เจี่ยะ ป้า บ่อ สื่อ part.2 เม้ามอยเรื่องภาษีหุ้น 55555

หยุดยาวว่างๆกลัวชาวสินธรเหงา ไม่มีไรทำเลยคิดไรเรื่อยเปื่อย  yuck
ช่วงแรกขอคุยเรื่องต้นทุนเฉพาะในมุมเทรดเดอร์ฟิวเจอร์ คนเล่นหุ้นอยากอ่านประดับความรู้ไว้ก็ไม่ผิดแต่อย่างใด
ส่วนช่วงหลังจะคิดต้นทุนในมุมคนเล่นหุ้นให้คับ เริ่มเลย flower

ในเวบบัวหลวงบอกค่าธรรมเนียม0.157%+vat  แต่ในตลาดฟิวเจอร์ ของลุงคิดต้นทุนจริงต่อ1สัญญาได้ค่าคอม0.0939%+vat อันนี้คือstock future1ตัวต่อ1สัญญา อันนี้แต่ละคนต้องไปคิดเองคุณเทรดอะไร tfexหรือssf แล้ว1สัญญาของเดิมคุณจ่ายเท่าไร ภาษีจะเป็นเท่าไร เดี๋ยวจะค่อยๆคิดให้ฟัง
สมมุติว่าเราจะซื้อฟิวเจอร์หุ้นa ที่ราคา13.11 จำนวน1สัญญา ราคา1155ต่อสัญญา [ไม่อยากบอกว่าหุ้นอะไรเดี๋ยวจะเป็นการชี้นำ]
ใช้เงิน1155บาท มูลค่าพอร์ตจะเป็น13110
ตอนซื้อจะเสียค่าธรรมเนียม+vat  อันนี้เป็นระบบเดิม ขาซื้อจะไม่เก็บภาษี [0.0939%+vat]=13110*0.0939%+vat7%=12.3102+0.8617=13.1719
13.1719คือต้นทุนตอนซื้อ มาดูฝั่งตอนขายมั่ง

ค่าธรรมเนียม+ภาษี0.11%+vat 
สมมุติถ้าหุ้นขึ้นไปถึง13.50แล้วอยากจะปิดกินลำไย  ฐานมูลค่าพอร์ตจาก13110จะเป็น13500
มูลค่าพอร์ต*0.0939%+tax0.11%+vat7%
=13500*0.0939%+0.11%+7%
=12.6765+14.85=27.5265
+vat7% 1.9268
=29.4533

สรุป ขาเข้า13.1719  ขาออก29.4533 รวม42.6252
ส่วนกำไร13500-13110=390
หักต้นทุน [เข้าออกทั้ง2ขา] netแล้วจะได้กำไร= 390-42.6252=347.3748
กำไรเทียบกับต้นทุนทั้งหมด=42.6252*100/390= 10.9295 ก็ตีซะ11%

ไหนลองเทียบกับระบบเก่าซิ [ตอนไม่เก็บภาษี]เอาแบบเร็วๆนะ 555
อันนี้ขาออก คอม+vat =12.6765+0.8873=13.5638
รวมค่าธรรมเนียมเข้าออกทั้งหมด =13.1719+13.5638=26.7357
ต้นทุนของเดิม26.7357
ต้นทุนของใหม่42.6252
ถ้าเทียบต้นทุนต่อกำไรที่ได้รับ ของเดิมเสีย6.8% ของใหม่เสีย11%
โอ้ชิท เกินครึ่งขึ้นมาตั้ง60% แพงสลัด 55555
ถ้าเปิด100สัญญาก็กำไร39000 และโดนต้นทุน4300

ปล.ตัวเลขค่าธรรมเนียมฟิวเจอร์โบรกผมจะราวๆนี้0.09xx     xตัวหน้ามันอาจจะเป็น1หรือ4แล้วแต่ต้นทุนราคาssfที่เราซื้อมา

------------------------

ส่วนของคนเล่นหุ้น
ใครบอกtransaction taxดี  ตัวเลขมันไม่fixตามที่เราคิดนะ น่ากลัวแบบเงียบๆเลย 
ภาษีจ่ายมันเป็นขั้นบันได ไปตามมูลค่าพอร์ต[ขาออก] แต่เค้าไม่บอก แถมไม่มีเพดาน35% เหมือนเราจ่ายภงด.91ด้วย

บางคนบอกไม่เป็นไร ผมหยุดเล่นสั้นก็ได้จะรันเทรนให้ยาวขึ้น
งั้นผมจะคิดให้ดูตอนพอร์ตมีกำไร 5% กับกำไร10% คิดว่าจ่ายเท่ากันไหม ไม่เท่านะคับ อันนี้ขอคิดเฉพาะส่วนที่ต้องเสียภาษีอย่างเดียว ส่วนตอนซื้อยังไม่เอามาคำนวนรวม

สมมุติมีทุน1ล้าน ขายตอนกำไร5%กับกำไร10% ตอนโดนภาษีจะเป็น
ตอนขาย คอม+ภาษี+vat 0.157+0.11+vat
หุ้น10บาท กำไร5% ขายตอน10.5บาท คิดบนฐานพอร์ต1050000
1050000*0.267*vat
=2803.5+196.245=2999.745

ถ้าหุ้น10บาท กำไร10% ขายตอน11บาท คิดบนฐานพอร์ต1100000
1100000*0.267*vat
2937+205.59=3142.59

คิดเป็น%
3142.59-2999.74*100/2999.74 สรุปสองเคสนี้มีส่วนต่างคือเพิ่มขึ้น4.7%

ยิ่งกำไรมาก ส่วนต่างจะถ่างขึ้นไปเรื่อยๆ คือจ่ายแพงขึ้นทั้งส่วนภาษี และส่วนของvat
พวกที่เล่นเป็นเด้งๆอย่าคิดว่าจะสบายนะ ถ้ารัน1เด้งไป20บาทคุณต้องจ่าย 5713.8คับ
แพงขึ้นมาจากตอนพอร์ตมีกำไร10%คิดเป็นส่วนต่างถึง 81.81%คับ omg

-------------

สรุปว่าไม่ต่างกับการเก็บcap gain taxหรอก กำไรมากเก็บมาก ขาดทุนก็ยังเก็บ
อันนี้หนักกว่าด้วยซ้ำ มันเป็นต้นทุนแฝงเงียบๆ เข้าทำนองได้ก็จะเอา เสียก็จะเก็บ
ยิ่งรันเทรนคุณยิ่งต้องจ่ายเพิ่ม ตามกำไรที่มากขึ้น พวกสายเทรดคงต้องเบรค โวลุ่มคงหายไปราวๆ30-40%เลย
ถ้าใช้ฐานโวลุ่ม5หมื่นอาจจะเหลือ35000-40000ต่อวัน
เพราะชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว transaction tax มีทำรายการเมื่อไรผมเก็บคุณทันที



เพี้ยนมองบน
คิดเห็นยังไงเม้นกันมาได้ ฮ่าฮ่าฮ่า
ส่วนตัวผมลุยต่อแต่ต้องดูจุดคุ้มทุนอยู่ตรงไหน
ช่วงวันหยุดยาวจะนั่งวางแผนเทรดยังไงให้กระทบรายจ่ายน้อยที่สุด และรอบหน้าจะพาลต.กลับบ้าน แกกำลังหลงทาง 55555

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ทั้งหมดทั้งมวล บทสรุปอยู่ที่
ทุกคนต้องมีความรู้ความสามารถในทุกมิติของการเทรด
ไม่ว่าการลงเงินแต่ละไม้ การบริหารความเสี่ยง การวางระบบกำไร/ขาดทุน
และที่สำคัญคือความสามารถในการอ่านกราฟ ใช้เทคนิคต่าง อย่างเหมาะเจาะกับสิ่งที่ลงไป

การค้าทุกอย่าง ช่วง2ปีมานี้ ต้นทุนขึ้นทุกอย่างทุกธุรกิจ
เล่นหุ้น เทรดหุ้นก็เป็นการค้า(การลงทุน)อย่างหนึ่ง
ดังนั้น มันเหมือกันที่ผู้ทำการค้าต้องเผชิญและเอาตัวรอดเอาเอง

ทุกอย่างมันหากินยาก กว่าแต่ก่อน
เล่นหุ้นก็ต้องเป็นเฉกเช่นกัน
อย่าบ่นกันเลยนะ
หาอะไรที่จะสามารถเอามาเป็นอาวุธในการลงทุนของท่าน
เอาอย่างเดียวก็พอ เก่งอย่างเดียวก็พอแล้ว
รับรองหาเงินได้ได้แน่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่