สวัสดีครับวันนี้ผมมาแชร์ประสบการณ์ และถามแนวทางการแก้ปัญหาว่าผมควรทำยังไงกับเหตุการณ์นี้ได้บ้าง
                เริ่มแรกเลยมีโรงบาลแห่งหนึ่งโทรมาแจ้งให้คุณแม่ของผมไปตรวจสุขภาพฟรี แม่เลยเรียกให้ผมพาไป
พอไปถึงก็ได้ตรวจกันสองคนคือผมกับคุณแม่ โดยทางนั้นได้ทำการเจาะเลือดจากนิ้วไปส่องกล้องแล้วเอาขึ้นจอ อธิบายส่วนต่างๆในเลือดและเขาบอกว่า
    !!!ผมมีโลหะหนักเยอะกว่าคุณแม่!!! จากนั้นเข้าให้ไปนั่งรอข้างนอกมีพนักงานเดินเข้ามาคุย บอกว่ามันอันตรายมาก มันมีเยอะมากจนเม็ดเลือดแดงไม่สามารถกำจัดไปได้ ถ้าปล่อยไว้จะมีโอกาสเข้าเส้นเลือดอุดตันและมีโอกาสเป็นมะเร็งต่างๆนาๆ ทีนี้ผมก็เริ่มกลัว ก็ถามเขาว่าไม่มีทางที่ร่างกายจะกำจัดเองหรอ ถ้าออกกำลังกายหรือกินอาหารดีๆ เค้าบอกตอนนี้มันไม่สามารถกำจัดได้แล้วเพราะมันใหญ่กว่าเม็ดเลือดแดงไปแล้ว!!!!!!! ละก็ขู่ถึงอันตรายต่างๆ
(ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนเป็นโรคที่ต้องทำการรักษา) จากนั้นเค้าก็ขายคอร์สบอกมันต้องทำคีเลชั่น ครั้งละ 9000 บาท แต่เค้าบอกมีโปรเพราะโรงพยาบาลโทรไปหาเองลดครึ่งนึงเหลือครั้งละ 4500บาท แต่เค้าบอกต้องทำ20ครั้งถึงเห็นผล ก็คือ 90000บาท แต่ทีนี้คุณแม่ต่อราคาจนเหลือ 70000บาทได้แต่เค้าบอกจะรูดบัตรให้เลยถ้าได้ราคา 70000 ก็เลยได้คอร์สทำคีเลชั่นไปแบบงงๆ เพราะคุณแม่ก็กลัวเหมือนกันว่าผมจะเป็นอะไรไป แต่ก่อนจะซื้อผมก็ถามถึงข้อดีข้อเสียผลข้างเคียงถามเค้าว่า    มีข้อเสียไหม?เค้าตอบว่า -ไม่มี       มีผลข้างเคียงไหม? -ไม่มี  ถามว่ามีข้อดีอะไรบ้าง -ยาวเป็นกระกาษA4 มีแต่ข้อดีๆ                 หลังจากนั้นกลับมาบ้านผมได้ศึกษาหาข้อมูลก็มี ทั้งข้อดีข้อเสีย และผลข้างเคียงซึ่งไม่ตรงกับทางนั้นที่บอกไว้มันโฆษณาเกินจริง
จากนั้นก็ได้มีโอกาสคุยกับแพทย์อีกที่นึง เปิดรูปให้ดูถามว่าจากในรูปมันสามารถบอกได้ไหมว่ามีโลหะหนัก หมอตอบว่าไม่ได้ ต้องทำการตรวจหาโลหะหนักมันจะบอกได้ว่าเรามีโลหะหนักอะไรในเลือด ผลเลือดแค่นี้ไม่สามารถบอกได้  ผมก็เลยรู้สึกว่าทางโรงพยาบาลที่ผมซื้อคอร์สคีเลชั่นกล้าบอกได้อย่างไรว่าเรามีโลหะหนักเยอะมาก มันเป็นการโกหกเพื่อขายคอร์สหรือเปล่า หลอกลวงและโฆษณาเกินจริงหรือเปล่า มาเล่าเพื่อนเป็นอุทาหรณ์ให้กับเพื่อนๆฟังจะได้ไม่ต้องมาเครียดแบบผม ทั้งเสียดายเงินเสียดายเวลา และกลัวเอฟเฟคที่เกิดขึ้นโดยเหมือนการบังคับทำอย่างไม่เต็มใจ และผมควรทำอย่างไรต่อไปดีกับเหตุการณ์นี้