…..คำสอนครั้งสุดท้ายของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต…..
พระอาจารย์ทองคำ จารุวัณโณ
ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ได้อุปัฏฐากหลวงปู่มั่น อย่างใกล้ชิด
ได้บันทึกไว้ว่า
ในยามรุ่งสางของวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๒ (หนึ่งวันก่อนวันมรณภาพของหลวงปู่มั่น)ท่านได้เปิดหน้าต่างกุฏิของหลวงปู่มั่นออก และพบว่ามีชาวบ้านนับเป็นร้อยๆ คนมานั่งเฝ้าอาการของหลวงปู่มั่นอยู่ หลวงปู่มั่นจึงได้กล่าวอบรมญาติโยมว่า
“…พวกญาติโยมพากันมามาก
มาดูพระเฒ่าป่วย ดูหน้าตาสิ! เป็นอย่างนี้ละ
ญาติโยมเอ๋ย!..ไม่ว่าพระ ไม่ว่าคน
พระก็มาจากคน มีเนื้อมีหนังเหมือนกัน
คนก็เจ็บป่วยได้ พระก็เจ็บป่วยได้
สุดท้ายก็คือตาย…
ได้มาเห็นอย่างนี้แล้วก็จงพากันไปพิจารณา
เกิดมาแล้วก็ แก่ เจ็บ ตาย
แต่ก่อนจะตาย ทานยังไม่มีก็ให้มีเสีย
ศีลยังไม่เคยรักษาก็ให้รักษาเสีย
ภาวนายังไม่เคยเจริญก็เจริญเสียให้พอ
จะได้ไม่เสียทีที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา
ด้วยความไม่ประมาท
นั้นล่ะจึงจะสมกับที่ได้เกิดมาเป็นคน
เท่านี้ล่ะ พูดมากก็เหนื่อย!!…”
•••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••
คัดลอกจาก ภูริทตฺต ธมฺโมวาท
จากหนังสือ ภูริทตฺต มหาเถรานุสรณ์
คติพจน์ คำสอนครั้งสุดท้ายของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
คำสอนครั้งสุดท้ายของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต…..
พระอาจารย์ทองคำ จารุวัณโณ
ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ได้อุปัฏฐากหลวงปู่มั่น อย่างใกล้ชิด
ได้บันทึกไว้ว่า
ในยามรุ่งสางของวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๒ (หนึ่งวันก่อนวันมรณภาพของหลวงปู่มั่น)ท่านได้เปิดหน้าต่างกุฏิของหลวงปู่มั่นออก และพบว่ามีชาวบ้านนับเป็นร้อยๆ คนมานั่งเฝ้าอาการของหลวงปู่มั่นอยู่ หลวงปู่มั่นจึงได้กล่าวอบรมญาติโยมว่า
“…พวกญาติโยมพากันมามาก
มาดูพระเฒ่าป่วย ดูหน้าตาสิ! เป็นอย่างนี้ละ
ญาติโยมเอ๋ย!..ไม่ว่าพระ ไม่ว่าคน
พระก็มาจากคน มีเนื้อมีหนังเหมือนกัน
คนก็เจ็บป่วยได้ พระก็เจ็บป่วยได้
สุดท้ายก็คือตาย…
ได้มาเห็นอย่างนี้แล้วก็จงพากันไปพิจารณา
เกิดมาแล้วก็ แก่ เจ็บ ตาย
แต่ก่อนจะตาย ทานยังไม่มีก็ให้มีเสีย
ศีลยังไม่เคยรักษาก็ให้รักษาเสีย
ภาวนายังไม่เคยเจริญก็เจริญเสียให้พอ
จะได้ไม่เสียทีที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา
ด้วยความไม่ประมาท
นั้นล่ะจึงจะสมกับที่ได้เกิดมาเป็นคน
เท่านี้ล่ะ พูดมากก็เหนื่อย!!…”
•••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••
คัดลอกจาก ภูริทตฺต ธมฺโมวาท
จากหนังสือ ภูริทตฺต มหาเถรานุสรณ์
คติพจน์ คำสอนครั้งสุดท้ายของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต