ล่างสุดของภาคกลาง เป็นคอขวาน บ้างแหล่งใต้
ภาระกิจพาเพื่อนไปเที่ยวในวันเกิดจัดต่อเนื่องแบบทริปสมุทร….ที่เพื่อนทำกับเราไว้ เราไม่ได้โกรธแต่เราจำ ! งั้นรอบนี้เราจะพาลงไปไกลกว่าเดิม จัดคอนเซป “จะตบหัวแล้วลูบหลัง” ให้รู้ว่ามันจะสนุกเพียงใด “ประจวบคีรีขันธ์” รอฉันสักประเดี๋ยวนะ เพราะตอนนี้ พระราม 2 ถนนแห่งโลกอนาคตยังติดแหงกอยู่เลย
ปิดตาสับขาหลอก
หลังจากอาหารมื้อสำคัญที่เป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในหม้อทองพร้อมท็อปปิ้งจากร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง บรรเทาความหิวและพาเราหลับพร้อมกับความเหนื่อยล้าจากการกำงานมาทั้งวัน
เช้านี้เราจะพาร่างไปเหนื่อยต่อ ปิดตาเพื่อนเหมือนที่เราโดนปิด พอรถจอดสนิทก็จูงแขนพาเดิน เท้าที่เริ่มแตะริมหาดทราย บ้างหลอกให้ก้าวหลบหลุม (ทั้ง ๆ ที่ไม่มีหลุม) ก็สร้างสีสันและความลำบากทั้งคนจูงและคนถูกจูง เสียงคลื่น ๆ สายลมและแสงแดด (แบบแรง ๆ) เป็นองค์ประกอบ และใช้แล้วสถานที่ ๆ จะพาเพื่อน และเราเองมาก็คือ ”เขากะโหลก”
สูง-เหงา-เพราะเขาแหละ
สถานที่แห่งนี้เข้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย จากการสอบถามเส้นทาง จนท. บอกให้เดินไปตามทางแล้วจะมีบันไดและทางเดินขึ้นไปยังจุดชมวิว เขาลูกนี้ที่เรียกเขากะโหลก เพราะว่าถ้าหากไปยืนที่หาดแล้วหันหลังให้ทะเล แล้วมองกลับมาที่เขา (ไม่ได้มองเรา) จะเห็นเป็นลักษณะคล้ายรูปหัวกะโหลกมนุษย์ขนาดใหญ่ เขากะโหลกตั้งอยู่บนพื้นที่รับผิดชอบของ วนอุทยานท้าวโกษาฯ กลับมาเดินกันต่อ หลังจากเปิดตาเพื่อนร้อง อ้า !! ว่าพาฉันมาทำอะไร อ๋อ..เดินไงครับ เดินเบา ๆ เอ้า ๆ รีบเดินไป
หลังจากเริ่มออกเดิน ทางที่เดินไม่ง่ายอย่างที่เราวาดไว้ บางเส้นทางต้องอาศัยแรงดึงตัวขึ้นประมาณนึง แต่ตลอดทางมีเส้นเชือกมัดเป็นแนวเขตไว้ คงไม่ให้เราออกนอกเส้นทาง อ๋อป่าว เอาไว้ให้เราเหนี่ยวและดึงตัวขึ้นไปก็เป็นได้ ตลอดเส้นทาง เล่นเหนื่อยพอดู บ่นร้องเป็นเก๊า ๆ เก๊าไม่ไหวแง๊ว~ ตลอดทาง เดินประมาณ 300 เมตร ก็ถึงจุดชมวิวยังที่หมาย โอเคร คุ้มแหละ
มาเตือน
ขากลับเหมือนแถบจะกลับขา ทางเดินลงยากพอสมควร เพราะสัมภาระที่แบกกันมา (เพื่ออะไร) แต่ไม่ยากไปสำหรับท้องที่เริ่มหิว ในขณะที่ลงมานั้นมีถ้ำ ๆ นึงที่เป็นทางผ่านเราก็ตัดสินใจกันว่า จะลองลงไปไหมอาจจะเป็นทางผ่านเพื่อไปอีกฝั่งนึงก็เป็นได้
ลงประชามติหาเหตุผล 1 2 3 มาว่าจะไปหรือไม่ไปดี คิดแผนสำหรับเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นเพราะ มันก็ไม่ได้เหมือนทางที่จะเดินไปปกติแต่ก็ไม่มีป้ายติด เดินสนไปวนมาตัดสินใจจะก้าวขาหย่อนตัว ฉึบ !!! โอเคร กลับกันทางเดิมก็แล้วกัน ค้างคาวเขาบินออกมาเตือน
พลูวิลล่า
จัดเสบียงเที่ยง ร้านไก่ย่างตรงข้ามเขากะโหลก เพื่อไปกินเอาบ่ายกว่า แผนการเซอไพร์เพื่อนจบลงด้วยความ complete พาเพื่อนมาลำบาก แบบทุลักทุเล เอ้า ! แต่ลืมไปว่าเราเองก็มาด้วย… หลังอิ่มหนำ รอย่อยจนคล้อยหลับ ก็เปลื้องผ้าคว้าชุดว่ายน้ำลงสระเอาไขมันที่กินนั้นออกไปบ้าง ท้องฟ้าเป็นใจคงไม่อยากให้เราผอมไป ก็พาฝนห่าใหญ่ทำให้ต้องลุกวิ่งกลับเข้าไปนอนเป็นหมูเช่นเคย
สามตาล กับสาวสามคน
อีกหนึ่งปัจจัย 4 ที่ต้องมีในทริปนี้ คือการ “กิน” คำสอนเขาว่าเราต้องกินเพื่ออยู่ แต่ถ้าวันนึงเราไม่อยู่เดี๋ยวจะไม่ได้กิน ฉะนั้นเราต้องกินของที่ชอบก่อนที่จะไม่อยู่ แต่ถ้าแม่ค้าไม่อยู่เราก็อดกิน…. หมึกสด จากเรือพื้นบ้านถูกสั่งให้ชำแหละแล้วย่าง บนเตาที่คิดมูลค่าดำเนินการเพียง 40 บาท เราเป็นสายใช้ตังค์แก้ปัญหาเพราะเตาถ่านไม่ได้เอามา ขืนไปหาเองน่าจะแพงกว่า 40 ก็เป็นได้ สั่งเสร็จแวะตลาด ใกล้ ๆ จับจ่ายของเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยสำหรับมื้อเย็นนี้
ขากลับแวะผ่านอีก 1 sig ที่ใครเขามาก็ต่างจอดรถแวะ ชักภาพกับตาล 3 ต้นที่ ตั้งเด่นสูงไม่ได้ดูโยกเยกตามรากฐาน ที่ดูเหมือนไม่แข็งแรง 3 ต้นตาลกับนางแบบสมาชิกสาวอีก 3 คน ดี ๆ ถ่ายกันเพลิน เดินเพลินชมเกียวคลื่นที่ม้วนเข้าฝั่ง ทะเลกำลังมืดลงทีละน้อย ๆ …เดี๋ยวเพื่อนเราลืมปลาหมึก…
ทะเลยามเช้า
ยามเช้าสดชื่นเสมอมีคนเคยบอกว่า “ตื่นนอนตอนเช้า เป็นกำไรของชีวิต” แต่ถ้าเราตื่นสายได้อีกสักนิดขอบตาน่าจะสดใสขึ้นกว่านี้แน่นอน ทะเลตอนเช้า กับลมเย็น ๆ ที่พัดมาปะทะกาย ความเย็นของน้ำที่เป็นคลื่นม้วนมากระทบเท้าเปลือยเปล่าที่ย่ำก้าวไปบนพื้นทรายละเอียดฝูงปูเล็กวิ่งเข้ารูกันระงม
เมื่อเราเดินผ่าน ชายหาดเงียบสงบ พอที่จะทำให้ใจได้ใคร่ครวญค้นพบหาคำตอบในบางเรื่อง เผลอไม่นาน เท้าที่ก้าวไปแบบไม่ได้คิดอะไรก็พาเรามายืนอยู่หน้าถ้ำที่เกิดจากน้ำที่กัดเซาะที่สุดปลายแหลม ที่แห่งนี้สวยงามเหลือเกินยามผู้คนน้อยนิด แต่หากจะวัดใจเดินเข้าไปอีกสักนิดก็กลัวจะเจอแบบเหตุการณ์มะวาน งั้นกลับดีกว่าเดี๋ยวงานจะมา
เครดิตเงินไม่คืน
สำหรับที่พักเรานี้เช้านี้เป็นมื้อที่ 2 ของเรา เจ้าของน่ารักมาก เป็นกันเอง และใจดี พอดีมีหมึกและของทะเลที่ไม่หมดจากเมื่อคืน เช้านี้เราเลยขอยืมเตาไมโครเวฟ พี่เขาอุ่นเพื่อจะเป็นเมนูข้าวต้ม หมู หมึก กุ้ง ไข่เจียว ต้มยำ และอีกต่าง ๆ ที่เหลืออยู่ …พี่เขาไม่งอแงเลย
งั้นเอาเป็นว่า เดี่ยวจะลงรูปที่พักรีวิวให้พี่เขาหน่อยแล้วกัน KP Resort สถานที่พักของเราที่ได้ราคามาไม่แรง บ้านพักเป็นหลัง ๆ มีที่ปิ้งย่างแยกหากใช้เตาถ่าน แต่ถ้ากินข้าวมีโต๊ะที่หน้าบ้านเลย มีสระว่ายน้ำมีที่สไลเดอร์ บรรยากาศร่มรื่นเหมือนที่บอกเบื้องต้น และที่สำคัญเตียงนอนถือว่าดีเลย 1 ห้อง นอนได้ 4 คน หากใครสนใจมาที่นี่ใกล้กับเขากะโหลกมาก
โปรดติดตามตอนต่อไป
จากลิงค์ด่านล่าง --วัดเขากะโหลก คาเฟ่ลับขากลับ กทม.
- เสือซ่อนยิ้ม -
[CR] เขากะโหลก ที่ไม่กะลา - ประจวบคีรีขันธ์
ภาระกิจพาเพื่อนไปเที่ยวในวันเกิดจัดต่อเนื่องแบบทริปสมุทร….ที่เพื่อนทำกับเราไว้ เราไม่ได้โกรธแต่เราจำ ! งั้นรอบนี้เราจะพาลงไปไกลกว่าเดิม จัดคอนเซป “จะตบหัวแล้วลูบหลัง” ให้รู้ว่ามันจะสนุกเพียงใด “ประจวบคีรีขันธ์” รอฉันสักประเดี๋ยวนะ เพราะตอนนี้ พระราม 2 ถนนแห่งโลกอนาคตยังติดแหงกอยู่เลย
ปิดตาสับขาหลอก
หลังจากอาหารมื้อสำคัญที่เป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในหม้อทองพร้อมท็อปปิ้งจากร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง บรรเทาความหิวและพาเราหลับพร้อมกับความเหนื่อยล้าจากการกำงานมาทั้งวัน
เช้านี้เราจะพาร่างไปเหนื่อยต่อ ปิดตาเพื่อนเหมือนที่เราโดนปิด พอรถจอดสนิทก็จูงแขนพาเดิน เท้าที่เริ่มแตะริมหาดทราย บ้างหลอกให้ก้าวหลบหลุม (ทั้ง ๆ ที่ไม่มีหลุม) ก็สร้างสีสันและความลำบากทั้งคนจูงและคนถูกจูง เสียงคลื่น ๆ สายลมและแสงแดด (แบบแรง ๆ) เป็นองค์ประกอบ และใช้แล้วสถานที่ ๆ จะพาเพื่อน และเราเองมาก็คือ ”เขากะโหลก”
สูง-เหงา-เพราะเขาแหละ
สถานที่แห่งนี้เข้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย จากการสอบถามเส้นทาง จนท. บอกให้เดินไปตามทางแล้วจะมีบันไดและทางเดินขึ้นไปยังจุดชมวิว เขาลูกนี้ที่เรียกเขากะโหลก เพราะว่าถ้าหากไปยืนที่หาดแล้วหันหลังให้ทะเล แล้วมองกลับมาที่เขา (ไม่ได้มองเรา) จะเห็นเป็นลักษณะคล้ายรูปหัวกะโหลกมนุษย์ขนาดใหญ่ เขากะโหลกตั้งอยู่บนพื้นที่รับผิดชอบของ วนอุทยานท้าวโกษาฯ กลับมาเดินกันต่อ หลังจากเปิดตาเพื่อนร้อง อ้า !! ว่าพาฉันมาทำอะไร อ๋อ..เดินไงครับ เดินเบา ๆ เอ้า ๆ รีบเดินไป
หลังจากเริ่มออกเดิน ทางที่เดินไม่ง่ายอย่างที่เราวาดไว้ บางเส้นทางต้องอาศัยแรงดึงตัวขึ้นประมาณนึง แต่ตลอดทางมีเส้นเชือกมัดเป็นแนวเขตไว้ คงไม่ให้เราออกนอกเส้นทาง อ๋อป่าว เอาไว้ให้เราเหนี่ยวและดึงตัวขึ้นไปก็เป็นได้ ตลอดเส้นทาง เล่นเหนื่อยพอดู บ่นร้องเป็นเก๊า ๆ เก๊าไม่ไหวแง๊ว~ ตลอดทาง เดินประมาณ 300 เมตร ก็ถึงจุดชมวิวยังที่หมาย โอเคร คุ้มแหละ
ขากลับเหมือนแถบจะกลับขา ทางเดินลงยากพอสมควร เพราะสัมภาระที่แบกกันมา (เพื่ออะไร) แต่ไม่ยากไปสำหรับท้องที่เริ่มหิว ในขณะที่ลงมานั้นมีถ้ำ ๆ นึงที่เป็นทางผ่านเราก็ตัดสินใจกันว่า จะลองลงไปไหมอาจจะเป็นทางผ่านเพื่อไปอีกฝั่งนึงก็เป็นได้
ลงประชามติหาเหตุผล 1 2 3 มาว่าจะไปหรือไม่ไปดี คิดแผนสำหรับเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นเพราะ มันก็ไม่ได้เหมือนทางที่จะเดินไปปกติแต่ก็ไม่มีป้ายติด เดินสนไปวนมาตัดสินใจจะก้าวขาหย่อนตัว ฉึบ !!! โอเคร กลับกันทางเดิมก็แล้วกัน ค้างคาวเขาบินออกมาเตือน
จัดเสบียงเที่ยง ร้านไก่ย่างตรงข้ามเขากะโหลก เพื่อไปกินเอาบ่ายกว่า แผนการเซอไพร์เพื่อนจบลงด้วยความ complete พาเพื่อนมาลำบาก แบบทุลักทุเล เอ้า ! แต่ลืมไปว่าเราเองก็มาด้วย… หลังอิ่มหนำ รอย่อยจนคล้อยหลับ ก็เปลื้องผ้าคว้าชุดว่ายน้ำลงสระเอาไขมันที่กินนั้นออกไปบ้าง ท้องฟ้าเป็นใจคงไม่อยากให้เราผอมไป ก็พาฝนห่าใหญ่ทำให้ต้องลุกวิ่งกลับเข้าไปนอนเป็นหมูเช่นเคย
อีกหนึ่งปัจจัย 4 ที่ต้องมีในทริปนี้ คือการ “กิน” คำสอนเขาว่าเราต้องกินเพื่ออยู่ แต่ถ้าวันนึงเราไม่อยู่เดี๋ยวจะไม่ได้กิน ฉะนั้นเราต้องกินของที่ชอบก่อนที่จะไม่อยู่ แต่ถ้าแม่ค้าไม่อยู่เราก็อดกิน…. หมึกสด จากเรือพื้นบ้านถูกสั่งให้ชำแหละแล้วย่าง บนเตาที่คิดมูลค่าดำเนินการเพียง 40 บาท เราเป็นสายใช้ตังค์แก้ปัญหาเพราะเตาถ่านไม่ได้เอามา ขืนไปหาเองน่าจะแพงกว่า 40 ก็เป็นได้ สั่งเสร็จแวะตลาด ใกล้ ๆ จับจ่ายของเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยสำหรับมื้อเย็นนี้
ขากลับแวะผ่านอีก 1 sig ที่ใครเขามาก็ต่างจอดรถแวะ ชักภาพกับตาล 3 ต้นที่ ตั้งเด่นสูงไม่ได้ดูโยกเยกตามรากฐาน ที่ดูเหมือนไม่แข็งแรง 3 ต้นตาลกับนางแบบสมาชิกสาวอีก 3 คน ดี ๆ ถ่ายกันเพลิน เดินเพลินชมเกียวคลื่นที่ม้วนเข้าฝั่ง ทะเลกำลังมืดลงทีละน้อย ๆ …เดี๋ยวเพื่อนเราลืมปลาหมึก…
ยามเช้าสดชื่นเสมอมีคนเคยบอกว่า “ตื่นนอนตอนเช้า เป็นกำไรของชีวิต” แต่ถ้าเราตื่นสายได้อีกสักนิดขอบตาน่าจะสดใสขึ้นกว่านี้แน่นอน ทะเลตอนเช้า กับลมเย็น ๆ ที่พัดมาปะทะกาย ความเย็นของน้ำที่เป็นคลื่นม้วนมากระทบเท้าเปลือยเปล่าที่ย่ำก้าวไปบนพื้นทรายละเอียดฝูงปูเล็กวิ่งเข้ารูกันระงม
เมื่อเราเดินผ่าน ชายหาดเงียบสงบ พอที่จะทำให้ใจได้ใคร่ครวญค้นพบหาคำตอบในบางเรื่อง เผลอไม่นาน เท้าที่ก้าวไปแบบไม่ได้คิดอะไรก็พาเรามายืนอยู่หน้าถ้ำที่เกิดจากน้ำที่กัดเซาะที่สุดปลายแหลม ที่แห่งนี้สวยงามเหลือเกินยามผู้คนน้อยนิด แต่หากจะวัดใจเดินเข้าไปอีกสักนิดก็กลัวจะเจอแบบเหตุการณ์มะวาน งั้นกลับดีกว่าเดี๋ยวงานจะมา
สำหรับที่พักเรานี้เช้านี้เป็นมื้อที่ 2 ของเรา เจ้าของน่ารักมาก เป็นกันเอง และใจดี พอดีมีหมึกและของทะเลที่ไม่หมดจากเมื่อคืน เช้านี้เราเลยขอยืมเตาไมโครเวฟ พี่เขาอุ่นเพื่อจะเป็นเมนูข้าวต้ม หมู หมึก กุ้ง ไข่เจียว ต้มยำ และอีกต่าง ๆ ที่เหลืออยู่ …พี่เขาไม่งอแงเลย
งั้นเอาเป็นว่า เดี่ยวจะลงรูปที่พักรีวิวให้พี่เขาหน่อยแล้วกัน KP Resort สถานที่พักของเราที่ได้ราคามาไม่แรง บ้านพักเป็นหลัง ๆ มีที่ปิ้งย่างแยกหากใช้เตาถ่าน แต่ถ้ากินข้าวมีโต๊ะที่หน้าบ้านเลย มีสระว่ายน้ำมีที่สไลเดอร์ บรรยากาศร่มรื่นเหมือนที่บอกเบื้องต้น และที่สำคัญเตียงนอนถือว่าดีเลย 1 ห้อง นอนได้ 4 คน หากใครสนใจมาที่นี่ใกล้กับเขากะโหลกมาก
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้