>> สวัสดีครับผม ผมมีเรื่องเล่าจากการทำอาชีพ เจ้าของธุระกิจหัวลาก ตู้สินค้าคอนเทนเเนอร์ ท้าวความเมื่อปี 2562 ผมได้จัดหาเงินลงทุน เพื่อมาซื้อรถหัวลากคันแรก โดยใช้ชื่อในนามคนรู้จักกันทำอาชีพเดียวกัน เป็นลูกค้าเรามาก่อนตอนเป็นลูกจ้าง ซึ่งรถคันแรกนั้นออกยากมาก ทางเพื่อนจึงเสนอขึ้นว่า เรามีโคต้าจากบริษัทออกรถอยู่ 10 ชุด เราแบ่งให้ 1 ชุด ก็เลยตกลงได้ลงทุนด้วยเงินประมาณ 450,000 บาท โดยสัญญานัดทำกันหลังจ่ายเงิน เราก็ได้ไปกู้ธนาคาร เอารถไปเข้าไว้ ทำทุกทาง เพื่อให้ได้รถมา ความยากได้ก็ทำการโอนเรียบร้อย 3 สัปดาห์ต่อมาก็ได้เอกสารบัตรผ่อนรถ 2 ใบ แยก หัว 39,000 บาท + หาง 7,000 บาท โดยรวม ปก. GPS ติดอุปกณ์ส่วนควบหมด ส่งไปได้สักระยะ 1 ปี 4 เดือน เริ่มมีปีญหาขึ้น (สัญญายังไม่ได้ทำ อ้างบ่ายเบียงมาตลอด) หาว่าส่งช้าบ้าง ขาดส่งบ้าง แต่เรามีเอกสารครบในการส่ง สุดท้ายไปไม่รอด เจ้าของรถแจ้งจับ พนง.ขับรถเรา จับเรา ข้อหาลักทรัพย์ เราก้ "งง" ลักทรัพย์ตรงไหน เราก้ต้องคืนรถให้เค้าไป สรุปไม่ได้อะไรกลับมาเลยแถมมีข้อหากลับมาให้เราอีก ผมบอกกับตัวเองไม่เป็นไร "เริ่มใหม่" หลังจากนั้นไม่นานผมรวบรวมหาเงินลงทุนอีกก้อนนึง เพื่อไป

รถคันใหม่โดยใช้ชื่อตัวเอง ตันนี้เป็นมือสอง สภาพภายนอกสวยมาก แต่เชื่อไหมครับ ขับไปซ่อมไป คนขับ 4 คัน เปลี่ยนทุกเดือน ยังไง คนแรกสั่งเติมน้ำมัน 8,000 เติม 4,000 ก้ไปไม่ถึงไหนต้องเติมเพิ่ม บอกว่ารถกินน้ำมัน เราก็เอารถไปเช็คระบบใหม่ ปล่อยน้ำแห้งเครื่อง ฮีท สุดท้าย โป๊ะแตกตรงที่จับได้ในปั้มเลย สั่งเด็กปั้มว่าเติมเท่านี้ ออกบิลเกินให้หน่อยจ่ายกัน 300 บาท คนที่สอง อารมร์คล้ายกัน อันนี้เล่นไดสตาร์ทระเบิด ซ่อมอีก 12,000 บาท ไม่พออีก เพลากลางท้ายเกียร์ขาดหมดอีก 30,000 บาท น้ำมันไม่พอ จอดนอนพื้นที่อันตราย ปิดโทรศัพท์ ไม่รับสาย คนที่สามเรื่องน้ำมันไม่มี แต่ขับเกียร์แตก ซ่อมอีก 75,000 บาท สุดท้ายหนีอีกหายไปเลย คนที่สี่อยู่ได้เกือบปีซ่อมจนหมดทางหาเงิน น้ำมัน เล่นสารเสพติด ทิ้งงานรถส่งถูกแต่ไม่พอส่ง สุดท้ายคนที่ห้าคือเจ้าของต้องมาขับเองใช่ครับ ผมขับรถเอง เที่ยวแรกลองรถก็ปกติทุกอย่างไม่มีปัญหา ซ่อมบ้างเล็กน้อย บำรุงตามอายุการใช้งาน ครั้งล่าสุดซ่อมใหญ่เลยฝาสูบที่เคยมีอาการจากน้ำแห้งคนขับรอบแรก ต้องเปลี่ยนฝา ก็จดการหาเงิยอีกรอบนี้สุดเลยครับ 120,000 บาท ครั้งนี้เอาตัวเองไม่ขึ้นเลยครับ รถที่ผ่อนก็กลายเป็นค้างค่างวด ผู้ติดตามโทรถาม เมื่อไหร่จะจ่าย จ่ายเสร็จแล้วยอดไม่พอต้องทำจ่ายใหม่ทั้ง ๆ ที่บอกเราก็ได้ว่าขาดอยู่ 135 บาท จะใส่ยอดเพิ่มไปให้ก็ไม่บอกครั้งนั้นเค้าได้จากเราไปเพิ่ม 17,000 บาท เคราะห์ซ้ำกำซัดซ่อมเสร็จโดนแย้งงาน ราคาน้ำมันแพง ค่าขนส่งถูกจนวิ่งไม่ได้ เหลือไม่พอค่ารถ กินยังไม่พอเลย ไม่มีงานวิ่งหวังว่าทำเสร็จจะได้มีเงินมาจ่ายเค้า เรียบร้อยดีครับ สรุปต้องทำต้องขายรถทิ้งมาใช้หนี้เค้ายังไม่พออีก รถพังตลอดไม่เป็นเงินทุนที่เรา กู้มาต้องมานั่งใช้หนี้อีก ไปไม่เป็นท่าเลย เครียดมาก ทางบ้านพอรู้ว่าเป็นแบบนี้ปล่อยเลยครับ ตอนนี้ต้องหางานก็ยาก เงินก็ไม่มีผมไม่ได้มาขออะไรนะครับ แค่มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟัง การไว้ใจใคร ซื่อสัตว์ มันใช้ไม่ได้กับใครเลย หนี้สินตอนนี้ 10 ปี จะหมดหรือป่าวยังไม่รู้เลย ท้อมากก จิตใจบางคนยิ่งกว่าทะเลอีกไม่ใช้กว้างนะ เค็ม อีกหลายเรื่องที่เล่าก็ไม่หมด เพราะ 3-4 ปีที่ผ่านมา เหมือนออกรบกับสิ่งที่เราคิดว่าแน่ใจ มั้นใจตัวเองสุดท้ายดังที่กล่าวมา สุดท้ายนี้ผมขอฝากเรื่องราวอันขมขืน ของผมไว้ด้วยนะครับ เผื่อเป็นวิทยาทานให้กับผู้ที่รับฟัง ทุกท่านคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ แสดงความคิดเห็นได้นะครับ ขอบคุณครับ ........????
เป็นเจ้าของธุระกิจขนส่งสินค้าอย่างไรให้เจ๊ง ในยุค พ.ศ. 62-65 นี้......?