เข้ารอบไปแบบสุดระทึกสำหรับเกาหลีใต้ ที่เอาชนะโปรตุเกสไปได้ ช่วงท้ายเกมส์ ด้วยสกอร์ 2-1 จากประตูชัยของ ฮวาง ฮี-ชาน ส่งให้เกาหลีใต้เข้ารอบ 16 ทีม เป็นอันดับที่2 ของกลุ่มH ด้านอุรุกวัย แม้จะชนะกาน่า 2-0 แต่ประตูได้เสียเท่ากับเกาหลีใต้ และยิงได้น้อยกว่า จึงกอดคอตกรอบไปพร้อมกับกาน่า ซึ่งจากนี้จะเป็นสิ่งที่ผมได้เห็นจากเกมส์คู่นี้ครับ
1.การจัดตัวผู้เล่น
- เกาหลี ทางเกาหลีเปลี่ยนผู้เล่น 2 ตำแหน่ง โดยยังคงชุดหลักที่ทำได้ดีใน 2 เกมส์แรก ซึ่งผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนแทนที่ในเกมส์นี้คือ อี คัง - อิน แทน จอง อู - ยอง และ อี แจ - ซอง แทน ควอน ชาง - ฮุน
- โปรตุเกส ทางฝั่งโปรตุเกสเปลี่ยนผู้เล่นถึง 6 คน เนื่องจากการันตีเข้ารอบ 16 ทีม ไปเป็นที่เรียบร้อย และโอกาสที่จะเข้าเป็นอันดับที่1 ก็ค่อนข้างสูง จึงทำการหมุนเวียนผู้เล่นหลายคน ได้แก่ อันโตนิโอ ซิลวา , ดิโอโก้ ดาโลต์ , มาเธอุส นูเนส , วิตินญา , เชา มาริโอ , ริคาร์โด ออร์ต้า
2.รูปแบบการเล่น
โปรตุเกสเกมส์นี้ถือว่า แฟร์นานโด ซานโตส ผู้เป็นกุนซือ วางไอเดียในการเข้าทำมาดีมากๆ ทั้งการเข้าทำจากช่องว่าง ระหว่างเซ็นเตอร์หรือฟูลแบ็ค การครอสเข้ากรอบเขตโทษ การประสานงานระหว่างปีกกับฟูลแบ็ค รวมถคงการวางยาว โดยให้ผู้เล่นที่มีความเร็ว วิ่งตัดไลน์กองหลังอีกด้วย แต่ผู้เล่นโปรตุเกสวันนี้ กลับไม่ตอบสนองต่อแผนการเล่นเท่าที่ควร
โดยบางจังหวะมักเลือกการเข้าทำที่ไม่เหมาะสม หรือที่เรียกง่ายๆว่า "ลูกที่ต้องจ่ายดันยิง ลูกที่ต้องยิงดันจ่าย" ทั้งที่แนวรับเกาหลีเปิดแผลให้โปรตุเกสเยอะมาก ทั้งการปล่อยพื้นที่ด้านข้าง หรือช่องว่างระหว่างเซ็นเตอร์ ที่กว้างแบบสุดๆ หรือแม้กระทั่งการดันไลน์ขึ้นสูง แต่โปรตุเกสกลับไม่ใช้แผล ที่เกาหลีใต้สร้างไว้ให้เกิดประโยชน์ สุดท้ายจึงโดนลงโทษไปตามระเบียบ
ฝั่งเกาหลีใต้เอง ถึงแม้แนวรับจะเปิดแผล และเกมส์รุกมีมิติเดียวเกินไป คือ การครอสจากริมเส้น แล้วอาศัยกองหน้า ตัวรุก หรือมิดฟิลด์ ที่เติมขึ้นมา หาพื้นที่เข้าทำในกรอบเขตโทษ แต่ต้องยอมรับว่า เกาหลีใต้ เป็นทีมที่สำหรับผม ถือว่าฟิตที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เนื่องจาก 2 เกมส์ที่ผ่านมา เกาหลีใต้ใช้พลังงาน ในการเพรสซิ่งเยอะมากๆ แต่ยังสามารถเล่นฟุตบอล ตามสไตล์ของตัวเองได้ในเกมส์นี้ โดยไม่มีผลกระทบต่อร่างกายเลย
และจุดที่ต้องชื่นชมมากๆ คือ การขึ้นเกมส์จากแดนกลางของเกาหลีใต้ ถือว่าทำได้ดีทั้ง 3 คน เพราะโปรตุเกส เข้าบีบเร็วทุกครั้งที่มิดฟิลด์เกาหลีใต้ได้บอล แต่ทีมพลังโสม ก็สามารถเอาตัวรอดออกมาได้ทุกครั้ง โดยเฉพาะ ฮวัง อิน - บอม ที่วันนี้เล่นดีมากๆ ทั้งการคุมจังหวะ การช่วยเกมส์รับ และการสนับสนุนเกมส์รุก ถือเป็นหัวใจในแดนกลางของเกาหลีในเกมส์นี้เลย
ผิดกับทางฝั่ง มาเธอุส นูเนส และ รูเบ็น เนเวส ที่มักก่อความผิดพลาด เมื่อนักเตะเกาหลีใต้เข้าถึงตัวเสมอๆ ซึ่งสำหรับผมเกมส์นี้ เกาหลีใต้เหมาะสมกับการเป็นผู้ชนะด้วยประการทั้งปวง
3.นักเตะที่ทำได้ต่ำกว่ามาตรฐาน
- คู่เซ็นเตอร์ของเกาหลีใต้ ถือว่าสร้างแผลให้กับเกาหลีใต้เยอะมากๆ สำหรับ ควอน คยอง - วอน และ คิม ยอง กวอน โดยทั้ง 2 คน ชอบทิ้งช่องว่างขนาดใหญ่ ตรงกลางระหว่างเซ็นเตอร์ แถมการยืนโซน ยังชอบหลุดตำแหน่งที่ตัวเองต้องประจำการ ทำให้ฝั่งโปรตุเกส ได้โอกาสทำประตูหลายครั้ง แต่โชคดีที่หมูหกกันไปเอง ไม่อย่างนั้น เกาหลีใต้อาจตกรอบไปแล้วก็เป็นได้
- รูเบ็น เนเวส และ มาเธอุส นูเนส มัดรวมกัน เนื่องจากก่อความผิดพลาดในลักษณะเดียวกัน โดยมักจะเสียบอลทุกครั้ง เมื่อเกาหลีใต้เข้าบีบเร็ว และผิดพลาดในลักษณะนี้อยู่หลายครั้ง ทำให้งานหนัก ต้องไปตกอยู่ที่วิตินญา ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากๆ ในเกมส์นี้ สำหรับการเอาตัวรอดในแดนกลาง และการสร้างเกมส์รุก
- เชา มาริโอ ไม่อยากโทษเจ้าตัวมาก เนื่องจากตำแหน่งของเจ้าตัว คือมิดฟิลด์ แต่ถูกจับมาเล่นเป็นตัวริมเส้นในเกมส์นี้ โดยมักหุบเข้ามาตรงกลางอยู่ตลอดเวลา ทำให้จังหวะสร้างเกมส์รุกบริเวณริมเส้น เชา คันเซโล่ ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัว เลี้ยงแหวกเข้าไปในเขตโทษด้วยตัวเองอยู่หลายครั้ง
- คริสเตียโน โรนัลโด เป็นการผิดพลาดในลักษณะนี้มา 3 เกมส์ติดต่อกันแล้วสำหรับโรนัลโด้ คือ การจบสกอร์ โดยเจ้าตัวได้โอกาสหลายครั้งมากๆ ในการทำประตู แต่แทบทุกจังหวะ ไม่ค่อยได้สร้างความอันตรายให้คู่ต่อสู้ได้เลย และจังหวะที่ทีมต้องการประตู เจ้าตัวก็ถูกเปลี่ยนออกไปในที่สุด ไม่น่าเชื่อว่าเราจะมาถึงจุดนี้ จุดที่ทีมต้องการประตู แต่โรนัลโด้ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม
** ถือว่าเหมาะสม กับการเป็นผู้ชนะจริงๆ ในเกมส์นี้สำหรับเกาหลีใต้ จากความมุ่งมั่นตั้งแต่วินาทีแรก จนถึงวินาทีสุดท้าย แต่ข้อเสียที่พวกเขาควรต้องแก้ คือ การโดนออกนำไปก่อน จากการเสียสมาธิ และการเล่นเกมส์รับที่ไม่ละเอียด ยิ่งเกมส์หน้า โอกาสที่คู่ต่อสู้จะเป็นบราซิล มีค่อนข้างสูง เกาหลีใต้จึงควรมีความละเอียด ในการเล่นเกมส์รับมากกว่านี้
ทางฝั่งโปรตุเกส ถึงแม้จะเข้ารอบ แต่เรามักจะเห็นการเล่นลักษณะนี้ ของพวกเขาอยู่หลายครั้ง คือ จังหวะสุดท้ายที่สมควรต้องเป็นประตู พวกเขามักทำได้ไม่ดีพอ อย่างเช่นเกมส์นี้กับเกาหลีใต้ ที่พลาดโอกาสทองในหลายๆ จังหวะ ถ้าอยากจะไปให้ไกล โปรตุเกสเองก็ต้องแก้ปัญหาในจุดนี้เช่นกัน
สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมส์ระหว่างโปรตุเกสพบเกาหลีใต้
1.การจัดตัวผู้เล่น
- เกาหลี ทางเกาหลีเปลี่ยนผู้เล่น 2 ตำแหน่ง โดยยังคงชุดหลักที่ทำได้ดีใน 2 เกมส์แรก ซึ่งผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนแทนที่ในเกมส์นี้คือ อี คัง - อิน แทน จอง อู - ยอง และ อี แจ - ซอง แทน ควอน ชาง - ฮุน
- โปรตุเกส ทางฝั่งโปรตุเกสเปลี่ยนผู้เล่นถึง 6 คน เนื่องจากการันตีเข้ารอบ 16 ทีม ไปเป็นที่เรียบร้อย และโอกาสที่จะเข้าเป็นอันดับที่1 ก็ค่อนข้างสูง จึงทำการหมุนเวียนผู้เล่นหลายคน ได้แก่ อันโตนิโอ ซิลวา , ดิโอโก้ ดาโลต์ , มาเธอุส นูเนส , วิตินญา , เชา มาริโอ , ริคาร์โด ออร์ต้า
2.รูปแบบการเล่น
โปรตุเกสเกมส์นี้ถือว่า แฟร์นานโด ซานโตส ผู้เป็นกุนซือ วางไอเดียในการเข้าทำมาดีมากๆ ทั้งการเข้าทำจากช่องว่าง ระหว่างเซ็นเตอร์หรือฟูลแบ็ค การครอสเข้ากรอบเขตโทษ การประสานงานระหว่างปีกกับฟูลแบ็ค รวมถคงการวางยาว โดยให้ผู้เล่นที่มีความเร็ว วิ่งตัดไลน์กองหลังอีกด้วย แต่ผู้เล่นโปรตุเกสวันนี้ กลับไม่ตอบสนองต่อแผนการเล่นเท่าที่ควร
โดยบางจังหวะมักเลือกการเข้าทำที่ไม่เหมาะสม หรือที่เรียกง่ายๆว่า "ลูกที่ต้องจ่ายดันยิง ลูกที่ต้องยิงดันจ่าย" ทั้งที่แนวรับเกาหลีเปิดแผลให้โปรตุเกสเยอะมาก ทั้งการปล่อยพื้นที่ด้านข้าง หรือช่องว่างระหว่างเซ็นเตอร์ ที่กว้างแบบสุดๆ หรือแม้กระทั่งการดันไลน์ขึ้นสูง แต่โปรตุเกสกลับไม่ใช้แผล ที่เกาหลีใต้สร้างไว้ให้เกิดประโยชน์ สุดท้ายจึงโดนลงโทษไปตามระเบียบ
ฝั่งเกาหลีใต้เอง ถึงแม้แนวรับจะเปิดแผล และเกมส์รุกมีมิติเดียวเกินไป คือ การครอสจากริมเส้น แล้วอาศัยกองหน้า ตัวรุก หรือมิดฟิลด์ ที่เติมขึ้นมา หาพื้นที่เข้าทำในกรอบเขตโทษ แต่ต้องยอมรับว่า เกาหลีใต้ เป็นทีมที่สำหรับผม ถือว่าฟิตที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เนื่องจาก 2 เกมส์ที่ผ่านมา เกาหลีใต้ใช้พลังงาน ในการเพรสซิ่งเยอะมากๆ แต่ยังสามารถเล่นฟุตบอล ตามสไตล์ของตัวเองได้ในเกมส์นี้ โดยไม่มีผลกระทบต่อร่างกายเลย
และจุดที่ต้องชื่นชมมากๆ คือ การขึ้นเกมส์จากแดนกลางของเกาหลีใต้ ถือว่าทำได้ดีทั้ง 3 คน เพราะโปรตุเกส เข้าบีบเร็วทุกครั้งที่มิดฟิลด์เกาหลีใต้ได้บอล แต่ทีมพลังโสม ก็สามารถเอาตัวรอดออกมาได้ทุกครั้ง โดยเฉพาะ ฮวัง อิน - บอม ที่วันนี้เล่นดีมากๆ ทั้งการคุมจังหวะ การช่วยเกมส์รับ และการสนับสนุนเกมส์รุก ถือเป็นหัวใจในแดนกลางของเกาหลีในเกมส์นี้เลย
ผิดกับทางฝั่ง มาเธอุส นูเนส และ รูเบ็น เนเวส ที่มักก่อความผิดพลาด เมื่อนักเตะเกาหลีใต้เข้าถึงตัวเสมอๆ ซึ่งสำหรับผมเกมส์นี้ เกาหลีใต้เหมาะสมกับการเป็นผู้ชนะด้วยประการทั้งปวง
3.นักเตะที่ทำได้ต่ำกว่ามาตรฐาน
- คู่เซ็นเตอร์ของเกาหลีใต้ ถือว่าสร้างแผลให้กับเกาหลีใต้เยอะมากๆ สำหรับ ควอน คยอง - วอน และ คิม ยอง กวอน โดยทั้ง 2 คน ชอบทิ้งช่องว่างขนาดใหญ่ ตรงกลางระหว่างเซ็นเตอร์ แถมการยืนโซน ยังชอบหลุดตำแหน่งที่ตัวเองต้องประจำการ ทำให้ฝั่งโปรตุเกส ได้โอกาสทำประตูหลายครั้ง แต่โชคดีที่หมูหกกันไปเอง ไม่อย่างนั้น เกาหลีใต้อาจตกรอบไปแล้วก็เป็นได้
- รูเบ็น เนเวส และ มาเธอุส นูเนส มัดรวมกัน เนื่องจากก่อความผิดพลาดในลักษณะเดียวกัน โดยมักจะเสียบอลทุกครั้ง เมื่อเกาหลีใต้เข้าบีบเร็ว และผิดพลาดในลักษณะนี้อยู่หลายครั้ง ทำให้งานหนัก ต้องไปตกอยู่ที่วิตินญา ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากๆ ในเกมส์นี้ สำหรับการเอาตัวรอดในแดนกลาง และการสร้างเกมส์รุก
- เชา มาริโอ ไม่อยากโทษเจ้าตัวมาก เนื่องจากตำแหน่งของเจ้าตัว คือมิดฟิลด์ แต่ถูกจับมาเล่นเป็นตัวริมเส้นในเกมส์นี้ โดยมักหุบเข้ามาตรงกลางอยู่ตลอดเวลา ทำให้จังหวะสร้างเกมส์รุกบริเวณริมเส้น เชา คันเซโล่ ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัว เลี้ยงแหวกเข้าไปในเขตโทษด้วยตัวเองอยู่หลายครั้ง
- คริสเตียโน โรนัลโด เป็นการผิดพลาดในลักษณะนี้มา 3 เกมส์ติดต่อกันแล้วสำหรับโรนัลโด้ คือ การจบสกอร์ โดยเจ้าตัวได้โอกาสหลายครั้งมากๆ ในการทำประตู แต่แทบทุกจังหวะ ไม่ค่อยได้สร้างความอันตรายให้คู่ต่อสู้ได้เลย และจังหวะที่ทีมต้องการประตู เจ้าตัวก็ถูกเปลี่ยนออกไปในที่สุด ไม่น่าเชื่อว่าเราจะมาถึงจุดนี้ จุดที่ทีมต้องการประตู แต่โรนัลโด้ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม
** ถือว่าเหมาะสม กับการเป็นผู้ชนะจริงๆ ในเกมส์นี้สำหรับเกาหลีใต้ จากความมุ่งมั่นตั้งแต่วินาทีแรก จนถึงวินาทีสุดท้าย แต่ข้อเสียที่พวกเขาควรต้องแก้ คือ การโดนออกนำไปก่อน จากการเสียสมาธิ และการเล่นเกมส์รับที่ไม่ละเอียด ยิ่งเกมส์หน้า โอกาสที่คู่ต่อสู้จะเป็นบราซิล มีค่อนข้างสูง เกาหลีใต้จึงควรมีความละเอียด ในการเล่นเกมส์รับมากกว่านี้
ทางฝั่งโปรตุเกส ถึงแม้จะเข้ารอบ แต่เรามักจะเห็นการเล่นลักษณะนี้ ของพวกเขาอยู่หลายครั้ง คือ จังหวะสุดท้ายที่สมควรต้องเป็นประตู พวกเขามักทำได้ไม่ดีพอ อย่างเช่นเกมส์นี้กับเกาหลีใต้ ที่พลาดโอกาสทองในหลายๆ จังหวะ ถ้าอยากจะไปให้ไกล โปรตุเกสเองก็ต้องแก้ปัญหาในจุดนี้เช่นกัน