"ยุทธพงศ์" ป้อง "ชัชชาติ" ไม่เกี่ยวหนี้รถไฟฟ้า 4 หมื่นล้าน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_455581/
“ยุทธพงศ์” ซัดรัฐบริหารถไฟฟ้าเหลว ป้องหนี้ 4 หมื่นล้านไม่เกี่ยวผู้ว่าฯ”ชัชชาติ” ปัญหาเกิดมาก่อน แนะยกเลิกมติ คสช.กรณีส่วนต่อขยายนอกเขตกทม. โอนการบริหารคืนรฟม.เปิดประมูลตามพ.ร.บ.ร่วมทุน
นาย
ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า ที่ล่าสุด บีทีเอส ทวงหนี้4 หมื่นล้านบาท จากกทม.ว่า เรื่องดังกล่าว พรรคเพื่อไทยเปิดประเด็น และนำมาอภิปรายคัดค้าน ถึง 3 ครั้ง แต่การแก้ไขยังไม่คืบหน้า โดยปัญหาดังกล่าวสืบเนื่องมานาน และการก่อสร้างส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต และแบริ่ง – สมุทรปราการ ที่อยู่นอกเขตอำนาจกทม.ทำให้ กทม.ไม่สามารถอนุมัติเบิกจ่ายเงินได้
เพราะเป็นเรื่องของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่เป็นเจ้าภาพดำเนินการ แต่รัฐบาลคสช.ได้มอบให้กทม.ไปวิ่งรถแทน รฟม.และกทม.ได้ไปจ้างกรุงเทพธนาคม บริษัทลูก กทม.ซึ่งไปจ้างบีทีเอส ดำเนินการต่อ ทั้งที่เป็นทรัพย์ สินรฟม.โดยให้วิ่งรถไปถึงปี 2585 โดยวิธีพิเศษไม่มีการประมูล ไม่ผ่าน พ.ร.บ.ร่วมทุน ทั้งนี้มูลค่าหนี้ 4 หมื่นล้านบาท ส่วนแรกมีค่าระบบไฟฟ้า ส่วนที่ 2 คือปล่อยนั่งฟรีตั้งแต่ปี 2561 และส่วนที่3 เกิดจากจะควบรวมเป็นเส้นเดียวโดยให้สัมปทาน 40 ปีให้ กทม.ไม่ต้องจ่ายเงิน
ดังนั้น ปัญหาทั้งหมดเกิดจากรัฐบาล พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารล้มเหลว ที่เลี่ยงกฎหมายแล้วไปออก ม.44 และให้ กทม.รับโอนจาก รฟม.นำไปสู่การเจรจาและต่อสัมปทานล่วงหน้า
“
ปัญหาตรงนี้เกิดก่อนที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯ จึงเป็นเหตุผลที่นายชัชชาติ ไม่สามารถจ่ายเงินได้ เพราะส่วนต่อขยายดังกล่าวอยู่นอกเขตกทม.ซึ่งสภากทม.ไม่มีอำนาจเบิกจ่ายได้”
นาย
ยุทธพงษ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ขอเสนอทางออกคือให้กทม.โอนหนี้ และทรัพย์สินส่วนต่อขยายที่ 2 ที่วิ่งรถนอกเขตกทม.กลับคืนไปให้ รฟม.ส่วน รฟม.จะนำไปวิ่งรถหรือจะเปิดประมูลอย่างใดให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ร่วมทุน ไม่ควรให้เป็นภาระ กทม. นอกจากนั้น ครม.ควรมีมติยกเลิกคำสั่งคสช.ที่ 3 / 2562 กรณีส่วนต่อขยายสัมปทานนอกเขตกทม.โดยเร็วที่สุด
“ตรีชฎา” เย้ย “3 ป.” แตกคอ หลัง “อนุพงษ์” เปรยเตรียมวางมือทางการเมือง
https://siamrath.co.th/n/402702
วันที่ 26 พ.ย. 65 นางสาว
ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า หลังจาก พล.อ.
อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในงานสัมมนาหนึ่ง ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ว่าจะไม่ไปต่อทางการเมือง ใช้คำพูดว่า แก่แล้ว และ หมดไฟ ว่า อยากถามพล.อ.
อนุพงษ์ ว่าเหตุใดเพิ่งมาคิดหมดไฟยามนี้ หลังจากบ้านเมืองเจอวิกฤตอยู่ในสภาพถูกยึดอำนาจ ประเทศร่อแร่มาเป็นเวลา 8 ปี ยังไม่มีทีท่าจะหยุด แต่พอจังหวะขาลงของ 3ป. กลับทำตัวคล้ายทิ้งเรือแป๊ะเอาตัวรอดใช่หรือไม่ และหากพล.อ.
อนุพงษ์ ให้ความชัดเจนในเส้นทางชีวิตของตัวเองจริงอย่างที่พูด เท่ากับว่าการเมืองสมัยหน้า พี่น้อง 3 ป. จะเหลือแค่ 2 ป. คือ พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชาหรืออาจจะแพแตกไม่เหลือสัก ป. ก็เป็นได้ เพราะถึงขั้นมีการแบ่งข้างแบ่งคนเสมือน ใครรัก พล.อ.
ประวิตร ให้เลี้ยวซ้าย รัก พล.อ.
ประยุทธ์ให้เลี้ยวขวา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแน่
นางสาว
ตรีชฎา กล่าวว่า พล.อ.
ประวิตร มีความชัดเจนว่า เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและจะลงสนามเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ พล.อ.
ประยุทธ์ยังสร้างความสับสนอยู่เหมือนเดิมกรณีจะไปอยู่พรรคไหนระหว่างพลังประชารัฐ หรือ รวมไทยสร้างชาติ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้บอกกับนักข่าวว่า หลังประชุมเอเปค 2022 เสร็จจะประกาศท่าทีทางการเมือง แต่ล่าสุดยังตีโวหารว่า หลังประชุมเอเปคก็ปีหน้า อย่างนี้ไม่เรียกว่ากลับไปกลับมาหลอกล่อรายวันหรือเอียงอายไม่กล้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเพราะกลัวคนขุดคำพูดที่เคยด่านักการเมืองแบบเสียหายพอวันนี้กลืนน้ำลายที่ถ่มเอาไว้เต็มกลืนใช่หรือไม่ แต่อย่างไรก็ดี สภาพบ้านเมืองที่ประชาชนตกทุกข์ได้ยากมา 8 ปี เป็นประเทศได้นายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้เลือกเข้ามา หาก 3 ป.จะแตกหัก ยุบสภาลงจากอำนาจ ก็ควรแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่ให้อำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ ก่อนที่ตนเองจะไป จะถือเป็นบุญใหญ่ของประเทศ
นางสาว
ตรีชฎากล่าวทิ้งท้ายว่า จากสัญญาณความแตกหักของ 3 ป. จึงได้เห็นสภาพของคนที่เข้าประชุมสภาในซีกฝั่งรัฐบาลอยู่ในสภาพไร้หลัก บวกกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ง่อนแง่นจากความเห็นต่างเรื่อง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง สภาพยิ่งกว่าบ้านแตกสาแหรกขาด ฝ่ายรัฐบาลขาดเอกภาพ สภาพร้อมล่มทุกเวลา ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ได้เวลาทวงคืนอำนาจจาก 3ป. มาเป็นอำนาจของประชาชนแล้ว
ผู้นำยูเครน เผย 6 ล้านครัวเรือนไร้ไฟฟ้า หลังถูกโจมตีล่าสุด ขณะที่ฤดูหนาวเข้ามา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7385389
ผู้นำยูเครน เผย 6 ล้านครัวเรือนไร้ไฟฟ้า หลังถูกโจมตีล่าสุด ขณะที่ฤดูหนาวเข้ามา
วันที่ 26 พ.ย. บีบีซี รายงานสถานการณ์ของสงครามในยูเครนว่า ประธานาธิบดี
โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ระบุว่า ครัวเรือนยูเครน 6 ล้านหลังคาเรือนยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ หลังถูกขีปนาวุธโจมตีระลอกใหญ่เมื่อสัปดาห์นี้
นาย
เซเลนสกีแถลงเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า จนถึงตอนนี้ กระแสไฟฟ้ายังดับในหลายแคว้นส่วนใหญ่ และในกรุงเคียฟ ส่วนจำนวนครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบนั้นลดลงครึ่งหนึ่งตั้งแต่วันพุธที่ 23 พ.ย. อย่างไรก็ตาม หลายล้านคนยังไม่มีแสงไฟ น้ำประปา และความอบอุ่น ขณะที่ฤดูหนาวเข้ามา
นาย
เซเลนสกีกล่าวว่า กรุงเคียฟและแคว้นโดยรอบอยู่ในหลายพื้นที่ถูกโจมตีที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุด และว่า ผู้อยู่อาศัยหลายคนในกรุงเคียฟไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้เป็นเวลา 20-30 ชั่วโมง ส่วนพื้นที่อื่นๆ ที่อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุด ได้แก่ แคว้นโอเดซา ทางเหนือ แคว้นลวิว ทางตะวันตก ตลอดจนแคว้นวินนิตเซีย และแคว้นดนีโปรเปตรอฟสค์ ตอนกลาง
“ห
ากคุณเจอกระแสไฟฟ้าดับ ไม่ได้หมายความว่าปัญหาจะจบลง ได้โปรด หากคุณมีไฟฟ้า ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้ที่มีประสิทธิภาพหลายอย่างพร้อมกันในคราวเดียวได้ หนาวนี้เราต้องทน หนาวนี้เป็นหนาวที่ทุกคนจะจดจำ” นาย
เซเลนสกีกล่าว
ขณะที่นาย
เดนิส ชมีฮัล นายกรัฐมนตรียูเครน กล่าวว่า แม้จะถูกโจมตีหลายระลอก แต่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญๆ ส่วนใหญ่เกือบทั้งประเทศกลับมาเชื่อมต่อแล้ว รวมถึงหลายอย่าง เช่น น้ำประปา โรงผลิตความร้อน โรงพยาบาล และหน่วยงานบริการพลังงาน อย่างไรก็ตาม ประชาชนทั่วไปยังเผชิญการตัดกระแสไฟฟ้าตามกำหนดทั่วทุกแคว้นของยูเครน
มีความกลัวกันว่า เป้าหมายของรัสเซียในการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานยูเครน ประกอบกับหิมะตกและอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ อาจเกิดวิกฤตสาธารณสุขในประเทศ ยูเครนและพันธมิตรตะวันตกกล่าวมาตลอดว่า รัสเซียก่ออาชญากรรมโดยโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนสำคัญๆ แต่รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 25 พ.ย. ผู้ว่าการแคว้นเคอร์ซอนระบุว่า ผู้ป่วยโรงพยาบาลถูกอพยพจากพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากรัสเซียทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่สภาเมืองเคอร์ซอนระบุว่า ผู้อยู่อาศัย 15 รายเสียชีวิตในเมืองดังกล่าวเมื่อสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นเมืองที่กองกำลังยูเครนเพิ่งยึดคืนมาจากรัสเซีย
การโจมตีทางอากาศของรัสเซียมีขึ้นขณะที่หน่วยงานนิวเคลียร์ของสหประชาชาติระบุว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 3 แห่งในดินแดนของยูเครนเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าอีกครั้ง หลังถูกบังคับปิดระหว่างการโจมตีสัปดาห์นี้ โดยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งที่ 4 ในเมืองซาโปริฌเฌียที่รัสเซียควบคุม กลับมาเชื่อมต่อเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย.
JJNY : "ยุทธพงศ์"ป้อง"ชัชชาติ"| “ตรีชฎา”เย้ย“3 ป.”แตกคอ| ผู้นำยูเครน เผย 6 ล้านครัวเรือนไร้ไฟฟ้า| พิษส่งออกทุเรียนอ่อน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_455581/
“ยุทธพงศ์” ซัดรัฐบริหารถไฟฟ้าเหลว ป้องหนี้ 4 หมื่นล้านไม่เกี่ยวผู้ว่าฯ”ชัชชาติ” ปัญหาเกิดมาก่อน แนะยกเลิกมติ คสช.กรณีส่วนต่อขยายนอกเขตกทม. โอนการบริหารคืนรฟม.เปิดประมูลตามพ.ร.บ.ร่วมทุน
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า ที่ล่าสุด บีทีเอส ทวงหนี้4 หมื่นล้านบาท จากกทม.ว่า เรื่องดังกล่าว พรรคเพื่อไทยเปิดประเด็น และนำมาอภิปรายคัดค้าน ถึง 3 ครั้ง แต่การแก้ไขยังไม่คืบหน้า โดยปัญหาดังกล่าวสืบเนื่องมานาน และการก่อสร้างส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต และแบริ่ง – สมุทรปราการ ที่อยู่นอกเขตอำนาจกทม.ทำให้ กทม.ไม่สามารถอนุมัติเบิกจ่ายเงินได้
เพราะเป็นเรื่องของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่เป็นเจ้าภาพดำเนินการ แต่รัฐบาลคสช.ได้มอบให้กทม.ไปวิ่งรถแทน รฟม.และกทม.ได้ไปจ้างกรุงเทพธนาคม บริษัทลูก กทม.ซึ่งไปจ้างบีทีเอส ดำเนินการต่อ ทั้งที่เป็นทรัพย์ สินรฟม.โดยให้วิ่งรถไปถึงปี 2585 โดยวิธีพิเศษไม่มีการประมูล ไม่ผ่าน พ.ร.บ.ร่วมทุน ทั้งนี้มูลค่าหนี้ 4 หมื่นล้านบาท ส่วนแรกมีค่าระบบไฟฟ้า ส่วนที่ 2 คือปล่อยนั่งฟรีตั้งแต่ปี 2561 และส่วนที่3 เกิดจากจะควบรวมเป็นเส้นเดียวโดยให้สัมปทาน 40 ปีให้ กทม.ไม่ต้องจ่ายเงิน
ดังนั้น ปัญหาทั้งหมดเกิดจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารล้มเหลว ที่เลี่ยงกฎหมายแล้วไปออก ม.44 และให้ กทม.รับโอนจาก รฟม.นำไปสู่การเจรจาและต่อสัมปทานล่วงหน้า
“ปัญหาตรงนี้เกิดก่อนที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯ จึงเป็นเหตุผลที่นายชัชชาติ ไม่สามารถจ่ายเงินได้ เพราะส่วนต่อขยายดังกล่าวอยู่นอกเขตกทม.ซึ่งสภากทม.ไม่มีอำนาจเบิกจ่ายได้”
นายยุทธพงษ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ขอเสนอทางออกคือให้กทม.โอนหนี้ และทรัพย์สินส่วนต่อขยายที่ 2 ที่วิ่งรถนอกเขตกทม.กลับคืนไปให้ รฟม.ส่วน รฟม.จะนำไปวิ่งรถหรือจะเปิดประมูลอย่างใดให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ร่วมทุน ไม่ควรให้เป็นภาระ กทม. นอกจากนั้น ครม.ควรมีมติยกเลิกคำสั่งคสช.ที่ 3 / 2562 กรณีส่วนต่อขยายสัมปทานนอกเขตกทม.โดยเร็วที่สุด
“ตรีชฎา” เย้ย “3 ป.” แตกคอ หลัง “อนุพงษ์” เปรยเตรียมวางมือทางการเมือง
https://siamrath.co.th/n/402702
วันที่ 26 พ.ย. 65 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า หลังจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในงานสัมมนาหนึ่ง ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ว่าจะไม่ไปต่อทางการเมือง ใช้คำพูดว่า แก่แล้ว และ หมดไฟ ว่า อยากถามพล.อ.อนุพงษ์ ว่าเหตุใดเพิ่งมาคิดหมดไฟยามนี้ หลังจากบ้านเมืองเจอวิกฤตอยู่ในสภาพถูกยึดอำนาจ ประเทศร่อแร่มาเป็นเวลา 8 ปี ยังไม่มีทีท่าจะหยุด แต่พอจังหวะขาลงของ 3ป. กลับทำตัวคล้ายทิ้งเรือแป๊ะเอาตัวรอดใช่หรือไม่ และหากพล.อ.อนุพงษ์ ให้ความชัดเจนในเส้นทางชีวิตของตัวเองจริงอย่างที่พูด เท่ากับว่าการเมืองสมัยหน้า พี่น้อง 3 ป. จะเหลือแค่ 2 ป. คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาหรืออาจจะแพแตกไม่เหลือสัก ป. ก็เป็นได้ เพราะถึงขั้นมีการแบ่งข้างแบ่งคนเสมือน ใครรัก พล.อ.ประวิตร ให้เลี้ยวซ้าย รัก พล.อ.ประยุทธ์ให้เลี้ยวขวา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแน่
นางสาวตรีชฎา กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร มีความชัดเจนว่า เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและจะลงสนามเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ พล.อ.ประยุทธ์ยังสร้างความสับสนอยู่เหมือนเดิมกรณีจะไปอยู่พรรคไหนระหว่างพลังประชารัฐ หรือ รวมไทยสร้างชาติ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้บอกกับนักข่าวว่า หลังประชุมเอเปค 2022 เสร็จจะประกาศท่าทีทางการเมือง แต่ล่าสุดยังตีโวหารว่า หลังประชุมเอเปคก็ปีหน้า อย่างนี้ไม่เรียกว่ากลับไปกลับมาหลอกล่อรายวันหรือเอียงอายไม่กล้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเพราะกลัวคนขุดคำพูดที่เคยด่านักการเมืองแบบเสียหายพอวันนี้กลืนน้ำลายที่ถ่มเอาไว้เต็มกลืนใช่หรือไม่ แต่อย่างไรก็ดี สภาพบ้านเมืองที่ประชาชนตกทุกข์ได้ยากมา 8 ปี เป็นประเทศได้นายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้เลือกเข้ามา หาก 3 ป.จะแตกหัก ยุบสภาลงจากอำนาจ ก็ควรแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่ให้อำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ ก่อนที่ตนเองจะไป จะถือเป็นบุญใหญ่ของประเทศ
นางสาวตรีชฎากล่าวทิ้งท้ายว่า จากสัญญาณความแตกหักของ 3 ป. จึงได้เห็นสภาพของคนที่เข้าประชุมสภาในซีกฝั่งรัฐบาลอยู่ในสภาพไร้หลัก บวกกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ง่อนแง่นจากความเห็นต่างเรื่อง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง สภาพยิ่งกว่าบ้านแตกสาแหรกขาด ฝ่ายรัฐบาลขาดเอกภาพ สภาพร้อมล่มทุกเวลา ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ได้เวลาทวงคืนอำนาจจาก 3ป. มาเป็นอำนาจของประชาชนแล้ว
ผู้นำยูเครน เผย 6 ล้านครัวเรือนไร้ไฟฟ้า หลังถูกโจมตีล่าสุด ขณะที่ฤดูหนาวเข้ามา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7385389
ผู้นำยูเครน เผย 6 ล้านครัวเรือนไร้ไฟฟ้า หลังถูกโจมตีล่าสุด ขณะที่ฤดูหนาวเข้ามา
วันที่ 26 พ.ย. บีบีซี รายงานสถานการณ์ของสงครามในยูเครนว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ระบุว่า ครัวเรือนยูเครน 6 ล้านหลังคาเรือนยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ หลังถูกขีปนาวุธโจมตีระลอกใหญ่เมื่อสัปดาห์นี้
นายเซเลนสกีแถลงเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า จนถึงตอนนี้ กระแสไฟฟ้ายังดับในหลายแคว้นส่วนใหญ่ และในกรุงเคียฟ ส่วนจำนวนครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบนั้นลดลงครึ่งหนึ่งตั้งแต่วันพุธที่ 23 พ.ย. อย่างไรก็ตาม หลายล้านคนยังไม่มีแสงไฟ น้ำประปา และความอบอุ่น ขณะที่ฤดูหนาวเข้ามา
นายเซเลนสกีกล่าวว่า กรุงเคียฟและแคว้นโดยรอบอยู่ในหลายพื้นที่ถูกโจมตีที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุด และว่า ผู้อยู่อาศัยหลายคนในกรุงเคียฟไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้เป็นเวลา 20-30 ชั่วโมง ส่วนพื้นที่อื่นๆ ที่อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุด ได้แก่ แคว้นโอเดซา ทางเหนือ แคว้นลวิว ทางตะวันตก ตลอดจนแคว้นวินนิตเซีย และแคว้นดนีโปรเปตรอฟสค์ ตอนกลาง
“หากคุณเจอกระแสไฟฟ้าดับ ไม่ได้หมายความว่าปัญหาจะจบลง ได้โปรด หากคุณมีไฟฟ้า ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้ที่มีประสิทธิภาพหลายอย่างพร้อมกันในคราวเดียวได้ หนาวนี้เราต้องทน หนาวนี้เป็นหนาวที่ทุกคนจะจดจำ” นายเซเลนสกีกล่าว
ขณะที่นายเดนิส ชมีฮัล นายกรัฐมนตรียูเครน กล่าวว่า แม้จะถูกโจมตีหลายระลอก แต่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญๆ ส่วนใหญ่เกือบทั้งประเทศกลับมาเชื่อมต่อแล้ว รวมถึงหลายอย่าง เช่น น้ำประปา โรงผลิตความร้อน โรงพยาบาล และหน่วยงานบริการพลังงาน อย่างไรก็ตาม ประชาชนทั่วไปยังเผชิญการตัดกระแสไฟฟ้าตามกำหนดทั่วทุกแคว้นของยูเครน
มีความกลัวกันว่า เป้าหมายของรัสเซียในการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานยูเครน ประกอบกับหิมะตกและอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ อาจเกิดวิกฤตสาธารณสุขในประเทศ ยูเครนและพันธมิตรตะวันตกกล่าวมาตลอดว่า รัสเซียก่ออาชญากรรมโดยโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนสำคัญๆ แต่รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 25 พ.ย. ผู้ว่าการแคว้นเคอร์ซอนระบุว่า ผู้ป่วยโรงพยาบาลถูกอพยพจากพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากรัสเซียทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่สภาเมืองเคอร์ซอนระบุว่า ผู้อยู่อาศัย 15 รายเสียชีวิตในเมืองดังกล่าวเมื่อสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นเมืองที่กองกำลังยูเครนเพิ่งยึดคืนมาจากรัสเซีย
การโจมตีทางอากาศของรัสเซียมีขึ้นขณะที่หน่วยงานนิวเคลียร์ของสหประชาชาติระบุว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 3 แห่งในดินแดนของยูเครนเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าอีกครั้ง หลังถูกบังคับปิดระหว่างการโจมตีสัปดาห์นี้ โดยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งที่ 4 ในเมืองซาโปริฌเฌียที่รัสเซียควบคุม กลับมาเชื่อมต่อเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย.