ทีวีดิจิทัล บุก กสทช. ร้องจัดสรรถ่ายบอลโลกไม่เท่าเทียม ยื่น 3 ข้อ ทบทวนถ่ายทอดสด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7375711
ทีวีดิจิทัล บุกกสทช. ร้องจัดสรรถ่ายบอลโลกไม่เท่าเทียม เอื้อประโยชน์เอกชนบางราย ทำชวดดูสดผ่านแพลตฟอร์มอื่น ยื่น 3 ข้อทบทวนถ่ายทอดสด
กรณี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ออกหนังสือ เรื่องการแจ้งสิทธิการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2022 ระบุว่า สิทธิการถ่ายทอดฟุตบอลโลกของกลุ่มทรู และขอให้ดำเนินการถ่ายทอดการแข่งขัน โดยไม่ละเมิดสิทธิของกลุ่มทรู ให้สอดคล้องกับกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะการถ่ายทอดสดบนระบบโทรทัศน์ภาคพื้นดิน จะนำไปเผยแพร่ตามประกาศกสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป พ.ศ.2555 ได้เฉพาะบนระบบดาวเทียม และระบบเคเบิลเท่านั้น ไม่รวมถึงบนระบบไอพีทีวี ระบบอินเตอร์เน็ต ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ และระบบ OTT นั้น
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 21 พ.ย.65 ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) พร้อมด้วยผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ยื่นหนังสือเรื่องการจัดสรรการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก (รอบสุดท้าย) 2022 ให้กับผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล อย่างเท่าเทียมและทั่วถึงทั้ง 64 คู่ ตลอดการแข่งขัน โดยมี พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เป็นตัวแทนมารับหนังสือ
สำหรับเนื้อหาในหนังสือที่นำมายื่นได้แสดงจุดยืนของสมาคมโทรทัศน์ระบดิจิตอล (ประเทศไทย)ในการยื่นหนังสือต่อกรรมการ กสทช. เพื่อวินิจฉัย หลักการการจัดสรรการถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2022 ตามที่สำนักงานกสทช.ผ่าน กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ให้เงินสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก (รอบสุดท้าย) จำนวน 600 ล้านบาท แก่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
เพื่อนำไปเป็นเงินตั้งต้นในการดำเนินการซื้อลิขสิทธิ์ การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) จากกรุงโดฮา รัฐกาตาร์ โดยมีหลักการตามบันทึกข้อตกลง ที่ระบุไว้ว่าให้จัดสรรการถ่ายทอดสดแก่ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงทั้ง 64 คู่ ตลอดการแข่งขัน
เนื่องด้วยการดำเนินการของการกีฬาแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการจัดสรรการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มต้นให้ประชุมเมื่อวันที่ 17 พ.ย.65 มีข้อพึงสังเกตถึงความไม่ถูกต้องในการจัดสรรการถ่ายทอด ในการนี้สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) จึงเรียนมายังคณะกรรมการกสทช. เพื่อโปรดตรวจสอบ และวินิจฉัยว่าการจัดสรรในครั้งนี้มีความถูกต้องเป็นธรรมหรือไม่ ตามรายละเอียดดังนี้
1. การได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 600 ล้านบาท จากกองทุนกทปส. ซึ่งเป็นเงินที่ได้ส่งมอบมาจากผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ เพื่อเป็นเงินทุนในการสนับสนุน ส่งเสริม วิจัย และพัฒนาในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ นั่นหมายถึงผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ร่วมสนับสนุนไปกับกิจกรรมนี้ด้วยเช่นกัน
การจัดสรรแมตซ์ในการถ่ายทอดสดให้แก่ช่องต่างๆ ควรเป็นไปตามมติในการให้เงินสนับสนุนของ กสทช.ทั้ง 64 แมตช์ (แบ่งสิทธิประโยชน์ตามสัดส่วนของการสนับสนุน คือคิดเป็น 40% ของ งบประมาณการซื้อลิขสิทธิ์ 1,400 ล้านบาท) ไม่ใช่เพียง 32 แมตช์ และได้รับหลังจากที่ผู้สนับสนุนหลัก (กลุ่มทรู ซึ่งมีธุรกิจเป็นช่องทีวีดิจิตอลด้วย) เลือกแมตช์สำคัญไปแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงความไม่ทั่วถึงและไม่เท่าเทียมอย่างมาก
2. กรณีกลุ่มทรูให้การสนับสนุนจำนวน 300 ล้านบาท ได้รับสิทธิประโยชน์ ครอบคลุมสิทธิ์การถ่ายทอด ทุกช่องทาง ทุกแพลตฟอร์ม แบบ exclusive ได้สิทธิ์ในการเลือกคู่แข่งขัน จำนวน 32 แมตช์ และได้นาทีโฆษณา จากช่องทีวีดิจิตอลที่ร่วมถ่ายทอดจาก กกท. รายละเอียดตามภาพประกอบ
ส่วน กสทช.สนับสนุนเงินผ่านกองทุนกทปส. จำนวน 600 ล้านบาท ด้วยมติต้องจัดสรรสิทธิ์การถ่ายทอด ให้แก่ช่องทีวีดิจิตอล ซึ่งเป็นแหล่งที่มารายได้ของกองทุน อย่างทั่วถึง เท่าเทียม ทั้ง 64 แมตช์ กลับได้รับการจัดสรรสิทธิ์เพียง 32 แมตช์ และเป็นแมตช์ที่เหลือจากที่กลุ่มทรูได้เลือกไปแล้ว ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ไม่เป็นธรรม และผิดต่อหลักการ “ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ” และเอื้อประโยชน์กับเอกชนรายใดรายหนึ่งอย่างชัดเจน
3. ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยจัดสรรการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกเรียบร้อยแล้วในวันที่ 19 พ.ย.65 ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. โดยให้สิทธิ์แก่กลุ่มทรูที่เป็นผู้สนับสนุนหลักได้เลือกแมตช์ต่างๆ ก่อนตามภาพประกอบ โดยแบ่งส่วนที่เหลือจากการเลือก 32 แมตช์ ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ทั้ง 21 ช่องที่ร่วมถ่ายทอด
โดยทั้งนี้สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) และสมาชิกช่องสถานี ทักท้วงหลายครั้งต่อกกท. ในหลักการที่ไม่สอดคล้องกับมติทั่วถึง เท่าเทียมเป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติของกสทช. แต่ทางกกท.ก็ยังยืนยันที่จะดำเนินการต่อไป
ในการนี้ทางสมาคมฯจึงเรียนมายังคณะกรรมการกสทช. เพื่อยืนยันว่าการที่สถานีโทรทัศน์ดิจิทัลของสมาชิก 13 ช่องที่เสนอรับสิทธิ์ร่วมถ่ายทอด ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของ กกท. ซึ่งขัดต่อหลักการ ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ
แต่ได้จำยอมร่วมจับฉลากไปในวันที่ 19 พ.ย.65 นั้น เหตุเพราะคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้ชมฟุตบอลโลก ที่จะถ่ายทอดสดคู่แรก ในวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย.65 เวลา 23.00 น. ให้สามารถดำเนินไปได้ก่อน และแจ้งต่อที่ประชุมของกกท. อย่างชัดเจนแล้ว การจับฉลากครั้งนี้สมาคมฯไม่ถือเป็นการยอมรับในหลักการและวิธีการของ กกท. ขอสงวนสิทธิ์ในการทักท้วงไม่เห็นด้วย ในการจัดสรรการถ่ายทอดของ กกท.
โดยเรียนมายังคณะกรรมการกสทช. เพื่อวินิจฉัยว่าการจัดสรรสิทธิการถ่ายทอดสดของกกท. เป็นไปโดยชอบ และขัดกับหลักการทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติของ กสทช.หรือไม่อย่างไร
‘พายุ’ แผลเริ่มแห้ง คนดังหลากวงการปิดตาขวา ติดแฮชแท็ก #ดวงตาหนึ่งดวงจะสร้างดาวอีกล้านดวง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3686067
‘พายุ’ แผลเริ่มแห้ง คนดังหลากวงการปิดตาขวา ติดแฮชแท็ก #ดวงตาหนึ่งดวงจะสร้างดาวอีกล้านดวง
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน สืบเนื่องกรณี “
พายุ ดาวดิน” นักกิจกรรมได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยางขณะสลายชุมนุมม็อบราษฎรหยุดเอเปคเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จนทำให้ดวงตาขวาเสี่ยงสูญเสียการมองเห็น โดยอาการล่าสุดในช่วงเย็นวันนี้ ผู้ใกล้ชิดเปิดเผยว่า แพทย์แจ้งว่าการมองเห็นของดวงตาขวาเท่ากับ 0 นอกจากนี้ ยังหวั่นกระทบม่านตาซ้ายในอนาคต
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. “
ตอง โรงต้ม” นักกิจกรรม รายงานอาการเช้าวันนี้ ดังนี้
“หมอศัลยกรรมเข้ามาตรวจแผลที่เย็บ ตอนนี้แผลที่เย็บเริ่มแห้งแล้ว และมีอาการบวมน้อยลง ไม่มีการติดเชื้อ น้ำตาผสมกับเลือดที่ไหลเริ่มน้อยลง โดยรวมถือว่าดีขึ้นตามลำดับ”
สำหรับกระแสในโลกออนไลน์ตามที่ นาย
อานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ชวนให้ประชาชนร่วมกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยการปิดตาด้านขวา ถ่ายภาพลงโซเชียลมีเดียเพื่อให้กำลังใจ
พายุ ยังคงมีบุคคลต่างๆ ถ่ายภาพปิดตาข้างขวา พร้อมติดแฮชแท็ก #ดวงตาหนึ่งดวงจะสร้างดาวอีกล้านดวง
อาทิ ผศ.
ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์คณะวิจิตรศิลป์ ม.เชียงใหม่,
คาล รีอัล นักเขียนชื่อดัง,
ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์ นักวิจารณ์ศิลปะชื่อดัง, นาง
ภัควดี วีระภาสพงษ์ นักแปลชื่อดัง เป็นต้น
กรมอุตุฯ เตือนฝนตก ชาวนาเร่งตากข้าวเปลือก หวั่นเก็บขายไม่ทันใช้หนี้ ธกส.
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7375585
นครราชสีมา กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนช่วงสัปดาห์นี้มีฝนตกหลายพื้นที่ ชาวบ้านเร่งตากข้าวเปลือก หวั่นแห้งไม่ทันเก็บขายใช้หนี้ ธกส.
21 พ.ย. 65 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ต่างพากันนำข้าวเปลือกมาตากแดด เพื่อไล่ความชื้น ก่อนนำไปขายให้กับโรงสีต่างๆ
ภายหลังจากที่ทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนว่า ช่วงระหว่างวันที่ 23-27 พ.ย.65 นี้ จะมีฝนตกลงมาในพื้นที่ จ.นครราชสีมาอีก ทำให้ชาวนาต้องเร่งตากข้าวไล่ความชื้นให้ได้ก่อนที่ฝนจะตกลงมา
นาง
สุพัตร แบบพิมาย อายุ 57 ปี ชาวนาบ้านท่าหลวง หมู่ที่ 11 ต.ท่าหลวง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้นำข้าวเปลือกที่เพิ่งให้รถเกี่ยวข้าวในนาของตนเองเสร็จ มาตากแดดไล่ความชื้นที่บริเวณลานหน้าเมรุ วัดบ้านท่าหลวง ซึ่งทางวัดได้เปิดพื้นที่ลานวัดให้ชาวบ้านได้นำข้าวมาตากแดดฟรี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่หาที่ตากข้าวไม่ได้
นาง
สุพัตร กล่าวว่า หลังจากที่เกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว ชาวนาทุกคนก็จะต้องหาที่นำข้าวมาตากแดดไล่ความชื้นก่อนที่จะนำไปขาย บางคนก็นำข้าวไปตากริมถนน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนได้
ดังนั้นเมื่อทางวัดบ้านท่าหลวง ได้เปิดพื้นที่ลานวัดให้นำข้าวเปลือกมาตากแดดได้ ตนเองจึงได้นำมาตากทันที เพราะกลัวว่าจะมีฝนตกลงมาทำให้ข้าวเปลือกแห้งไม่ทัน
ตนเองตั้งใจว่า ถ้าราคาข้าวสูงขึ้นกว่านี้จะนำข้าวบางส่วนที่แห้งแล้วแบ่งขายเพื่อมาใช้จ่ายค่าปุ๋ย ค่ายา ค่ารถเกี่ยวข้าว และใช้หนี้ ธกส. ซึ่งอีกส่วนก็จะนำไปเก็บไว้เป็นพันธุ์ข้าวปลูกในฤดูกาลต่อไป และนำมาบริโภคในครัวเรือน
JJNY : ทีวีดิจิทัลบุกกสทช.| คนดังหลากวงการปิดตาขวา| กรมอุตุฯ เตือนฝนตก หวั่นเก็บขายไม่ทัน| ผู้เชี่ยวชาญเตือน ‘ฝนหลงฤดู’
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7375711
กรณี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ออกหนังสือ เรื่องการแจ้งสิทธิการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2022 ระบุว่า สิทธิการถ่ายทอดฟุตบอลโลกของกลุ่มทรู และขอให้ดำเนินการถ่ายทอดการแข่งขัน โดยไม่ละเมิดสิทธิของกลุ่มทรู ให้สอดคล้องกับกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะการถ่ายทอดสดบนระบบโทรทัศน์ภาคพื้นดิน จะนำไปเผยแพร่ตามประกาศกสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป พ.ศ.2555 ได้เฉพาะบนระบบดาวเทียม และระบบเคเบิลเท่านั้น ไม่รวมถึงบนระบบไอพีทีวี ระบบอินเตอร์เน็ต ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ และระบบ OTT นั้น
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 21 พ.ย.65 ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) พร้อมด้วยผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ยื่นหนังสือเรื่องการจัดสรรการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก (รอบสุดท้าย) 2022 ให้กับผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล อย่างเท่าเทียมและทั่วถึงทั้ง 64 คู่ ตลอดการแข่งขัน โดยมี พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เป็นตัวแทนมารับหนังสือ
สำหรับเนื้อหาในหนังสือที่นำมายื่นได้แสดงจุดยืนของสมาคมโทรทัศน์ระบดิจิตอล (ประเทศไทย)ในการยื่นหนังสือต่อกรรมการ กสทช. เพื่อวินิจฉัย หลักการการจัดสรรการถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2022 ตามที่สำนักงานกสทช.ผ่าน กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ให้เงินสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก (รอบสุดท้าย) จำนวน 600 ล้านบาท แก่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
เพื่อนำไปเป็นเงินตั้งต้นในการดำเนินการซื้อลิขสิทธิ์ การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) จากกรุงโดฮา รัฐกาตาร์ โดยมีหลักการตามบันทึกข้อตกลง ที่ระบุไว้ว่าให้จัดสรรการถ่ายทอดสดแก่ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงทั้ง 64 คู่ ตลอดการแข่งขัน
เนื่องด้วยการดำเนินการของการกีฬาแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการจัดสรรการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มต้นให้ประชุมเมื่อวันที่ 17 พ.ย.65 มีข้อพึงสังเกตถึงความไม่ถูกต้องในการจัดสรรการถ่ายทอด ในการนี้สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) จึงเรียนมายังคณะกรรมการกสทช. เพื่อโปรดตรวจสอบ และวินิจฉัยว่าการจัดสรรในครั้งนี้มีความถูกต้องเป็นธรรมหรือไม่ ตามรายละเอียดดังนี้
1. การได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 600 ล้านบาท จากกองทุนกทปส. ซึ่งเป็นเงินที่ได้ส่งมอบมาจากผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ เพื่อเป็นเงินทุนในการสนับสนุน ส่งเสริม วิจัย และพัฒนาในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ นั่นหมายถึงผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ร่วมสนับสนุนไปกับกิจกรรมนี้ด้วยเช่นกัน
การจัดสรรแมตซ์ในการถ่ายทอดสดให้แก่ช่องต่างๆ ควรเป็นไปตามมติในการให้เงินสนับสนุนของ กสทช.ทั้ง 64 แมตช์ (แบ่งสิทธิประโยชน์ตามสัดส่วนของการสนับสนุน คือคิดเป็น 40% ของ งบประมาณการซื้อลิขสิทธิ์ 1,400 ล้านบาท) ไม่ใช่เพียง 32 แมตช์ และได้รับหลังจากที่ผู้สนับสนุนหลัก (กลุ่มทรู ซึ่งมีธุรกิจเป็นช่องทีวีดิจิตอลด้วย) เลือกแมตช์สำคัญไปแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงความไม่ทั่วถึงและไม่เท่าเทียมอย่างมาก
2. กรณีกลุ่มทรูให้การสนับสนุนจำนวน 300 ล้านบาท ได้รับสิทธิประโยชน์ ครอบคลุมสิทธิ์การถ่ายทอด ทุกช่องทาง ทุกแพลตฟอร์ม แบบ exclusive ได้สิทธิ์ในการเลือกคู่แข่งขัน จำนวน 32 แมตช์ และได้นาทีโฆษณา จากช่องทีวีดิจิตอลที่ร่วมถ่ายทอดจาก กกท. รายละเอียดตามภาพประกอบ
ส่วน กสทช.สนับสนุนเงินผ่านกองทุนกทปส. จำนวน 600 ล้านบาท ด้วยมติต้องจัดสรรสิทธิ์การถ่ายทอด ให้แก่ช่องทีวีดิจิตอล ซึ่งเป็นแหล่งที่มารายได้ของกองทุน อย่างทั่วถึง เท่าเทียม ทั้ง 64 แมตช์ กลับได้รับการจัดสรรสิทธิ์เพียง 32 แมตช์ และเป็นแมตช์ที่เหลือจากที่กลุ่มทรูได้เลือกไปแล้ว ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ไม่เป็นธรรม และผิดต่อหลักการ “ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ” และเอื้อประโยชน์กับเอกชนรายใดรายหนึ่งอย่างชัดเจน
3. ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยจัดสรรการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกเรียบร้อยแล้วในวันที่ 19 พ.ย.65 ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. โดยให้สิทธิ์แก่กลุ่มทรูที่เป็นผู้สนับสนุนหลักได้เลือกแมตช์ต่างๆ ก่อนตามภาพประกอบ โดยแบ่งส่วนที่เหลือจากการเลือก 32 แมตช์ ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ทั้ง 21 ช่องที่ร่วมถ่ายทอด
โดยทั้งนี้สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) และสมาชิกช่องสถานี ทักท้วงหลายครั้งต่อกกท. ในหลักการที่ไม่สอดคล้องกับมติทั่วถึง เท่าเทียมเป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติของกสทช. แต่ทางกกท.ก็ยังยืนยันที่จะดำเนินการต่อไป
ในการนี้ทางสมาคมฯจึงเรียนมายังคณะกรรมการกสทช. เพื่อยืนยันว่าการที่สถานีโทรทัศน์ดิจิทัลของสมาชิก 13 ช่องที่เสนอรับสิทธิ์ร่วมถ่ายทอด ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของ กกท. ซึ่งขัดต่อหลักการ ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ
แต่ได้จำยอมร่วมจับฉลากไปในวันที่ 19 พ.ย.65 นั้น เหตุเพราะคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้ชมฟุตบอลโลก ที่จะถ่ายทอดสดคู่แรก ในวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย.65 เวลา 23.00 น. ให้สามารถดำเนินไปได้ก่อน และแจ้งต่อที่ประชุมของกกท. อย่างชัดเจนแล้ว การจับฉลากครั้งนี้สมาคมฯไม่ถือเป็นการยอมรับในหลักการและวิธีการของ กกท. ขอสงวนสิทธิ์ในการทักท้วงไม่เห็นด้วย ในการจัดสรรการถ่ายทอดของ กกท.
โดยเรียนมายังคณะกรรมการกสทช. เพื่อวินิจฉัยว่าการจัดสรรสิทธิการถ่ายทอดสดของกกท. เป็นไปโดยชอบ และขัดกับหลักการทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติของ กสทช.หรือไม่อย่างไร
‘พายุ’ แผลเริ่มแห้ง คนดังหลากวงการปิดตาขวา ติดแฮชแท็ก #ดวงตาหนึ่งดวงจะสร้างดาวอีกล้านดวง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3686067
‘พายุ’ แผลเริ่มแห้ง คนดังหลากวงการปิดตาขวา ติดแฮชแท็ก #ดวงตาหนึ่งดวงจะสร้างดาวอีกล้านดวง
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน สืบเนื่องกรณี “พายุ ดาวดิน” นักกิจกรรมได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยางขณะสลายชุมนุมม็อบราษฎรหยุดเอเปคเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จนทำให้ดวงตาขวาเสี่ยงสูญเสียการมองเห็น โดยอาการล่าสุดในช่วงเย็นวันนี้ ผู้ใกล้ชิดเปิดเผยว่า แพทย์แจ้งว่าการมองเห็นของดวงตาขวาเท่ากับ 0 นอกจากนี้ ยังหวั่นกระทบม่านตาซ้ายในอนาคต
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. “ตอง โรงต้ม” นักกิจกรรม รายงานอาการเช้าวันนี้ ดังนี้
“หมอศัลยกรรมเข้ามาตรวจแผลที่เย็บ ตอนนี้แผลที่เย็บเริ่มแห้งแล้ว และมีอาการบวมน้อยลง ไม่มีการติดเชื้อ น้ำตาผสมกับเลือดที่ไหลเริ่มน้อยลง โดยรวมถือว่าดีขึ้นตามลำดับ”
สำหรับกระแสในโลกออนไลน์ตามที่ นายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ชวนให้ประชาชนร่วมกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยการปิดตาด้านขวา ถ่ายภาพลงโซเชียลมีเดียเพื่อให้กำลังใจพายุ ยังคงมีบุคคลต่างๆ ถ่ายภาพปิดตาข้างขวา พร้อมติดแฮชแท็ก #ดวงตาหนึ่งดวงจะสร้างดาวอีกล้านดวง
อาทิ ผศ.ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์คณะวิจิตรศิลป์ ม.เชียงใหม่, คาล รีอัล นักเขียนชื่อดัง, ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์ นักวิจารณ์ศิลปะชื่อดัง, นางภัควดี วีระภาสพงษ์ นักแปลชื่อดัง เป็นต้น
กรมอุตุฯ เตือนฝนตก ชาวนาเร่งตากข้าวเปลือก หวั่นเก็บขายไม่ทันใช้หนี้ ธกส.
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7375585
นครราชสีมา กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนช่วงสัปดาห์นี้มีฝนตกหลายพื้นที่ ชาวบ้านเร่งตากข้าวเปลือก หวั่นแห้งไม่ทันเก็บขายใช้หนี้ ธกส.
21 พ.ย. 65 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ต่างพากันนำข้าวเปลือกมาตากแดด เพื่อไล่ความชื้น ก่อนนำไปขายให้กับโรงสีต่างๆ
ภายหลังจากที่ทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนว่า ช่วงระหว่างวันที่ 23-27 พ.ย.65 นี้ จะมีฝนตกลงมาในพื้นที่ จ.นครราชสีมาอีก ทำให้ชาวนาต้องเร่งตากข้าวไล่ความชื้นให้ได้ก่อนที่ฝนจะตกลงมา
นางสุพัตร แบบพิมาย อายุ 57 ปี ชาวนาบ้านท่าหลวง หมู่ที่ 11 ต.ท่าหลวง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้นำข้าวเปลือกที่เพิ่งให้รถเกี่ยวข้าวในนาของตนเองเสร็จ มาตากแดดไล่ความชื้นที่บริเวณลานหน้าเมรุ วัดบ้านท่าหลวง ซึ่งทางวัดได้เปิดพื้นที่ลานวัดให้ชาวบ้านได้นำข้าวมาตากแดดฟรี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่หาที่ตากข้าวไม่ได้
นางสุพัตร กล่าวว่า หลังจากที่เกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว ชาวนาทุกคนก็จะต้องหาที่นำข้าวมาตากแดดไล่ความชื้นก่อนที่จะนำไปขาย บางคนก็นำข้าวไปตากริมถนน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนได้
ดังนั้นเมื่อทางวัดบ้านท่าหลวง ได้เปิดพื้นที่ลานวัดให้นำข้าวเปลือกมาตากแดดได้ ตนเองจึงได้นำมาตากทันที เพราะกลัวว่าจะมีฝนตกลงมาทำให้ข้าวเปลือกแห้งไม่ทัน
ตนเองตั้งใจว่า ถ้าราคาข้าวสูงขึ้นกว่านี้จะนำข้าวบางส่วนที่แห้งแล้วแบ่งขายเพื่อมาใช้จ่ายค่าปุ๋ย ค่ายา ค่ารถเกี่ยวข้าว และใช้หนี้ ธกส. ซึ่งอีกส่วนก็จะนำไปเก็บไว้เป็นพันธุ์ข้าวปลูกในฤดูกาลต่อไป และนำมาบริโภคในครัวเรือน