คลองแม่ข่าอัมพวาสาขาเชียงใหม่

ด้วยความหลงเชียงใหม่ หรือหลงอะไรไม่รู้ที่เชียงใหม่ทำให้ผมต้องกลับมาจังหวัดนี้ทุกปี ปีนี้ก็เช่นกัน เทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมาผมก็หลงไปเชียงใหม่ ความสนใจของผมทั้งหมดก็มุ่งไปที่กิจกรรมต่างๆในวันลอยกระทง แทบจะไม่สนใจคลองแม่ข่า แต่ด้วยความนิยมของคลองสายนี้ในขณะนั้น วันสุดท้ายก่อนกลับผมเลยไปหากาแฟดื่มเพื่อดูบรรยากาศ
           
         

          แรกเห็นคลองสายนี้ในยามเช้า ๙ โมง ผมรับรู้ถึงความสงบ เสียงน้ำไหลไล่ระดับตั้งแต่หัวสะพานต้นทางเดินฟังแล้วสบายใจ เช้านี้คลองแม่ข่ายังไม่ตื่น ไร้นักท่องเที่ยว นักเดินทาง และพ่อค้าแม่ค้า ผมเดินผ่อนใจไปเรื่อยๆผ่านมุมถ่ายรูปน่าสนใจหลายมุม ทั้งหมดยังอยู่ในตรีมลอยกระทง กระทงโคมบัวยังลอยเหนือน้ำ มองขึ้นไปเห็นโคมยี่เป็งลอยเป็นสายหลายหลากสี ดอกดาวเรืองริมคลองยังบานอยู่ สีเหลืองสีเขียวของต้นดาวเรื่องตัดกันชูคลองแม่ข่าให้โดดเด่น กาแฟแก้วแรกยังหาไม่เจอ ผมก็เดินสังเกตบรรยากาศไปเรื่อยๆ

                     

          สิ่งที่ผมได้จากการสังเกต ผมนึกถึงแม่กำปอง เชียงคาน บ้านที่นี่ส่วนใหญ่สร้างจากไม้ ถ้าไม่ใช่ไม้กระดาน ก็เป็นไม้ไผ่สาน บางหลังทำจากปูน แทบทุกหลังหันหลังให้คลอง และปลูกสร้างไม่ถาวรนัก มีประตูเดี่ยวๆหลังบ้านออกทางเดินปูนริมคลองให้รู้ว่าหลังบ้าน ผมแอบมองเข้าไปในบ้าน ผมเข้าใจว่าผู้คนที่นี่เป็นชาวเขา ลักษณะการสร้างบ้านแสดงให้เห็นว่าชุมนุมที่นี่เกิดหลังคลองแม่ข่าเคยรุ่งเรืองเป็นทางสัญจร การหันหน้าให้ถนนจึงสำคัญกว่าคลอง ความแปลกประหลาดนี้น่าสนใจสำหรับผมให้อยากรู้ อยากเข้าใจและหาคำตอบ   

           

          
          ด้วยความอยากรู้ประวัติคลองแม่ข่า กูเกิ้ลผ่านมือถือก็ทยอยส่งคำตอบให้ว่า คลองแม่ข่ามีประวัติยาวนานตั้งแต่เริ่มสร้างเมืองเชียงใหม่เชื่อมโยงไปถึงเวียงกุมกาม เป็นแห่งน้ำสำคัญแต่โบราณ ทำหน้าที่เป็นคูเมืองชั้นนอก เป็นทางสัญจร และเป็นทางระบายน้ำล้นลงสู่แม่น้ำปิง จุดเปลี่ยนของคลองแม่ข่าเริ่มต้นตั้งแต่ถนนอัษฎาธรตัดผ่านเชื่อมถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง หน้าที่ และความสำคัญของคลองแม่ข่าก็หายไป พร้อมๆกับความอุดมสมบูรณ์ก็ลดน้อยลง น้ำที่เคยใส สัตว์น้อยใหญ่ที่เคยอยู่ก็หนีหายไปเพราะน้ำเสีย คลองแม่ข่ากลายเป็นคลองน้ำทิ้ง กลิ่นเหม็น น้ำเน่าคือภาพจำที่ผู้คนดั่งเดิมหนีห่าง ภายหลังจึงเกิดการบุกรุกของผู้เข้ามาใหม่เพื่ออยู่อาศัยกลายเป็นชุมชนแออัด เรื่องนี้สอดคล้อง และได้รับการยืนยันจากชาวบ้านในพื้นที่

            

          โดยชาวบ้านเล่าว่า ชาวบ้านชุมชนคลองแม่ข่าเข้ามาอยู่อาศัยโดยไม่มีกรรมสิทธิ์ ถ้าหันหลังให้ตัวสะพานหลักทางซ้ายจะเป็นที่สาธารณะ ทางขวาเป็นพื้นที่ราชพัสดุ(ได้แค่สิทธิ์การเช่า) และเดินตรงไปเป็นที่ของกรมศิลป์(ถ้าจำไม่ผิด) ปัญหาการเข้ามาอยู่อาศัยริมน้ำแม่ข่ามีมาแล้วหลายสิบปี มีการผลักดันให้ชาวบ้านรื้อถอนบ้านเรือนชุมชนออกไป แต่ชาวบ้านไม่ยอม มีการเจรจาต่อรองมาเป็นระยะ มีหน่วยงานที่เข้าเกี่ยวข้องหลายภาคส่วนทั้งข้าราชการ นักการเมือง และผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อขับไล่ชาวบ้าน และพัฒนาคลองแม่ข่าให้กลับมาสวยงามอุดมสมบูรณ์ขึ้น 

          จนมาถึงต้นปี ๒๕๖๓ สมัยผู้ว่าฯ เจริญฤทธ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าเชียงใหม่ในขณะนั้นได้ให้ความสำคัญกับชุมนุมและคลองแม่ข่า โดยวางแนวทางให้ชุมชนกับคลองพัฒนาไปร่วมกัน โดยผู้ว่าฯท่านนี้ได้เดินทางมาพูดคุยกับชาวบ้านด้วยตัวเอง ขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่จะฟื้นฟูคลองแม่ข่า ในฐานะคลองสำคัญทางประวัติศาสตร์ของมหานครเชียงใหม่เพื่อผลักดันให้ยูเนสโกพิจารณาเมืองเชียงใหม่เป็นเมืองมรดกโลก การพัฒนาคลองแม่ข่าจึงเริ่มต้นหลังจากนั้น โดยปรับปรุงคุณภาพน้ำ ภูมิทัศน์ให้สวยงาม สร้างทางเดินสองฝั่งริมน้ำ ก่อบล็อกคอนกรีตริ่มตลิ่งทั้งสองฝั่ง ปลูกดอกดาวเรืองประดับ สร้างสะพานให้เป็นจุดถ่ายรูป ประดับตกแต่งตามศิลปกรรมล้านนา ประดับไฟใส่แสงสี

          ปัจจุบันคลองแม่ข่าจึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่สวยงาม ชาวบ้านให้ความร่วมมือในการพัฒนาด้วยการประดับตกแต่งบ้านช่องหลังบ้านของตัวเองเป็นร้านค้า เป็นจุดถ่ายรูป ด้วยภาพเขียน แต้มสี วาดเส้นลายการ์ตูนตามรสนิยม และหัวศิลป์ของแต่ละบ้าน จนคลองแม่ข่ากลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่กำลังมาแรงใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่ เป็นแหล่งรายได้ของชาวบ้านที่ยังพัฒนาได้อีกมากในอนาคต

          

          ในขณะที่ชาวบ้านก็มีความกังวลว่า ทุนจากภายนอกที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็วจะทำให้ชุมชนของชาวบ้านกลายเป็นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ผลักดัน และลดทอนบทบาทของชาวบ้านด้วยกระแสเงิน ไล่ซื้อ เปลี่ยนบ้านเปลี่ยนชุมชนให้เป็นร้านค้า ร้านอาหาร และร้านเหล้า เป็นหลังบ้าน และสถานบันเทิงของคนเมือง ซึ่งแนวโน้มดูจะเป็นเช่นนั้น จากความกังวลที่ชาวบ้านเล่าให้ผมฟัง ทำให้ผมนึกถึงอัมพวาใกล้บ้านผม อัมพวาที่เรียบง่ายในความทรงจำวัยเด็กของผมถูกพัฒนากลายเป็นโฮมสเตย์ โรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าหรูหรา ร้านเหล้ามีระดับ กลายเป็นแหล่งหาของกิน ถ่ายรูปเล่น ร้านนั่งชิว กินเหล้าริมน้ำ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผมไปถ่ายรูปครั้งเดียว แต่ไปนั่งดื่มเหล้าบ่อยมาก ฟังเพลงเอาบรรยากาศริมน้ำ ผมว่าคลองแม่ข่าก็คงเหมือนอัมพวาสาขาเชียงใหม่ ไม่เกินปีสองปีก็คงเป็นเช่นนั้น

             

          ผมไม่ได้กาแฟแก้วแรกที่คลองแม่ข่า ผมอาจมาเร็วไปจึงหาได้แค่กาแฟกระป๋อง ก่อนกลับผมแวะถ่ายรูปคลองแม่ข่าอีกฝั่งของสะพานที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาใดๆ เป็นตลิ่งดินสภาพเดิมๆค่อนข้างรกด้วยต้นไม้ใบหญ้า ก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งยามเย็นเพราะผมอยากเห็นบรรยากาศที่คลองแม่ข่าตื่นพร้อมรับนักท่องเที่ยว ซึ่งแม่คลองแม่ข่าก็ไม่ได้ทำให้ผมผิดหวัง ยามเย็นของที่นี่แสงสวยจริงๆ สถานที่ ผู้คน บ้านเรือน ลำคลองให้องค์ประกอบภาพสวย ผมยอมรับว่าน่านั่งดื่มเหล้า กินหม่าล่า ชาบู หมูกระทะมาก เชียงใหม่ทำให้ผมหลงรักคลองแม่ข่าอีกที่แล้ว ร้ายจริงๆ ลาแล้วเชียงใหม่ที่รักเจอกันปีหน้า

          
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่