นายกฯ “นรต.”ฉะเดือด ภาพพจน์ตำรวจเลวร้ายลง ปฏิรูปผิดทิศทาง จี้ตัดวงจรอุบาทว์ทิ้ง
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3684549

พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร นายกสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อดีตที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์พิเศษ ฉะเดือดสำนักงานตำรวจแห่งชาติปฏิรูปผิดทิศทาง ภาพพจน์ตำรวจเลวร้ายลง ต้องตัดวงจรอุบาทว์ทิ้ง ตั้งหน่วยงานซ้ำซ้อน บางหน่วยบางคนตั้งทีมรีดไถ แร้งทึ้งร้านเหล้าสถานบริการ   ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้

---

“คณะทำงานเศรษฐกิจเพื่อไทย” ลุย "สาทร" ฟังเสียง ปชช.ห่วงเศรษฐกิจทรุดอีก
https://www.thairath.co.th/news/politic/2557658
 
“คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย” ลงพื้นที่สาทร ฟังเสียง ประชาชน ผู้ประกอบการ และ นักลงทุน ห่วง เศรษฐกิจทรุดลงอีก หุ้นและคริปโตตก โดนรีดภาษี บอก หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะเร่งเข้ามาแก้ปัญหา
 
วันที่ 20 พ.ย. 65 นางสาวจุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต บางรัก สาทร ปทุมวัน และ โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าวันนี้ได้ลงพื้นที่เขตสาทร พร้อมกับนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ โดยได้พบกับประชาชน ผู้ประกอบการ และ นักลงทุน โดยประชาชนส่วนใหญ่ประสบปัญหาเหมือนเขตบางรัก คือมีหนี้สินจำนวนมาก รายได้ไม่พอชำระหนี้ เศรษฐกิจฝืดเคือง และพ่อค้าแม่ค้าหลายคนถูกห้ามขายของในช่วงที่มีการประชุม APEC ทำให้ขาดรายได้อย่างมาก ผู้ประกอบการส่วนใหญ่บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าค้าขายแย่ รายได้ยังไม่ฟื้น นักท่องเที่ยวยังไม่เข้ามาเหมือนเก่า อยากเห็นรัฐบาลใหม่ที่บริหารเศรษฐกิจดีกว่านี้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังกลัวว่าจะถูกเรียกภาษีย้อนหลังจากการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งกับภาครัฐแล้วต่อมาผู้ประกอบการหลายคนถูกเรียกภาษีย้อนหลัง ทำให้ต้องปิดกิจการไปเพราะการค้าขายก็แย่และต้องมาโดนเก็บภาษีย้อนหลังอีก
   
นอกจากนี้ ยังได้พบกับนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์และลงทุนในคริปโต ซึ่งปัจจุบันราคาคริปโตล่วงลงอย่างมาก โดยราคาบิตคอยน์ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ $16,000 - $17,000 เท่านั้น ทำให้ขาดทุนกันถ้วนหน้า และยังมีแนวโน้มที่ราคาจะลดลงอีก จากการล้มละลายของบริษัท FTX ที่เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตรายใหญ่ของโลก ซึ่งนักลงทุนจะต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน และปัญหาการปั่นหุ้นทุบหุ้นของบริษัท More ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดหลักทรัพย์ของไทยอย่างมากเช่นกัน และอยากให้รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ มีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น อีกทั้งดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยก็ผันผวนอยู่ในระดับนี้มานานหลายปีแล้ว แทนที่จะพุ่งขึ้นมากกว่านี้ ซึ่งสะท้อนเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวตัวต่ำและนิ่งมานานเช่นกัน
   
ทั้งปัญหาหนี้สิน ปัญหาการเก็บภาษีย้อนหลัง และดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่หยุดนิ่ง เกิดมาจากการบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาดของรัฐบาล ซึ่งหากพรรคเพื่อไทย ได้รับความไว้วางใจก็จะเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อลดหนี้ของประชาชน เพิ่มรายได้ และ สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับประชาชนได้ เศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้น และดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะพุ่งสูงกว่านี้อีกมาก โดยเฉพาะการต้องเร่งเพิ่มรายได้ ประชาชนจะได้ไม่ลำบากกันมากเหมือนในปัจจุบัน.

---

 
‘โรม’ ประณามรัฐบาลใช้ความรุนแรงสลายม็อบเอเปคเจ็บอื้อ
https://www.dailynews.co.th/news/1702377/
 
'รังสิมันต์ โรม' ประณามรัฐบาลใช้ความรุนแรงสลายม็อบเอเปค จี้สอบสวนหาคนเกี่ยวข้องมาลงโทษ หยุดใช้กฎหมายกลั่นแกล้งประชาชน อยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความเสียใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
 
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวประณามรัฐบาลใช้ความรุนแรงกับประชาชนและสื่อมวลชนในการสลายการชุมนุมราษฎรหยุดเอเปค 2022 จับกุมประชาชน 25 คน ทั้งหมดได้รับบาดเจ็บมากบ้าง น้อยบ้าง ซึ่งที่หนักสุดคือ นายพายุ บุญโสภณ หรือ พายุ ดาวดิน ที่ถูกยิงกระสุนยางเข้าที่บริเวณดวงตา ซึ่งมีโอกาสน้อยมากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกลับมามองเห็นได้เหมือนเดิม รวมถึงมีสื่อมวลชนถูกทำความรุนแรงทั้งๆ ที่มีปลอกแขนและแสดงตัวชัดเจนว่าเป็นสื่อมวลชน
 
นายรังสิมันต์เรียกร้อง 
1. ให้มีการสอบสวนหาคนเกี่ยวข้องมาลงโทษ 
2. หยุดใช้กฎหมายกลั่นแกล้งประชาชน ยกเลิกข้อกล่าวหาที่ดำเนินคดีต่อประชาชนทั้งในชั้นตำรวจ และอัยการ 
3. เรียกร้องให้รัฐบาลควรแก้ปัญหาด้วยการรับฟังประชาชน
 
และอยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และตนในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนเตรียมเสนอให้ที่ประชุม กมธ.พิจารณาหาข้อเท็จจริง ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมย้ำแม้เรื่องดังกล่าวมีการเตะถ่วงไม่เอาจริงเอาจัง แต่วันหนึ่งข้างหน้าถ้าพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหนเราจะหาคนทำผิดให้ได้.