สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ข้าราชการ 100 คน ทำงานตั้งแต่ 22 อายุ 40 เงินเดือน +เงินประจำตำแหน่ง+ วิทยฐานะ+ ค่าวิชาชีพ รวมๆแตะ 40,000 ทั้ง 100 คน
งานเอกชน 100 คน ทำงานตั้งแต่ 22 อายุ 40 เงินเดือน รวมๆ แตะ 40,000 50 คนได้มั้ง
ยังต้องคิดอีกเหรอครับ ประเทศไทยคือรัฐ ข้าราชการนะ
ถ้าจะให้เปรียบเทียบว่าคุณต้องทำงานเอกชนเงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะดีกว่าข้าราชการ เมื่อทั้งสองด้านรวมทุกอย่าง ผมคิดว่า คนทำงานเอกชนตอ้งมีเงินเดือนเกิน ุ80,000+ ขึ้นไป ถึงจะพอวัดกับข้าราชการธรรมดาได้ในการทำงานจนถึงอายุ 60 และการต้องหาเงินเก็บหลังเกษียรน่ะนะ เพราะต่อให้คุณออมเดือนละสองหมื่น 10 ปี ยังไม่ทำบำนาญข้าราชการ 10 ปีเลย
นี้คือกรณีโชคดีสุดๆได้ทำเอกชนจนเกษียร แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้โชคดีขนาดนั้นนะ
นี้ไม่นับอีกหลายๆอย่างที่ราชการให้คุณได้ แต่เอกชนให้ไม่ได
เวลา >> ไม่ผลาญเวลาชีวิตคุณมาก เอาเวลาไปทำสวน ทำไร่ อาชีพเสริม นอนเล่นหุ้น ขายของออนไลน์ หลังเลิกงาน ได้อีก แบตยังไม่หมด
สุขภาพ >> มีเวลาดูแลสุขภาพ
ครอบครัว>> สวัสดิการให้พ่อแม่ลูก มีเวลาให้ครอบครัว ได้อยู่บ้านเกิด เอกชนใหญ่ๆเงินดีๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่บ้านเกิดคุณแน่ๆ
อำนาจ เกียรติยศ บารมี >> ตามสายงาน
ฉะนั้นถ้าเปรียบในแง่ มนุษย์เงินเดือน VS มนุษย์เงินเดือนไม่ต้องคิดมากครับ
งานเอกชน 100 คน ทำงานตั้งแต่ 22 อายุ 40 เงินเดือน รวมๆ แตะ 40,000 50 คนได้มั้ง
ยังต้องคิดอีกเหรอครับ ประเทศไทยคือรัฐ ข้าราชการนะ
ถ้าจะให้เปรียบเทียบว่าคุณต้องทำงานเอกชนเงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะดีกว่าข้าราชการ เมื่อทั้งสองด้านรวมทุกอย่าง ผมคิดว่า คนทำงานเอกชนตอ้งมีเงินเดือนเกิน ุ80,000+ ขึ้นไป ถึงจะพอวัดกับข้าราชการธรรมดาได้ในการทำงานจนถึงอายุ 60 และการต้องหาเงินเก็บหลังเกษียรน่ะนะ เพราะต่อให้คุณออมเดือนละสองหมื่น 10 ปี ยังไม่ทำบำนาญข้าราชการ 10 ปีเลย
นี้คือกรณีโชคดีสุดๆได้ทำเอกชนจนเกษียร แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้โชคดีขนาดนั้นนะ
นี้ไม่นับอีกหลายๆอย่างที่ราชการให้คุณได้ แต่เอกชนให้ไม่ได
เวลา >> ไม่ผลาญเวลาชีวิตคุณมาก เอาเวลาไปทำสวน ทำไร่ อาชีพเสริม นอนเล่นหุ้น ขายของออนไลน์ หลังเลิกงาน ได้อีก แบตยังไม่หมด
สุขภาพ >> มีเวลาดูแลสุขภาพ
ครอบครัว>> สวัสดิการให้พ่อแม่ลูก มีเวลาให้ครอบครัว ได้อยู่บ้านเกิด เอกชนใหญ่ๆเงินดีๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่บ้านเกิดคุณแน่ๆ
อำนาจ เกียรติยศ บารมี >> ตามสายงาน
ฉะนั้นถ้าเปรียบในแง่ มนุษย์เงินเดือน VS มนุษย์เงินเดือนไม่ต้องคิดมากครับ
ความคิดเห็นที่ 9
คุณควรจะต้องถามตัวเองก่อนค่ะ ว่าคุณอยู่แบบไหนแล้วมีความสุข ที่ไหนที่จะทำให้คุณมีความฝัน ความหวัง มีพลังงานต่อชีวิต ถามใน pantip ไปก็เท่านั้น เพราะเค้าไม่ใช่คุณ
จากใจเราที่เป็นคนเคยรับราชการ อยู่ได้สักพัก เรารู้สึกว่าไฟเรามอดไปเรื่อยๆ เราไม่อยากอยู่แบบนี้ สุดท้าย เราได้งานเอกชน เงินเดือนดี สวัสดิการดี ชีวิตมี work life balance มีความท้าทายและอนาคตอีกไกล ตอบโจทย์เรามากๆ
หลายๆคน ตอนเราออกก็บอกว่าออกทำไม ไม่มั่นคงงั้นงี้ แต่เค้าไม่ใช่เราค่ะ เกิดมาครั้งเดียว ชีวิตก็เป็นของเรา ฟังคนอื่นน้อยหน่อย ฟังตัวเองให้มากๆ
ปล. เราไม่ได้เชียร์ทางไหนเป็นพิเศษนะคะ แค่อยากให้คุณทบทวนตัวเอง ว่าที่ไหนใช่สำหรับคุณ
จากใจเราที่เป็นคนเคยรับราชการ อยู่ได้สักพัก เรารู้สึกว่าไฟเรามอดไปเรื่อยๆ เราไม่อยากอยู่แบบนี้ สุดท้าย เราได้งานเอกชน เงินเดือนดี สวัสดิการดี ชีวิตมี work life balance มีความท้าทายและอนาคตอีกไกล ตอบโจทย์เรามากๆ
หลายๆคน ตอนเราออกก็บอกว่าออกทำไม ไม่มั่นคงงั้นงี้ แต่เค้าไม่ใช่เราค่ะ เกิดมาครั้งเดียว ชีวิตก็เป็นของเรา ฟังคนอื่นน้อยหน่อย ฟังตัวเองให้มากๆ
ปล. เราไม่ได้เชียร์ทางไหนเป็นพิเศษนะคะ แค่อยากให้คุณทบทวนตัวเอง ว่าที่ไหนใช่สำหรับคุณ
ความคิดเห็นที่ 10
โจทย์น่าคิดไม่ตกจริง ๆ ถ้ามากกว่า 4-5 หมื่นซักหน่อย 7-8 หมื่นนี่น่าเซ็นสัญญาเลย
เราแชร์แบบนี้นะคะเผื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ สามีเรารับราชการเงินเดือน 20,500 เราทำงานบริษัทเงินเดือน 70,000 ค่ะ สามีเราค่อนข้างไม่มีความสุขกับเงินที่เขาได้รับ มันไม่พอค่ะถ้าพูดกันตรง ๆ ไหนจะโดนหักค่านั่นค่านี่ ดีที่เขาไม่ต้องส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่ ส่วนเราแฮปปี้กับชีวิตตัวเองมากค่ะ เรามีเก็บเดือนละหลักหมื่นทุกเดือนนะคะ และก็ใช้เงินกระจาย อยากกินอะไรกิน ไปไหนก็ได้ไปหมดในขณะที่เราก็มีเงินเก็บมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีกเดือนละเป็นหมื่น ตอนนี้เราอายุ 28 ค่ะ
โดยส่วนตัวเราแล้วไม่กลัวความไม่มั่นคงอะไรเลยค่ะเพราะค่อนข้างมั่นใจในศักยภาพของตัวเอง เราเลยเลือกทางนี้และไม่กลัวความไม่แน่นอนใด ๆ ที่จะเกิดขึ้น
ทีนี้ จขกท ต้องดูแล้วค่ะว่าตัวเองชอบชีวิตแบบไหนมากกว่ากัน สมถะในตอนนี้รออายุราชการเยอะ ๆ ค่อยได้ใช้ตังค์สบาย ๆ ตอนอายุมาก ๆ ใช้ชีวิตชิล ๆ ทำงานชิล ๆ ไม่กดดัน ไม่ต้องพัฒนาตัวเองเท่าไหร่ ไม่ปวดหัว
หรือชอบการทำงานบริษัทที่ต้องพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ ๆ ตลอดเวลา มีความกดดันจากผลประกอบการ ต้องดูแลลูกทีมหากเป็นหัวหน้างาน แต่เงินเดือนเขาขึ้นดีนะคะ ไหนจะโบนัสอีก มีเงินเหลือ ๆ มีเก็บจุก ๆ ทำประกันด้วยวงเงินคุ้มครองที่สูงกว่า กบข ได้ 10 เท่า แต่ๆๆต้องแลกด้วยการขยันพัฒนาตัวเอง ถ้าเป็นคนที่ Active มาก ๆ สนุกกับการคิดอะไรใหม่ ๆ มาทางนี้ค่ะ โอกาสมาหาถึงหน้าบ้านแล้วค่ะ
เราแชร์แบบนี้นะคะเผื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ สามีเรารับราชการเงินเดือน 20,500 เราทำงานบริษัทเงินเดือน 70,000 ค่ะ สามีเราค่อนข้างไม่มีความสุขกับเงินที่เขาได้รับ มันไม่พอค่ะถ้าพูดกันตรง ๆ ไหนจะโดนหักค่านั่นค่านี่ ดีที่เขาไม่ต้องส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่ ส่วนเราแฮปปี้กับชีวิตตัวเองมากค่ะ เรามีเก็บเดือนละหลักหมื่นทุกเดือนนะคะ และก็ใช้เงินกระจาย อยากกินอะไรกิน ไปไหนก็ได้ไปหมดในขณะที่เราก็มีเงินเก็บมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีกเดือนละเป็นหมื่น ตอนนี้เราอายุ 28 ค่ะ
โดยส่วนตัวเราแล้วไม่กลัวความไม่มั่นคงอะไรเลยค่ะเพราะค่อนข้างมั่นใจในศักยภาพของตัวเอง เราเลยเลือกทางนี้และไม่กลัวความไม่แน่นอนใด ๆ ที่จะเกิดขึ้น
ทีนี้ จขกท ต้องดูแล้วค่ะว่าตัวเองชอบชีวิตแบบไหนมากกว่ากัน สมถะในตอนนี้รออายุราชการเยอะ ๆ ค่อยได้ใช้ตังค์สบาย ๆ ตอนอายุมาก ๆ ใช้ชีวิตชิล ๆ ทำงานชิล ๆ ไม่กดดัน ไม่ต้องพัฒนาตัวเองเท่าไหร่ ไม่ปวดหัว
หรือชอบการทำงานบริษัทที่ต้องพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ ๆ ตลอดเวลา มีความกดดันจากผลประกอบการ ต้องดูแลลูกทีมหากเป็นหัวหน้างาน แต่เงินเดือนเขาขึ้นดีนะคะ ไหนจะโบนัสอีก มีเงินเหลือ ๆ มีเก็บจุก ๆ ทำประกันด้วยวงเงินคุ้มครองที่สูงกว่า กบข ได้ 10 เท่า แต่ๆๆต้องแลกด้วยการขยันพัฒนาตัวเอง ถ้าเป็นคนที่ Active มาก ๆ สนุกกับการคิดอะไรใหม่ ๆ มาทางนี้ค่ะ โอกาสมาหาถึงหน้าบ้านแล้วค่ะ
แสดงความคิดเห็น
เลือกอะไรดี ระหว่างทำงานบริษัทที่กรุงเทพฯ เงินเดือน 50,000 กับรับราชการที่บ้านเกิด
ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนต่างจังหวัด เคยได้มีโอกาสขึ้นมาทำงานกรุงเทพ ที่บริษัท A (บริษัทในฝันของใครหลายๆคน) ในตำแหน่งพนักงานทั่วไป Start 18,000 บาท เราทำได้ประมาณ 4 ปี (เงินเดือนเราประมาณ 23,000 บาท) ก็สอบเป็นพนักงานราชการได้ที่จังหวัดบ้านเกิด ตอนนั้นคิดแค่ว่าอยากกลับบ้านมาก เพราะคิดถึงลูก คิดถึงคนที่บ้าน เลยตัดสินใจกลับ แล้วไปนับ 1 ใหม่ ตอนนี้เราอายุ 32 ปี เรียน จบ ป.โท + สอบ กพ. ภาคก. ผ่าน เรียบร้อยแล้ว (ความหวังของแม่)
ตอนนี้ มันมีโอกาสดีๆ ชอบเข้ามาพร้อมๆ กัน คือ
1. กรมที่เราสังกัดอยู่ กำลังจะเปิดสอบตำแหน่ง....ปฏิบัติการ ซึ่งถ้าเราสอบได้ เราจะนับต่อได้ทั้งอายุราชการที่ทำมา (3 ปี) และเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น (รวมๆ แล้วประมาณ 17,500 บาท) แต่เราก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ไปบรรจุที่ไหน อย่างไร
2. หัวหน้าเก่าที่บริษัท A (กรุงเทพฯ) อยากให้กลับไปทำงานในตำแหน่งและเงินเดือนที่สูงขึ้น เค้าเสนอเงินเดือนให้ที่ 40,000-50,000 บาท
(บริษัทนี้มีโบนัส การันตีที่ 4-5 เดือนขึ้น /สวัสดิการอื่น ๆ ดีเลิศมากๆ /การเอาใจใส่ดูแลพนักงานดีมาก เราโคตรแฮปปี้ตอนที่ทำอยู่)
เราเลยอยากเห็นความคิดหลายๆมุมมอง เพื่อนๆ คิดเห็นยังไงกันบ้างคะ
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นน๊า ^^