กระทู้นี้เป็นกระทู้ปรึกษากึ่งระบายนะคะ อาจจะยาวหน่อยต้องขออภัยด้วยค่ะ
พื้นฐานครอบครัวเราพ่อแม่ทะเลาะกันบ่อยค่ะ คุณพ่อมีปัญหาเรื่องชู้สาวตั้งแต่ตอนที่เราอยู่ในท้องเลยมีเรื่องกระทบกระทั่งเรื่อยมา กลายเป็นว่าตั้งแต่เราเกิดมาเราเห็นพ่อแม่ด่ากันทะเลาะกันทุกวัน คุณแม่เราเป็นคนมีนิสัยไม่ยอมคนค่ะ และคุณแม่จะมีความคิดว่าคุณพ่อรักเราซึ่งเป็นลูกมากกว่าตัวเองที่เป็นภรรยาและเชื่อว่าถ้าคนเป็นลูกที่เป็นเด็กตัวเล็กๆพูดถึงขนาดนี้คุณพ่อน่าจะตกผลึกคิดอะไรได้บ้าง คุณแม่เลยพยามบงการเราแะน้องสาวตั้งเเต่เด็กเล็กๆให้คอยเป็นตัวกลางเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคน แต่ก็จะไปในทางที่ให้เราไปสั่งสอนว่ากล่าวคุณพ่อว่าคุณพ่อทำผิดกับคุณแม่นะมากกว่าค่ะ อีกทั้งคุณแม่ยังมีอารมณ์โมโหร้ายค่ะถึงขนาดที่เคยพูดกับเราว่า "มึ-เป็นลูกgu guจะตบตีมึ-ให้ตายยังไงก็ได้" <<<แต่จากที่เคยคุยกันคุณแม่ให้เหตุผลว่าเป็นการสั่งสอนค่ะ และเหนื่อยกดดันจากที่ทำงาน
ส่วนคุณพ่อประเด็นหลักๆก็จะเป็นเรื่องชู้สาวค่ะ ตอนนี้เขาทะเลาะกับคุณแม่หนักมากถึงขั้นไม่คุยกัน โดนตัวไม่ได้ เพราะเนื่องจากคุณแม่มีปัญหากับญาติฝั่งคุณพ่อซึ่งคือคุณย่ากับคุณอา (ซึ่งญาติฝั่งคุณพ่อก็ทำตัวแย่จริงๆ ถึงขั้นเอาความโกรธมาลงด่าที่เรากับน้องสาวซึ่งเป็นคนนอก แต่ก็ไม่มีใครในญาติฝั่งเขาจะออกตัวมาปกป้องเรากับน้องสาวแม้กระทั่งคุณพ่อของพวกเราเอง) คุณพ่อตอนนี้มีพฤติกรรมคุยไปทั่วค่ะ ทักหาผู้หญิงไปทั่วและเยอะมากจำนวน 20-30คน และมักจะบอกว่าเขาเคยผ่านการแต่งงานมาแต่ตอนนี้โสดมาแล้ว10กว่าปี (ที่รู้เพราะคุณแม่แอบเอามือถือของคุณพ่อมาดูค่ะ คือคุณแม่กลายเป็นหวาดระเเวงมากจนถึงขนาดจะดักติดตามGpsและใช้กล้องสอดแนมจิ๋ว) ตอนที่เราไปเห็นเราก็ค่อนข้างช็อคค่ะเพราะพ่อแม่เราไม่ได้ตัดสินใจหย่าหรือแยกทางอะไรเลยและคุณพ่อก็ยังส่งเสียเลี้ยงดูเราตามปกติเลยรู้สึกห่างเหินกับคุณพ่อมากยิ่งขึ้นไปอีกจากเดิมที่ก็ห่างเหินกันมากพออยู่เเล้ว (จริงๆพวกเราเว้นระยะห่างทั้งคุณพ่อและเเม่เลยค่ะไม่ได้เข้าข้างใครเป็นพิเศษ เพราะไม่โอเคกับพฤติกรรมของทั้งคู่)
ตอนนี้คุณแม่ว่างงานค่ะเพราะคุณพ่อเป็นคนบอกให้ออกจากงานมาดูแลครอบครัวเอง แต่หลังจากมีเรื่องกับญาติฝั่งคุณพ่อเขาก็มีท่าทีหมางเมินคุณแม่มากขึ้นจากที่เป็นอยู่เเล้ว คุณพ่อไม่ค่อยซัพพอร์ตคุณแม่เสียเท่าไหร่ให้เงินจ่ายตลาดคุณแม่ให้ดูแลทั้งครอบครัวเเค่วันละ 200 บาท พอปัญหาเรื่องชู้สาวกลับมาอีกรอบคุณแม่เลยเเค้นค่ะ(อันนี้ออกมาจากคุณแม่โดยตรงค่ะ) คุณแม่บอกว่าไม่น่าเชื่อคำพูดคุณพ่อให้ออกจากงานเลยและรู้สึกว่าคุณพ่อต้องรับผิดชอบ คุณแม่ไม่ยอมหย่ากับคุณพ่อเพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ผิดและคนเป็นผู้ใหญ่รอบตัวคุณแม่ก็บอกให้คุณแม่อดทนเพื่อลูกค่ะ(ผู้ใหญ่คิดว่าถ้าหย่ากันคุณพ่อจะให้เงินเลี้ยงดูเรากับน้องสาวยากขึ้นค่ะ) ส่วนตัวจากที่คุย เรากลับมองว่าเเม่มองว่าการหย่ามันจะเสียประโยชน์ต่อตัวคุณแม่เองมากกว่า ถ้าหย่ากันแม่จะใช้ชีวิตต่อไปยังไงเพราะก็เป็นคนว่างงาน(อันนี้คุณแม่พูดเองค่ะ) และสมบัติที่ต้องหารครึ่งเมื่อหย่าคุณแม่ก็รู้สึกว่ามันไม่แฟร์เพราะคุณแม่ลงทุนสร้างมากกว่าคุณพ่อถึง 70% จะให้มาหารเท่ากันได้ยังไง คุณแม่มองว่าตอนนี้คุณแม่เป็นรองคุณพ่อหมดเพราะต้องพึ่งเงินคุณพ่อและก็ไม่มีใครเข้าข้างคุณแม่เลย (ญาติฝั่งคุณแม่อยู่ตจว.ด้วยค่ะเลยรู้สึกยิ่งตัวคนเดียว) เลยพยามแสดงตัวตนว่าเธอห้ามมาเมินฉันอย่างนี้นะ พยามเเสดงตัวให้คนรอบข้างคุณพ่อเห็นว่ายังมีพวกเราอยู่ถึงขั้นจะสืบสถานที่ที่คุณพ่อไปสัมนากับที่ทำงานเพื่อจะไปแสดงตัวและคุณแม่เคยบอกว่าถ้าเรื่องมันบานปลายจะส่งเรื่องชู้สาวคุณพ่อำปที่ทำงานค่ะ แล้วก็มีเรื่องลูกที่อยากให้น้องสาวเข้ามหาลัยให้ได้ก่อนเพื่อให้คุณพ่อได้รับภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้ไป
ตอนนี้กลายเป็นว่าคุณพ่อซัพพอรต์พวกเราแค่เรื่องเงิน แต่ในชีวิตประจำวันเจอหน้ากันก็ไม่ได้คุยกันเท่าไหร่ค่ะ ส่วนคุณแม่ก็พยามกดดันเรากับน้องสาวให้ไปคุยไปว่าคุณพ่อและให้เรามาช่วยเก็บข้อมูลที่คุณพ่อไปคุยไปเรื่อยไว้เป็นหลักฐานค่ะ ตอนนี้อารมณ์เรากับน้องสาวเราเหมือนเป็นหุ่นยนต์ที่ต้องทำตามคำสั่งคุณแม่เลยค่ะ คุณแม่อยากให้เราไปว่าตักเตือนคุณพ่อเราก็ต้องไป แต่พอเราได้รับชุดข้อมูลแย่ๆของคุณพ่อจากคุณแม่เองที่บิ๊วเราทำให้เราพยามถอยห่างจากคุณพ่อ ก็กลายเป็นว่ามาบอกว่าเราต้องปากหวานก้นเปรี้ยวบ้างไม่คุยกับคุณพ่อมากๆเดี๋ยวคุณพ่อมองว่าที่บ้านไม่มีใครต้องการเขาเเละเขาจะไปมีใหม่ อันนี้ยังไม่รวมเรื่องอื่นที่คุณแม่ชอบทักหาเพื่อนของเราเเละน้องสาวอีก ทักไปหาทุกคนจนเรากับน้องสาวมารู้ทีหลังจากปากบุคคลที่345ไปแล้วว่ามันหนักมากจนถึงขนาดแม่ของเพื่อนเราเอ่ยปากว่าถ้าแม่เราทักมาอีกจะแจ้งตำรวจจับแม่เราเเล้วเพราะมันคุกคาม พอเราบอกคุณแม่ท่านก็ได้เเต่ประชดว่าถ้าจะจับก็ให้มาจับเลยพร้อมบอกว่าถ้ายังไม่ได้เป็นแม่คนไม่มีวันเข้าใจความเป็นห่วงนี้หรอก
ตอนนี้คุณแม่เห็นเรากับน้องสาวเริ่มเเอนตี้เลยจะนัดเรากับน้องสาวไปฟังทนายพูดถึงข้อดีข้อเสียของการหย่าค่ะ
สุดท้ายนี้เราแค่สงสัยว่าเราผิดไหมคะที่ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้เพราะเรามองว่าเราเป็นเด็กเราไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้เลยเราจะไปช่วยเขาได้ยังไง และเราก็อึดอัดมากกับที่แม่พยามทำตัวเเบบนี้ และก็เสียใจมากที่คุณพ่อทำตัวแบบนั้นเช่นกัน และอยากทราบว่าถ้าคุณเป็นคุณแม่ของเราจะมีวิธีจัดการเรื่องนี้อย่างไรคะ
กำลังจะเป็นประสาทเพราะพ่อกับแม่ ทำยังไงดีคะ
พื้นฐานครอบครัวเราพ่อแม่ทะเลาะกันบ่อยค่ะ คุณพ่อมีปัญหาเรื่องชู้สาวตั้งแต่ตอนที่เราอยู่ในท้องเลยมีเรื่องกระทบกระทั่งเรื่อยมา กลายเป็นว่าตั้งแต่เราเกิดมาเราเห็นพ่อแม่ด่ากันทะเลาะกันทุกวัน คุณแม่เราเป็นคนมีนิสัยไม่ยอมคนค่ะ และคุณแม่จะมีความคิดว่าคุณพ่อรักเราซึ่งเป็นลูกมากกว่าตัวเองที่เป็นภรรยาและเชื่อว่าถ้าคนเป็นลูกที่เป็นเด็กตัวเล็กๆพูดถึงขนาดนี้คุณพ่อน่าจะตกผลึกคิดอะไรได้บ้าง คุณแม่เลยพยามบงการเราแะน้องสาวตั้งเเต่เด็กเล็กๆให้คอยเป็นตัวกลางเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคน แต่ก็จะไปในทางที่ให้เราไปสั่งสอนว่ากล่าวคุณพ่อว่าคุณพ่อทำผิดกับคุณแม่นะมากกว่าค่ะ อีกทั้งคุณแม่ยังมีอารมณ์โมโหร้ายค่ะถึงขนาดที่เคยพูดกับเราว่า "มึ-เป็นลูกgu guจะตบตีมึ-ให้ตายยังไงก็ได้" <<<แต่จากที่เคยคุยกันคุณแม่ให้เหตุผลว่าเป็นการสั่งสอนค่ะ และเหนื่อยกดดันจากที่ทำงาน
ส่วนคุณพ่อประเด็นหลักๆก็จะเป็นเรื่องชู้สาวค่ะ ตอนนี้เขาทะเลาะกับคุณแม่หนักมากถึงขั้นไม่คุยกัน โดนตัวไม่ได้ เพราะเนื่องจากคุณแม่มีปัญหากับญาติฝั่งคุณพ่อซึ่งคือคุณย่ากับคุณอา (ซึ่งญาติฝั่งคุณพ่อก็ทำตัวแย่จริงๆ ถึงขั้นเอาความโกรธมาลงด่าที่เรากับน้องสาวซึ่งเป็นคนนอก แต่ก็ไม่มีใครในญาติฝั่งเขาจะออกตัวมาปกป้องเรากับน้องสาวแม้กระทั่งคุณพ่อของพวกเราเอง) คุณพ่อตอนนี้มีพฤติกรรมคุยไปทั่วค่ะ ทักหาผู้หญิงไปทั่วและเยอะมากจำนวน 20-30คน และมักจะบอกว่าเขาเคยผ่านการแต่งงานมาแต่ตอนนี้โสดมาแล้ว10กว่าปี (ที่รู้เพราะคุณแม่แอบเอามือถือของคุณพ่อมาดูค่ะ คือคุณแม่กลายเป็นหวาดระเเวงมากจนถึงขนาดจะดักติดตามGpsและใช้กล้องสอดแนมจิ๋ว) ตอนที่เราไปเห็นเราก็ค่อนข้างช็อคค่ะเพราะพ่อแม่เราไม่ได้ตัดสินใจหย่าหรือแยกทางอะไรเลยและคุณพ่อก็ยังส่งเสียเลี้ยงดูเราตามปกติเลยรู้สึกห่างเหินกับคุณพ่อมากยิ่งขึ้นไปอีกจากเดิมที่ก็ห่างเหินกันมากพออยู่เเล้ว (จริงๆพวกเราเว้นระยะห่างทั้งคุณพ่อและเเม่เลยค่ะไม่ได้เข้าข้างใครเป็นพิเศษ เพราะไม่โอเคกับพฤติกรรมของทั้งคู่)
ตอนนี้คุณแม่ว่างงานค่ะเพราะคุณพ่อเป็นคนบอกให้ออกจากงานมาดูแลครอบครัวเอง แต่หลังจากมีเรื่องกับญาติฝั่งคุณพ่อเขาก็มีท่าทีหมางเมินคุณแม่มากขึ้นจากที่เป็นอยู่เเล้ว คุณพ่อไม่ค่อยซัพพอร์ตคุณแม่เสียเท่าไหร่ให้เงินจ่ายตลาดคุณแม่ให้ดูแลทั้งครอบครัวเเค่วันละ 200 บาท พอปัญหาเรื่องชู้สาวกลับมาอีกรอบคุณแม่เลยเเค้นค่ะ(อันนี้ออกมาจากคุณแม่โดยตรงค่ะ) คุณแม่บอกว่าไม่น่าเชื่อคำพูดคุณพ่อให้ออกจากงานเลยและรู้สึกว่าคุณพ่อต้องรับผิดชอบ คุณแม่ไม่ยอมหย่ากับคุณพ่อเพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ผิดและคนเป็นผู้ใหญ่รอบตัวคุณแม่ก็บอกให้คุณแม่อดทนเพื่อลูกค่ะ(ผู้ใหญ่คิดว่าถ้าหย่ากันคุณพ่อจะให้เงินเลี้ยงดูเรากับน้องสาวยากขึ้นค่ะ) ส่วนตัวจากที่คุย เรากลับมองว่าเเม่มองว่าการหย่ามันจะเสียประโยชน์ต่อตัวคุณแม่เองมากกว่า ถ้าหย่ากันแม่จะใช้ชีวิตต่อไปยังไงเพราะก็เป็นคนว่างงาน(อันนี้คุณแม่พูดเองค่ะ) และสมบัติที่ต้องหารครึ่งเมื่อหย่าคุณแม่ก็รู้สึกว่ามันไม่แฟร์เพราะคุณแม่ลงทุนสร้างมากกว่าคุณพ่อถึง 70% จะให้มาหารเท่ากันได้ยังไง คุณแม่มองว่าตอนนี้คุณแม่เป็นรองคุณพ่อหมดเพราะต้องพึ่งเงินคุณพ่อและก็ไม่มีใครเข้าข้างคุณแม่เลย (ญาติฝั่งคุณแม่อยู่ตจว.ด้วยค่ะเลยรู้สึกยิ่งตัวคนเดียว) เลยพยามแสดงตัวตนว่าเธอห้ามมาเมินฉันอย่างนี้นะ พยามเเสดงตัวให้คนรอบข้างคุณพ่อเห็นว่ายังมีพวกเราอยู่ถึงขั้นจะสืบสถานที่ที่คุณพ่อไปสัมนากับที่ทำงานเพื่อจะไปแสดงตัวและคุณแม่เคยบอกว่าถ้าเรื่องมันบานปลายจะส่งเรื่องชู้สาวคุณพ่อำปที่ทำงานค่ะ แล้วก็มีเรื่องลูกที่อยากให้น้องสาวเข้ามหาลัยให้ได้ก่อนเพื่อให้คุณพ่อได้รับภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้ไป
ตอนนี้กลายเป็นว่าคุณพ่อซัพพอรต์พวกเราแค่เรื่องเงิน แต่ในชีวิตประจำวันเจอหน้ากันก็ไม่ได้คุยกันเท่าไหร่ค่ะ ส่วนคุณแม่ก็พยามกดดันเรากับน้องสาวให้ไปคุยไปว่าคุณพ่อและให้เรามาช่วยเก็บข้อมูลที่คุณพ่อไปคุยไปเรื่อยไว้เป็นหลักฐานค่ะ ตอนนี้อารมณ์เรากับน้องสาวเราเหมือนเป็นหุ่นยนต์ที่ต้องทำตามคำสั่งคุณแม่เลยค่ะ คุณแม่อยากให้เราไปว่าตักเตือนคุณพ่อเราก็ต้องไป แต่พอเราได้รับชุดข้อมูลแย่ๆของคุณพ่อจากคุณแม่เองที่บิ๊วเราทำให้เราพยามถอยห่างจากคุณพ่อ ก็กลายเป็นว่ามาบอกว่าเราต้องปากหวานก้นเปรี้ยวบ้างไม่คุยกับคุณพ่อมากๆเดี๋ยวคุณพ่อมองว่าที่บ้านไม่มีใครต้องการเขาเเละเขาจะไปมีใหม่ อันนี้ยังไม่รวมเรื่องอื่นที่คุณแม่ชอบทักหาเพื่อนของเราเเละน้องสาวอีก ทักไปหาทุกคนจนเรากับน้องสาวมารู้ทีหลังจากปากบุคคลที่345ไปแล้วว่ามันหนักมากจนถึงขนาดแม่ของเพื่อนเราเอ่ยปากว่าถ้าแม่เราทักมาอีกจะแจ้งตำรวจจับแม่เราเเล้วเพราะมันคุกคาม พอเราบอกคุณแม่ท่านก็ได้เเต่ประชดว่าถ้าจะจับก็ให้มาจับเลยพร้อมบอกว่าถ้ายังไม่ได้เป็นแม่คนไม่มีวันเข้าใจความเป็นห่วงนี้หรอก
ตอนนี้คุณแม่เห็นเรากับน้องสาวเริ่มเเอนตี้เลยจะนัดเรากับน้องสาวไปฟังทนายพูดถึงข้อดีข้อเสียของการหย่าค่ะ
สุดท้ายนี้เราแค่สงสัยว่าเราผิดไหมคะที่ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้เพราะเรามองว่าเราเป็นเด็กเราไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้เลยเราจะไปช่วยเขาได้ยังไง และเราก็อึดอัดมากกับที่แม่พยามทำตัวเเบบนี้ และก็เสียใจมากที่คุณพ่อทำตัวแบบนั้นเช่นกัน และอยากทราบว่าถ้าคุณเป็นคุณแม่ของเราจะมีวิธีจัดการเรื่องนี้อย่างไรคะ