.
💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚
กระทู้ที่แล้ว ก็บอกแล้วว่า ผมรู้สึกเฉยๆ เรื่องภาษีขายหุ้น
เพราะเคยโดนเก็บ 0.5 % รวม vat 7% มาก่อน
จริงๆแล้ว นักลงทุนทุกคน ต้องบวกต้นทุนที่แท้จริงของตัวเองไว้ล่วงหน้า ทั้งด้านซื้อ และขาย
ตอนนั้น ก็บวกต้นทุนซื้อไปอีก 0.5 % พอขาย ก็จะหักเงินที่จะได้สุทธิออก 0.5 % เชนกัน
ส่วนตอนนี้ ก็จะบวกด้านซื้อ 0.2675 % เวลาจะขาย ก็ต้องเตรียมหักออก 0.3775 %
การเดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้น
ที่เจอมาแล้วรู้สึกว่า มันดุเดือดที่สุด ไร้เหตุผลที่สุด มาจนทุกวันนี้ก็คือ
ช่วงกลางปี 2536 ถึงเรื่มต้นปี 2537
หุ้นไฟแนนซ์ อสังหาริมทรัพย์ เป็นแก่นหลัก ปั่นกันจน พีอี ถึงร้อย
ก็ยังตามล่าส่วนเกินทุนกันอย่างบ้าคลั่ง ค่าคอมฯ 0.5 % เรื่องเล็กน้อยมาก
พวกรายย่อย ได้กำไรส่วนเกินทุนกันจนพุงปลิ้นถ้วนหน้า
เพื่อนiรุ่นพี่ ร่วมชมรมแบดมินตัน ซึ่งตอนนี้ ออกจากตลาดหุ้นไปแล้ว เล่าว่า
ตอนนั้นคนในห้องค้าหุ้นของเอกธนกิจหรือเอกธำรง(จำชื่อแน่นอนไม่ได้) ที่อยู่ใกล้ๆโรงพยาบาลเทียนฟ้า เยาวราช
ถึงกันลงขันกัน ซื้อรถเก๋งให้มาร์เก็ตติ้ง
โบรกเกอร์ที่อื่นๆ ก็คงเกิดปรากฏการณ์แบบนี้เหมือนกัน
แต่พอเริ่มต้นปี 2537 นักลงทุนต่างชาติ ก็เริ่มเทกระจาดหุ้น
จนนักลงทุนรายย่อย เจ๊งกันยับเยินเพราะกำไรแล้วไม่ยอมเลิก กลับถมเงินเพิ่มเข้าไปอีก
ในที่สุดก็ต้องทะยอยออกจากตลาดหุ้น เพราะ.......
รถเก๋งที่ร่วมกันลงเงินซื้อให้มาร์เก็ตติ้ง น่าจะกลายเป็นเศษเหล็กไปนานแล้ว เมื่อมาร์เก็ตติ้งตกงานหลังต้มยำกุ้ง
คลื่นนักลงทุนรุ่นต่อๆมา ที่ไม่เคยรับรู้เรื่องราวตอนนั้น ก็ทะยอยกันเข้ามาอย่างต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้
คือทุกคน เข้าตลาดหุ้นตอนไหน เขาก็จะเปรียบเทียบพอร์ตของตนเอง จากจุดนั้น
มาว่ากันถึงเรื่อง ที่เคยเฉย ก็อาจจะไม่เฉยแล้ว
ถ้าเกิดรัฐหน้ามืด อ้างถึงความเท่าเที่ยมที่พวกรายย่อยชอบพูดถึงบ่อยๆ
ให้เก็บภาษีเงินกำไรส่วนเกิน เหมือนกับเก็บจากพวกนิติบุคคล 
ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นจริง มันก็เป็นเรื่องใหม่ ที่ไม่เคยเจอมาก่อน ตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นมา
กำไรส่วนเกินทุนที่เคยสะสมมาตลอดและชักออกจากตลาดหุ้นไปแล้ว >60%
ส่วนหนึ่งก็มาจากการไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ เงินกำไรส่วนเกินทุนจากหุ้น
แล้วจะทำอย่างไร ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ?
วันก่อน อ่านเจอที่คุณโต้คลื่น แนะทีเด็ดไว้
ผมก็จะทำตามนั้นแน่นอน คือ
ขายล้างกำไรส่วนเกิน ที่ยังไม่ต้องเสียภาษีทิ้งให้หมด หลังจากแน่ใจว่าจะมีการประกาศใช้
แล้วเริ่มสะสมหุ้นที่มีต้นทุนใหม่อีกรอบ
พอขายแล้ว ถ้าต้องเสียภาษี ก็ค่อยว่ากันอีกที
ที่แน่ๆคือ กำไรส่วนเกินทุนที่อาจจะต้องเสียภาษี ไม่มีเหลือแล้ว
what ever will be will be
🤑🤑🤑 ๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ ที่เคยรู้สึกเฉยๆ ก็อาจจะไม่เฉยแล้ว ถ้า.................😵😵😵