ฮูปแต้มสิมวัดสระบัวแก้ว ... จังหวัดขอนแก่น

เป็นภาพที่ถ่ายไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2557 ตอนนั้นเพิ่งเริ่มหัดขับรถเที่ยว เที่ยวไป แวะถ่ายรูปไปเรื่อย
เมื่อเริ่มสนใจและศิกษาเรื่องเจดีย์ ปราสาทหิน ภาพแกะสลัก จิตรกรรมฝาผนัง ก็ได้แต่คันคว้าสถานที่ ๆ ได้ไปหลังจากนั้น
ครั้งนี้มีเพื่อนถามว่าได้ไปชมสิมอีสานมาบ้างแล้วหรือยัง ก็เลยหยิบเอาสิมวัดสระบัวแก้วมาค้นอ่านและเขียนลงในกระทู้วันนี้
และสนุกที่สุดคือได้อ่านพระลักพระลามฉบับลาวทั้งที่ฉบับไทยยังไม่เคยอ่านจนจบเลย 
อาจบรรยายไม่ได้หมดหรืออาจเข้าใจผิดไปบ้างเพราะอ่านตัวเขียนบนผนังไม่ออก ขอน้อมรับความรู้จากท่านที่เข้ามาอ่านด้วยนะคะ
วัดสระบัวแก้วตั้งอยู่บ้านวังคูณ ตำบลหนองเม็ก อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น
เดิมเป็นสิมของวัดนี้น้ำทำด้วยไม้ อยู่ในหนองด้านทิศใต้ของวัด ต่อมาได้ผุพังลง
ราวปี พ.ศ. 2474 พระครูวิบูลย์พัฒนานุยุต (หลวงปู่ผุย) เจ้าอาวาสจึงสร้างขึ้นใหม่บนบก
นำรูปแบบมาจากสิมวัดบ้านยาง ต.บัวมาศ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม
เป็นสิมอิฐถือปูน ขนาด 3 ห้อง หลังคาเกิดชำรุด เสียหาย จากพายุ และฟ้าผ่าหลายครั้ง
ชาวบ้านจึงให้เปลี่ยนรูปทรงของหลังคาใหม่ เป็นหลังคาซ้อนสองชั้น มีเสารับปีกนกคลุมคลุมโดยรอบ
ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2475
ได้ขุดสระเอาดินถมบริเวณที่จะสร้างสิม เกิดเป็นสระบัวขนาดใหญ่ จึงได้ชื่อวัดว่า วัดสระบัวแก้ว
บันไดทางขึ้นสู่สิม เป็นบันไดสิงห์ - มีสิงห์หมอบซ้ายขวา
ด้านหน้าสิงห์เป็นรูปปั้นคนนั่งห้อยเท้า ฝีมือของหลวงพ่อผุย 
ช่างแต้มผนังด้านนอกมีชื่อว่า จารย์ทองมา, จารย์น้อย และจารย์ดี
เหนือช่องประตูเป็นภาพราหูอมจันทร์
กรอบประตูเป็นลายประจำยามก้ามปู - ยามอยู่ประจำเพื่อป้องกันภัย มีขาต่อกันเหมือนก้ามปู ถัดออกไปเป็นลายก้านขด
ไม้กรอบประตูเป็นบานเปิดเข้าข้างใน
ราหูกำลังใช้มือทั้งสองข้างจับหัวพระจันทร์เข้าปาก
ด้านขวาของราหูเป็นเทวดานุ่งเตี่ยว ด้านซ้ายเป็นนางลอยนุ่งซิ่นนั่งเหาะอยู่
ด้านใน
ด้านหลังพระประธาน ภาพพุทธปรินิพพาน
ซ้ายและขวาเป็นรูปหม้อดอก และพระพุทธเจ้าด้านละสี่องค์
ด้านหน้าพระประธาน พระพุทธเจ้าประทับบนโพธิบัลลังก์
ใต้บัลลังก์ด้านหนึ่งเป็นพระแม่ธรณีบีบมวยผม อีกด้านหนึ่งเป็นบุคคลชายถือกอหญ้าน่าจะเป็น พราหมณ์โสตถิยะถวายหญ้ากุศะปูรองที่ประทับ
ขวามือพระพุทธเจ้ามารกำลังเข้ามาทำร้าย ช้างชูอาวุธ
มุมล่างขวามือ พระเจ้าสุทโธทนะ และ พระนางสิริมหามายา - เริ่มต้นพระพุทธประวัติ
ผนังด้านข้างถัดออกไป เป็นตอนประสูติ
ทรงทอดพระเนตรเห็นเทวฑูต 4 คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และบรรพชิต
ออกบวช - มีเทวดาอุ้มเท้าทั้งสี่ของม้ากัณฐกะ
ทรงประทับริมแม่น้ำ นายฉันนะ ถือชฎา 
ซ้ายมือ มารแสดงเคารพถือดอกบัวด้วย ช้างหมอบทำความเคารพ
กลาง พราหมณ์ 4 ตน ?
ด้านล่างเป็นเรื่องสินไซ
ท้าวกุดสะราด มีน้องสาวชื่อนางสุมนทา มีมเหสีชื่อนางจันทา
นางสุมนทาถูกท้าวกุมภัณฑ์อุ้มเหาะไปเป็นมเหสี
ท้าวกุดสะราดออกบวชเพื่อคิดตามไป แต่เจอลูกสาวเศรษฐี 7 คน จึงลาบวชนำมาเป็นสนม
นางจันทาคลอดลูกเป็นสีโห (หัวเป็นช้างตัวเป็นสิงห์) นางลุนสนมคลอดลูกเป็นสังข์ทอง (หอยสังข์) และ สินไซ (คน)  
โหรทำนายว่ากาลกิณี จึงไล่ทั้งแม่และลูกออกจากเมือง
สนมอีกหกนางคลอคลูกเป็นโอรสหกองค์ - ท้าวกุดสะราดใช้ให้ไปตามนางสุมนทา
โอรสทั้งหกหลอก สินไซ สังข์ทอง กับสีโหไปแทน
สินไซช่วยนางสุมนทากลับมาได้ มีดราม่าต่ออีกนิดที่ทำให้ท้าวกุดสะราดสั่งให้จับท้าวทั้งหก แม่ทั้งหก หมอโหร หมอเสน่ห์ ไปคุมขัง
จบด้วยสินไซครองเมือง
สีโห (หัวเป็นช้างตัวเป็นสิงห์),สินไซ (คน) และ สังข์ทอง (หอยสังข์)
ออกเดินทางไปพบ
ด่านที่ 1 สู้กับซวง - งูใหญ่ 
ขวา โอรสอีก 6 องค์ของพญากุศราช
ภาพบนปฐมเทศนา
ภาพล่าง สังข์ทองเนรมิตตนเป็นเรือพาสินไซไปตามนางสุมนทา ด่านที่ 2 สินไซสู้กับยักษ์กันดาร ฟันคอยักษ์ขาดไป
ภาพบน ?
ภาพล่าง ด่านที่ 3 สินไซสู้กับช้างหลายแสนตัว เมื่อแพ้ก็ยอมให้ขี่คอพาไปส่งจนสุดเขตแดน
ผนังด้านนอก เป็นเรื่องพระลัก-พระลาม ฉบับลาว
ภาคแรกเป็นภาคที่นางจันทาพี่สาวของท้าวพะลามท้าวพะลักถูกท้าวราพพะนาสวนจับไป
เริ่มที่ภาพที่สามผนังด้านทิศเหนือด้านล่าง วนมาทางตะวันออกคือข้างประตูทางเข้า
แล้วไปต่อที่ภาพที่สามผนังด้านทิศเหนือด้านบน วนมาด้านประตูทางเข้า

พรหมชายหญิงลงมากินง้วนดินแล้วกลับสวรรค์ไม่ได้ ตั้งเมืองชื่อเมืองอินทะปัตถะ มีลูก 101 คน ต่างออกไปตั้งเมืองในชมพูทวีป - ทวีปที่มีต้นชมพู่
คนสุดท้องให้ครอง เมืองอินทะปัตถะ ชื่อ ตับบอระเมสวน + นางพรหมสังกา > ทัตตะรัตถะ และ วิรุฬหก
ให้วิรุฬหก(น้อง) ครองเมืองอินทะปัตถะ ... ทัตตะรัตถะ ออกไปตั้งเมืองใหม่ชื่อจันทบุรีสีสัตตะนาค
มีพรหมอีกตนมาเกิดไม่ยอมให้แถนปั้นร่าง เกิดมาจึงมีตัวกลมมนเหมือนหินลับมีด มีแขนขาสั้นโผล่ออกมาชื่อว่าลุนลู่ เป็นลูกขุนนาง
พระอินทร์สงสารพาไปปั้นร่างใหม่สุดท้ายได้เบ้าพระอินทร์
มาเกิดเป็นลูกพญาวิรุฬหก เจ้าเมืองอินทะปัตถะ ชื่อ ราพพะนาสวน
ราพพะนาสวน ท้ารบข่มขู่พญาทัตตะรัตถะ-ลุง-จนยอมมอบนางจันทาให้อยู่กินเป็นชายาที่เมืองอินทปัตถะ
พระมารดานางจันทาเสียใจจึงอธิษฐานขอคนมีบุญมาช่วย ได้ลูกคือพระลาม(ตัวเขียว)และพระลัก พระอินทร์ส่งม้ามนีกาบมาให้
พระลามพระลักตามนางจันทากลับมาได้
ราพพะนาสวน ขอขมา มาสู่ขอนางจันทาไปอยู่ด้วย ไปสร้างเมืองใหม่ชื่อเมืองลงกา

ผนังด้านทิศเหนือห้องที่สามจากประตูทางเข้า
ภาพล่าง
ขวา เขียนว่าอินทะปัตถะนคร กษัตริย์ในวังหันหน้าหาบุคคลสองคน
ไม่อยากเดาเพราะอ่านที่เขาเขียนกำกับไว้ไม่ออก
แต่น่าจะเป็นตอนเริ่มต้น
ภาพบน
ขวา เขียนว่ามาชุบตัว - พระอินทร์ชุบตัวให้ราพพะนาสวน
กลาง เข้าในว่าเป็นจุฬามณีเจดีย์ที่บรรจุ พระจุฬา (จุก) กับ พระเมาลี (มวยผม) ซึ่งอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อันเป็นที่ประทับของพระอินทร์
ใต้เจดีย์ รูปตัวเขียวหน้ายักษ์อุ้มหญิงตรงกลาง - ท้าวราพพะนาสวนอุ้มนางจันทาเอามาเป็นมเหสี
ซ้าย
ราพพะนาสวนรบพระลามพระลัก
ภาพล่าง ริมฝั่งแม่น้ำ มีบุคคลใส่ชฎา ชาย หญิง นั่งเรือมีคนพายไป
ภาพกลาง
ขวามีบุคคลรัศมีรอบเศียร อยู่ในปราสาท มีบุคคลหญิง ซ้ายเป็นชายสามคน
ซ้ายเป็นภาพคลอดลูก
เดานะ ท้าวทัตตะรัตถะ + วิสุทธิโสดา > นางจันทา
ภาพบน
ราพพะนาสวนเนรมิต เสือโคร่ง เสือเหลือง ราชสีห์ ปลาสม่อยอานนท์ ปลาบึก ปลาซวย พระลักพระลามและม้ามนีกาบปราบได้หมด
ท้าวราพพะนาสวนขอให้พญานาคมาช่วย - ตายเกลื่อน
ขอพญาครุฑจากปราสาทไม้งิ้วมาช่วย - ตายเกลื่อน ติดเกาะแก่งเกิดลี่ผี
N-2
ภาพล่าง บุคคลใส่ชฎาในเรืออุ้มเด็ก 2 คน
ภาพกลาง
ขวา ท้าวราพพะนาสวนยกกองกำลังมาข่มขู่พญาทัตตะรัตถะผู้เป็นลุง
ซ้าย ให้ยกนางจันทาไปอยู่กินด้วย - อุ้มสาวไปด้วย
ภาพบน
ก็ยังเป็นการสู้กันอย่างดุเดือด ทั้งยักษ์ ตายเกลื่อน สุดท้ายยอมแพ้
ราพพะนาสวนไหว้พระลามพระลัก
ภาพล่าง
พระลักพระลามขี่ม้ามนีกาบไปนำต้วนางจันทากลับมา แต่ไม่ถูกขัดขวางเพราะท้าวราพพะนาสวนหลับไปสามเดือน (พอตื่นก็ย้อนไปภาพ N-2 บน)
ภาพบน
พระลามพระลัก นางจันทา นั่งมาบนผาสาดแก้ว(ปราสาทแก้ว) บนเรือเหาะที่เนรมิตเข้าเมือง
เขามาหดสรงพระลัด พระลาม ให้ครองเมือง - อภิเษก
ต้อนรับอย่างอบอุ่น
ภาพล่างพะลามพะลัก ที่นั่งในปราสาทน่าจะเป็นทางจันทา
ถ้ัดมาเป็นภาพท้าวราพพะนาสวนจัดขบวน ขันคำขันเงินมาขอขมาพะลามพะลักและสู่ขอนางจันทา
ภาพบน สุดในภาพเชียนว่า แห่นางคำซาวกับนางแอกไค้ไปส่งพระลามพระลักแล 
ทั้งสองนางเป็นธิดาเจ้าเมืองขอม ในเรื่องตอนจะจบภาคนางจันทาก็ไปรับมาอยู่ด้วย
จะเห็นภาพคนหาบผู้หญิงสองคน
ภาคหลังเป็นภาคที่นางสีดาคู่ของพะลามท้าวพะลักถูกท้าวราพพะนาสวนจับไป ต่อในกล่องคอมเมนท์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่