆ ไม่แคร์คนรอบข้าง เหมือนตัวเองคือศูนย์กลางของจักรวาล (นั่นมาจากปมหลังของพระเอกเอง ที่สูญเสียครอบครัวจากอุบัติเหตุตั้งแต่เด็กๆ ทำให้พระเอกต้องสู้ อยู่คนเดียวมาตลอด) ..วันหนึ่ง ธรรมะ ได้เจอกับหมาจรจัด พันธุ์ลาบาดอร์ทรีฟเวอร์ (หลายคนอาจจะงงๆ ว่าทำไมหมาพันธุ์ดีอย่างลาบาดอร์ถึงเป็นหมาจรจัด ในหนังมีเหตุผลซ่อนอยู่) เขาตั้งชื่อให้ว่า ชาร์ลี และน้องหมาชาร์ลี นี่แหละ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงตัวตน เติมเต็มจิ๊กซอร์ที่ขาดหายไปของธรรมะ ผ่านเรื่องราวที่นำเข้าสู่การเดินทางไกลของสงอคู่หู เพื่อเติมเต็มความฝันของชาร์ลีให้สมบูรณ์ที่สุด
777 Charlie คือหนังอินเดียจากตอนใต้ (อินเดียไม่ได้มีแค่บอลลีวู้ดนะ) พูดภาษากานาดา ที่เราเรียกกันว่า Sandalwood หนังเล็กๆ ว่าด้วยความผูกพันของคนกับสุนัขเรื่องนี้ทำเงินมากมายมหาศาลในอินเดีย
ก่อนจะดูหนังอินเดีย จงเข้าใจวัฒนธรรมการดูหนังเขาก่อน ...หนังอินเดียส่วนใหญ่จะยาวววว เกินกว่าสองชั่วโมง (หนังหมาชาร์ลีนี่ยาว 164 นาที) ด้วยเขามองหนังคือมหรสพ การเข้าไปดูหนังคือการได้ปลดปล่อย ได้มีความสุข ได้เชียร์ ได้เต้น (มีคนลุกขึ้นเต้นในโรงหนังจริงๆ นะ) คนสร้างหนังจึงใส่รายละเอียด ความยาวหนังเต็มที่ ทั้งฉากเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ที่ขาดไม่ได้เลย (แต่หนังชาร์ลีมีแค่เพลง ไม่มีลุกขึ้นมาเต้นนะ เพลงะทุกเพลงในหนังนี่เพราะมากๆ)
สำหรับผมที่ชอบดูหนังอินเดีย บอกเลยว่าซีนเศร้า ซีนอารมณ์นี่ ขยี้เอาตาย หลายเรื่องขยี้แล้ว ขยี้อีก เรียกน้ำตาปล่อยโฮเอาง่ายๆ (เหมือนกับซีนบู๊ แอ็กชั่นที่ปล่อยเว่อวังสุดๆ แบบไม่สนใจกฏทางฟิลิกส์ใดๆ) ...777 Charlie นี่ขยี้แบบน้ำตาแตก สำหรับคนรักน้องหมา ผมนี่ไหลปริ่มๆ มาตั้งแต่กลางเรื่อง จากนั้นก๊อกน้ำตาค่อยๆไหลมาเรื่อยๆ จนมาปล่อยสุดในช่วงท้าย ก่อนจะจบลงด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ด้วยบทสรุปที่แท้จริงของหนัง เหมือนการเติมพลังใจเล็กๆ ให้คนดูหนังได้ออกจากโรงหนังอย่างมีความสุข
สิ่งที่ชอบมากในหนัง คือการทำหนังเรื่องนี้ให้แตกต่างจากหนังหมาอื่นๆ โดยทั่วไป ในช่วงพาร์ตสองของหนังที่เป็นสไตล์แบบ Road Movie ให้สองตัวละครหลักพระเอกกับน้องชาร์ลีได้เดินทาง ได้เรียนรู้กันและกัน ด้วยเรื่องราวระหว่างทาง รวมถึงขายวิวทิวทัศน์ของอินเดียในหลายๆ มุม ยอมรับว่าประเทศเขาสวยจริงๆ ...อีกหนึ่งส่วนคือการกำกับของผู้กำกับกิรันราจ ที่จับจังหวะหนังได้อยู่ และน้องหมาชาร์ลี เล่นเก่งโคตรๆ น่ารักมาก หมาเล่นดีจนเราเสียน้ำตา
777 Charlie แม้จะเป็นหนังหมาสูตรสำเร็จ แต่ดูจบกลับได้พลังอะไรบางอย่าง ...ไม่รู้สินะ การที่เราได้ไปปลดปล่อย ได้ร้องไห้ให้กับหนัง พร้อมภาพความอิ่มเอมใจในหนังที่มอบให้ มันคือความสุขเล็กๆ อย่างหนึ่ง และหนังเรื่องนี้ ก็ตอบโจทย์ความสุขให้กับคนดูได้ครบถ้วน
อยากให้ลองเปิดใจให้หนังอินเดีย แล้วคุณจะรู้ว่าหนังอินเดียมีดีกว่าที่คิดจริงๆ
#777Charlie #ชาร์ลีมะหมาท้าโลกให้รัก #ทีมพากย์พันธมิตร #ช่างท๊อปด็อกอาร์ท
#เอ้อระเหยลอยลม
Golden A Entertainment
รีวิว : 777 Charlie ชาร์ลี มะหมาท้าโลกให้รัก : หนังละเอียดอ่อน อิ่มเอมใจ ทาสหมาน้ำตาไหลไม่หยุดแน่ๆ
"หนังละเอียดอ่อน อิ่มเอมใจ คนรักหมามีน้ำตาไหลไม่หยุดแน่"
เชื่อเหมือนผมไหม ว่าการมีน้องหมาหรือน้องแมวเข้ามาในชีวิตคุณ น้องไม่ได้เป็นแค่สัตว์เลี้ยงของคุณ แต่น้องคือส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ คือส่วนเติมเต็มจิ๊กซอร์ที่หายไปจากชีวิตของคุณให้มีความหมายมากขึ้น และหลายครั้ง น้องหมา น้องแมวที่เราเลี้ยง อาจเปลี่ยนตัวคุณให้เป็นคนที่ดีขึ้น ละเอียดอ่อนขึ้น และทำให้คุณนั้นสมบูรณ์แบบมากขึ้น
เช่นเดียวกับ ธรรมมะ (รักชิต เชตตี้) ชายหนุ่มที่แทบไม่สนใจโลก ไม่สนใจผู้คน เห็นแก่ตัวสุดๆ เขาใช้ชีวิตตัวคนเดียวไปวันๆ ไม่แคร์คนรอบข้าง เหมือนตัวเองคือศูนย์กลางของจักรวาล (นั่นมาจากปมหลังของพระเอกเอง ที่สูญเสียครอบครัวจากอุบัติเหตุตั้งแต่เด็กๆ ทำให้พระเอกต้องสู้ อยู่คนเดียวมาตลอด) ..วันหนึ่ง ธรรมะ ได้เจอกับหมาจรจัด พันธุ์ลาบาดอร์ทรีฟเวอร์ (หลายคนอาจจะงงๆ ว่าทำไมหมาพันธุ์ดีอย่างลาบาดอร์ถึงเป็นหมาจรจัด ในหนังมีเหตุผลซ่อนอยู่) เขาตั้งชื่อให้ว่า ชาร์ลี และน้องหมาชาร์ลี นี่แหละ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงตัวตน เติมเต็มจิ๊กซอร์ที่ขาดหายไปของธรรมะ ผ่านเรื่องราวที่นำเข้าสู่การเดินทางไกลของสงอคู่หู เพื่อเติมเต็มความฝันของชาร์ลีให้สมบูรณ์ที่สุด
777 Charlie คือหนังอินเดียจากตอนใต้ (อินเดียไม่ได้มีแค่บอลลีวู้ดนะ) พูดภาษากานาดา ที่เราเรียกกันว่า Sandalwood หนังเล็กๆ ว่าด้วยความผูกพันของคนกับสุนัขเรื่องนี้ทำเงินมากมายมหาศาลในอินเดีย
ก่อนจะดูหนังอินเดีย จงเข้าใจวัฒนธรรมการดูหนังเขาก่อน ...หนังอินเดียส่วนใหญ่จะยาวววว เกินกว่าสองชั่วโมง (หนังหมาชาร์ลีนี่ยาว 164 นาที) ด้วยเขามองหนังคือมหรสพ การเข้าไปดูหนังคือการได้ปลดปล่อย ได้มีความสุข ได้เชียร์ ได้เต้น (มีคนลุกขึ้นเต้นในโรงหนังจริงๆ นะ) คนสร้างหนังจึงใส่รายละเอียด ความยาวหนังเต็มที่ ทั้งฉากเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ที่ขาดไม่ได้เลย (แต่หนังชาร์ลีมีแค่เพลง ไม่มีลุกขึ้นมาเต้นนะ เพลงะทุกเพลงในหนังนี่เพราะมากๆ)
สำหรับผมที่ชอบดูหนังอินเดีย บอกเลยว่าซีนเศร้า ซีนอารมณ์นี่ ขยี้เอาตาย หลายเรื่องขยี้แล้ว ขยี้อีก เรียกน้ำตาปล่อยโฮเอาง่ายๆ (เหมือนกับซีนบู๊ แอ็กชั่นที่ปล่อยเว่อวังสุดๆ แบบไม่สนใจกฏทางฟิลิกส์ใดๆ) ...777 Charlie นี่ขยี้แบบน้ำตาแตก สำหรับคนรักน้องหมา ผมนี่ไหลปริ่มๆ มาตั้งแต่กลางเรื่อง จากนั้นก๊อกน้ำตาค่อยๆไหลมาเรื่อยๆ จนมาปล่อยสุดในช่วงท้าย ก่อนจะจบลงด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ด้วยบทสรุปที่แท้จริงของหนัง เหมือนการเติมพลังใจเล็กๆ ให้คนดูหนังได้ออกจากโรงหนังอย่างมีความสุข
สิ่งที่ชอบมากในหนัง คือการทำหนังเรื่องนี้ให้แตกต่างจากหนังหมาอื่นๆ โดยทั่วไป ในช่วงพาร์ตสองของหนังที่เป็นสไตล์แบบ Road Movie ให้สองตัวละครหลักพระเอกกับน้องชาร์ลีได้เดินทาง ได้เรียนรู้กันและกัน ด้วยเรื่องราวระหว่างทาง รวมถึงขายวิวทิวทัศน์ของอินเดียในหลายๆ มุม ยอมรับว่าประเทศเขาสวยจริงๆ ...อีกหนึ่งส่วนคือการกำกับของผู้กำกับกิรันราจ ที่จับจังหวะหนังได้อยู่ และน้องหมาชาร์ลี เล่นเก่งโคตรๆ น่ารักมาก หมาเล่นดีจนเราเสียน้ำตา
777 Charlie แม้จะเป็นหนังหมาสูตรสำเร็จ แต่ดูจบกลับได้พลังอะไรบางอย่าง ...ไม่รู้สินะ การที่เราได้ไปปลดปล่อย ได้ร้องไห้ให้กับหนัง พร้อมภาพความอิ่มเอมใจในหนังที่มอบให้ มันคือความสุขเล็กๆ อย่างหนึ่ง และหนังเรื่องนี้ ก็ตอบโจทย์ความสุขให้กับคนดูได้ครบถ้วน
อยากให้ลองเปิดใจให้หนังอินเดีย แล้วคุณจะรู้ว่าหนังอินเดียมีดีกว่าที่คิดจริงๆ
#777Charlie #ชาร์ลีมะหมาท้าโลกให้รัก #ทีมพากย์พันธมิตร #ช่างท๊อปด็อกอาร์ท
#เอ้อระเหยลอยลม
Golden A Entertainment