เพิ่งซื้อบ้านด้วยกันกับแฟน พอ 2 เดือน ถัดมา แฟนบอกว่าไม่น่ารีบตัดสินใจซื้อบ้านเลย รู้สึกคิดผิด

คบกันมาได้ 2 ปีค่ะ ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่ใจกลางเมือง ไปไหนมาไหนสะดวก ไม่เงียบไม่เหงา แต่มาซื้อบ้านที่ไกลจากตัวเมืองประมาณ 10 กิโลเห็นจะได้ (เหตุผลที่ซื้อบ้านนอกเมือง เพราะราคาถูกว่าในเมือง บ้านก็สวยตรงสเป็ค ทำเลดี รอบๆมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน) แต่วิถีชีวิตก็ค่อนข้างจะเปลี่ยนไป เพราะบ้านที่มาซื้อเป็นทาวน์โฮมโครงการนึง บ้านส่วนใหญ่ปิดไฟเข้านอนเร็ว เลยเงียบๆ ต่างจากเมื่อก่อนตอนอยุ่ในเมือง ดึกดื่นเที่ยงคืนยังสั่งแกร็บ ออกไปข้างนอกก้ยังเห็นผู้คน แสง สี ไม่เงียบเหงาไม่น่ากลัว แรกๆที่มาอยู่บ้านใหม่ก็ผ่านไปด้วยดีไม่มีอะไร พอวันนี้ แฟนบอกว่า รู้สึกว่าคิดผิด รู้สึกว่าตัดสินใจเร็วไปที่มาซื้อบ้านแบบนี้ เขารู้สึก เบื่อ เซ็ง เหงา เพราะเขาเคยอยู่ท่ามกลางกลุ่มเพื่อน เบื่อก็ไปหาเพื่อน มีกิจกรรมให้ทำ เล่นเกมส์ เล่นกีฬา สังสรรค์ มีเพื่อนแวะมาหาบ่อยๆ และเมื่อก่อนไม่ต้องมาเครียดเรื่องรายได้ มีเหลือใช้ไว้กิน เที่ยว ดื่ม แต่ตอนนี้ต้องมานั่งคิดเรื่องเก็บเงินผ่อนบ้าน จำกัดการใช้จ่าย เดินไปมาภายในบริเวณบ้านแค่นั้น  เราได้ฟังก้รู้สึกใจแป้วค่ะ เพราะเราออกจากงานประจำ ออกจากสังคมทำงาน มาช่วยแฟนทำงานที่บ้านด้วยกัน(แฟนขายของออนไลน์) เราเคยรู้สึกเบื่อเหมือนกัน แต่เราไม่อยากพูดกลัวเขาจะเสียใจ พยายามคิดว่าเราเลือกเอง เราต้องอดทน  แต่พอเป็นเขาที่มาพูดแบบนี้ เราก็แอบน้อยใจอยู่เล็กน้อย ว่าเขาคิดถึงใจเราบ้างไหม ถามเราบ้างไหม และการที่มีเราอยู่ข้างๆ ไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้เลยเหรอ

เราก็พูดไม่ออก บอกไม่ถูกค่ะ มันรู้สึกสับสน เพราะคนที่ริเริ่มอยากจะซื้อบ้านก็คือเขา วันนั้นเขาพูดว่า ถ้าได้บ้าน เขาจะลดกิจกรรมกีฬา สังสรรค์ลง ปลูกต้นไม้ เลี้ยงหมา ตั้งใจทำงานอยู่กับบ้าน ได้พักผ่อนมากขึ้น แต่พอได้บ้านจริงๆ วันนี้ความรู้สึกเปลี่ยนไปหมดเหมือนอย่างที่กล่าวมาด้านบน

อยากถามความเห็นทุกๆคน ว่าเราควรจะทำยังไง ควรจะพูดให้กำลังแฟนแบบไหนดี หรือ ใครที่เคยผ่านช่วงเวลานี้มา มีคำแนะนำอะไรให้เราบ้างมั้ยคะ

ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่