"ขอขอบคุณเพจ ป ปืนอย่างสูงครับ"
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/
ในปี 1941 วิศวกรออกแบบอาวุธ Erik Eklund แห่ง AB J.C. Ljungmans engineering company (LME) เมือง Malmo. สวีเดน ได้นำกลไกของปืนเล็กยาวแบบ SVT 40 มาเป็นแม่บทในออกแบบใช้งานกระสุนขนาด 6.5×55mm Swedish แต่เขาปรับปรุงระบบบริหารกลไกโดยใช้ระบบแก๊สเป่าลูกเลื่อนโดยตรงหรือ direct impingement gas system, แบบเดียวกับที่ใช้งานในปืนเล็กยาวแบบ MAS-49 หรือ AR15 ระบบขัดกลอนใช้ระบบตกกลอนขว้างกับโครงปืนหรือ tilting breech block แบบเดียวกับ Tokarev SVT-38/SVT-40,หรือ FN FNL
ในเวลานั้นกระสุนมาตรฐานขนาด 6.5×55mm Swedish ของสวีเดนออกแบบมาใช้งานกับปืนเล็กยาวแบบ Swedish Mauser หรือ Gevär m/96 (Model 1896 Rifle) คือ 6.5×55mm skarp patron m/94 projektil m/94 ใช้หัวกระสุนหัวมนยาวแบบ long round-nosed m/94 (B-projectile) หนัก156 เกรน ในปี1941 สวีเดนได้นำกระสุนแบบ 6.5×55mm skarp patron m/94 prickskytte m/41 ใช้หัวกระสุนแบบหัวแหลมท้ายเรียว spitzer bullet (D-projectile) หนัก 140 เกรน มาใช้งาน ซึ่งมีแรงดันรังเพลิงใช้งานไม่เหมาะสมกับปืนแบบกึ่งอัตโนมัติที่ Erik Eklund ออกแบบจึงมีการออกแบบกระสุนที่เหมาะสำหรับใช้งานกับปืนของเขาโดยเฉพาะขึ้นมา เนื่องจากปืนไม่มีระบบปรับแรงดันแก๊สใช้งาน
ในปี1942 ปืนได้รับคักเลือกเพื่อผลิตใช้งานในกองทัพสวิเดน ซึ่งทำการผลิตโดย Carl Gustafs Stads Gevärsfaktori ในเมือง Eskilstuna และได้ชื่อว่า Automatgevär m/42 หรือ Ag m/42 (และ AG42) และมีชื่อเรียกในหมู่นักสะสมคือ Ljungman AG-42 มีการผลิตออกมาใช้งานจำนวน 30,000 กระบอก เพราะกองทัพสวีเดนยังคงใช้งานปืนเล็กยาวแบบ Swedish Mauser อยู่
Automatgevär m/42 มีความยาวลำกล้องอยู่ที่ 24.5 นิ้ว ความยาวรวมของปืนคือ 47.8นิ้ว น้ำหนักตัวปืนเปล่า 4.71 กิโลกรัม ไม่รวมซองกระสุนบรรจุเต็มและดาบปลายปืน
ซองกระสุนของปืนบรรจุ10นัด สามารถถอดได้ รวมถึงสามารถบรรจุด้วยแหนบตับกระสุน(stripper clips) แหนบล่ะ5นัด ด้วยการเปิดค้างลูกเลื่อนแล้วบรรจุโดยตรง การถอดซองกระสุนจะมีคันปลดซองกระสุนอยู่ใต้โครงปืนหลังซองกระสุน (แบบAK) โดยการกดชิดซองกระสุน
ระบบศูนย์มีระยะหวังผล 100-800 เมตร คันนิรภัยติดตั้งอยู่บริเวรท้ายโครงปืน โดยเมื่อโยกไปทางซ้ายคือ พร้อมยิง โยกได้ทางขวาคือห้ามไก
ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงมีการพบปัญหาสนิม้รายแรงในระบบแก๊สของปืนและมีการแก้ใขโครงพานท้ายปืน ในปี1953ถึง1956 โดยมีการใช้ท่อแรงดันแก๊สเป็นสแตนเลสส ,ใช้ลูกบิน2ตัวสำหรับฝาครอบลูกเลื่อน,ปุ่มปรับศูนย์หลัง,ตัวกันปลอกกระสุนแบบยาง(rubber case-deflector,),ซองกระสุนมีเขี้ยวล๊อกหน้าซอง และแส้ทำความสะอาดลำกกล้อง โดยมีการตั้งชื่อรุ่นที่ปรับปรุงคือ Ag m/42B
Norwegian "police troops" ของนอร์เวย์ได้มีการฝึกในสวีเดนในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 และเมื่อสงครามสิ้นสุดลง ก็ได้นำ Ag m/42 ที่ไม่ได้ปรับปรุงกลับนอร์เวย์ด้วยส่วนหนึ่ง
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงได้มรการนำ Ag m/42 มีดัดแปลงใช้กระสุนขนาด 7.62 ใช้ลำกล้องสั้นลง ดัดแปลงโครงปืนใช้พานท้ายพับได้ของ Kulsprutepistol m / 45 submachine gun
ในช่วงสงครามเย็นกองทัพสวีเดนมีการจัดหาอาวุธปืนเล็กยาวแบบใหม่ มีการพยายามพัฒนาเป็น FM1957 ใช้ซองกระสุน 20 นัด ขนาด 6.5×55mm พัฒนาต่อมาเป็น FM 1957-60 ซึ่งเปลี่ยนจากกระสุนขนาด 6,5x55 mm มาเป็น 7,62x51 mm NATOถึงแม้ Carl Gustaf Stads gun factory(Bofors Carl Gustaf.) จะพัฒนาออกมาเป็น Assault rifle GRAM 63 ขนาด 7,62x51 mm NATOก็แพ้ให้แก้ปืนเล็กยาวแบบ H&K G3 ซึ่งสวีเดนก็ได้ license-produced มาผลิตเป็น AK 4 ในที่สุด ซึ่งผลิตโดย Husqvarna Vapenfabrik ช่วงปี1965–1970 และ Carl Gustafs Stads Gevärsfaktori ช่วงปี 1965–1985
Hakim & Rasheed
Ag m/42 มีการนำแบบไปผลิตโดย อียิปต์ คือ “Hakim” ขน่าด 7,92x57mm. และ "Rasheed", ขนาด7.62x39mm ผลิตโดย Ministry of Military Production, Factory 54 (Maadi) โดย สวีเดนได้ขายเครื่องมือ/เครื่องจักร และสิทธิบัตรในการผลิตให้แก่ อียิปต์ เป็นผู้ผลิตในช่วงยุค 1950-1960 ซึ่งมีการผลิตประมาณ 70,000 กระบอก
ขอบคุณที่ติดตามและขออภัยหากมีข้อผิดพลาดประการใดๆมา ณ.ที่นี้ครับ
Cr.
https://www.historicalfirearms.info/.../direct...
https://commons.wikimedia.org/wiki/Automatgev%C3%A4r_m/42
http://www.gotavapen.se/gota/artiklar/ag42/ag42eng.htm
https://en.topwar.ru/166581-novoe-iz-starogo-shvedskie...
http://www.gotavapen.se/gota/ak/ak4_5/ak5_history.htm
http://maksimov.su/.../187-ljungman-ag-42b-shvedskaya...
#Automatgevär_m42 #Ag_m42 #Ljungman_AG42 #ป_ปืน
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 1816 Automatgevär m/42 (Ag m/42, AG42, หรือ Ljungman)
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/
ในปี 1941 วิศวกรออกแบบอาวุธ Erik Eklund แห่ง AB J.C. Ljungmans engineering company (LME) เมือง Malmo. สวีเดน ได้นำกลไกของปืนเล็กยาวแบบ SVT 40 มาเป็นแม่บทในออกแบบใช้งานกระสุนขนาด 6.5×55mm Swedish แต่เขาปรับปรุงระบบบริหารกลไกโดยใช้ระบบแก๊สเป่าลูกเลื่อนโดยตรงหรือ direct impingement gas system, แบบเดียวกับที่ใช้งานในปืนเล็กยาวแบบ MAS-49 หรือ AR15 ระบบขัดกลอนใช้ระบบตกกลอนขว้างกับโครงปืนหรือ tilting breech block แบบเดียวกับ Tokarev SVT-38/SVT-40,หรือ FN FNL
ในเวลานั้นกระสุนมาตรฐานขนาด 6.5×55mm Swedish ของสวีเดนออกแบบมาใช้งานกับปืนเล็กยาวแบบ Swedish Mauser หรือ Gevär m/96 (Model 1896 Rifle) คือ 6.5×55mm skarp patron m/94 projektil m/94 ใช้หัวกระสุนหัวมนยาวแบบ long round-nosed m/94 (B-projectile) หนัก156 เกรน ในปี1941 สวีเดนได้นำกระสุนแบบ 6.5×55mm skarp patron m/94 prickskytte m/41 ใช้หัวกระสุนแบบหัวแหลมท้ายเรียว spitzer bullet (D-projectile) หนัก 140 เกรน มาใช้งาน ซึ่งมีแรงดันรังเพลิงใช้งานไม่เหมาะสมกับปืนแบบกึ่งอัตโนมัติที่ Erik Eklund ออกแบบจึงมีการออกแบบกระสุนที่เหมาะสำหรับใช้งานกับปืนของเขาโดยเฉพาะขึ้นมา เนื่องจากปืนไม่มีระบบปรับแรงดันแก๊สใช้งาน
ในปี1942 ปืนได้รับคักเลือกเพื่อผลิตใช้งานในกองทัพสวิเดน ซึ่งทำการผลิตโดย Carl Gustafs Stads Gevärsfaktori ในเมือง Eskilstuna และได้ชื่อว่า Automatgevär m/42 หรือ Ag m/42 (และ AG42) และมีชื่อเรียกในหมู่นักสะสมคือ Ljungman AG-42 มีการผลิตออกมาใช้งานจำนวน 30,000 กระบอก เพราะกองทัพสวีเดนยังคงใช้งานปืนเล็กยาวแบบ Swedish Mauser อยู่
Automatgevär m/42 มีความยาวลำกล้องอยู่ที่ 24.5 นิ้ว ความยาวรวมของปืนคือ 47.8นิ้ว น้ำหนักตัวปืนเปล่า 4.71 กิโลกรัม ไม่รวมซองกระสุนบรรจุเต็มและดาบปลายปืน
ซองกระสุนของปืนบรรจุ10นัด สามารถถอดได้ รวมถึงสามารถบรรจุด้วยแหนบตับกระสุน(stripper clips) แหนบล่ะ5นัด ด้วยการเปิดค้างลูกเลื่อนแล้วบรรจุโดยตรง การถอดซองกระสุนจะมีคันปลดซองกระสุนอยู่ใต้โครงปืนหลังซองกระสุน (แบบAK) โดยการกดชิดซองกระสุน
ระบบศูนย์มีระยะหวังผล 100-800 เมตร คันนิรภัยติดตั้งอยู่บริเวรท้ายโครงปืน โดยเมื่อโยกไปทางซ้ายคือ พร้อมยิง โยกได้ทางขวาคือห้ามไก
ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงมีการพบปัญหาสนิม้รายแรงในระบบแก๊สของปืนและมีการแก้ใขโครงพานท้ายปืน ในปี1953ถึง1956 โดยมีการใช้ท่อแรงดันแก๊สเป็นสแตนเลสส ,ใช้ลูกบิน2ตัวสำหรับฝาครอบลูกเลื่อน,ปุ่มปรับศูนย์หลัง,ตัวกันปลอกกระสุนแบบยาง(rubber case-deflector,),ซองกระสุนมีเขี้ยวล๊อกหน้าซอง และแส้ทำความสะอาดลำกกล้อง โดยมีการตั้งชื่อรุ่นที่ปรับปรุงคือ Ag m/42B
Norwegian "police troops" ของนอร์เวย์ได้มีการฝึกในสวีเดนในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 และเมื่อสงครามสิ้นสุดลง ก็ได้นำ Ag m/42 ที่ไม่ได้ปรับปรุงกลับนอร์เวย์ด้วยส่วนหนึ่ง
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงได้มรการนำ Ag m/42 มีดัดแปลงใช้กระสุนขนาด 7.62 ใช้ลำกล้องสั้นลง ดัดแปลงโครงปืนใช้พานท้ายพับได้ของ Kulsprutepistol m / 45 submachine gun
ในช่วงสงครามเย็นกองทัพสวีเดนมีการจัดหาอาวุธปืนเล็กยาวแบบใหม่ มีการพยายามพัฒนาเป็น FM1957 ใช้ซองกระสุน 20 นัด ขนาด 6.5×55mm พัฒนาต่อมาเป็น FM 1957-60 ซึ่งเปลี่ยนจากกระสุนขนาด 6,5x55 mm มาเป็น 7,62x51 mm NATOถึงแม้ Carl Gustaf Stads gun factory(Bofors Carl Gustaf.) จะพัฒนาออกมาเป็น Assault rifle GRAM 63 ขนาด 7,62x51 mm NATOก็แพ้ให้แก้ปืนเล็กยาวแบบ H&K G3 ซึ่งสวีเดนก็ได้ license-produced มาผลิตเป็น AK 4 ในที่สุด ซึ่งผลิตโดย Husqvarna Vapenfabrik ช่วงปี1965–1970 และ Carl Gustafs Stads Gevärsfaktori ช่วงปี 1965–1985
Hakim & Rasheed
Ag m/42 มีการนำแบบไปผลิตโดย อียิปต์ คือ “Hakim” ขน่าด 7,92x57mm. และ "Rasheed", ขนาด7.62x39mm ผลิตโดย Ministry of Military Production, Factory 54 (Maadi) โดย สวีเดนได้ขายเครื่องมือ/เครื่องจักร และสิทธิบัตรในการผลิตให้แก่ อียิปต์ เป็นผู้ผลิตในช่วงยุค 1950-1960 ซึ่งมีการผลิตประมาณ 70,000 กระบอก
ขอบคุณที่ติดตามและขออภัยหากมีข้อผิดพลาดประการใดๆมา ณ.ที่นี้ครับ
Cr.
https://www.historicalfirearms.info/.../direct...
https://commons.wikimedia.org/wiki/Automatgev%C3%A4r_m/42
http://www.gotavapen.se/gota/artiklar/ag42/ag42eng.htm
https://en.topwar.ru/166581-novoe-iz-starogo-shvedskie...
http://www.gotavapen.se/gota/ak/ak4_5/ak5_history.htm
http://maksimov.su/.../187-ljungman-ag-42b-shvedskaya...
#Automatgevär_m42 #Ag_m42 #Ljungman_AG42 #ป_ปืน