ชาวเมือง ‘เจิ้งโจว’ เกือบล้านคน ห้ามออกจากบ้าน Zero-COVID อีกนานแค่ไหนจะยกเลิก

จีนประกาศล็อกดาวน์ ‘เจิ้งโจว’ เมืองที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลเหอหนานและยังเป็นศูนย์กลางการผลิต iPhone ถือเป็นการตอกย้ำจุดยืนของปธน. สี จิ้นผิง กับนโยบายโควิดเป็นศูนย์
ตั้งแต่วันนี้ (17 ต.ค.) ชาวเมืองเจิ้งโจวเกือบ 1 ล้านคนถูกสั่งให้ล็อกดาวน์อยู่แต่ในบ้าน ยกเว้นแค่ในกรณีที่ต้องตรวจโควิด พร้อมสั่งปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
การสั่งล็อกดาวน์เมืองเจิ้งโจวเกิดขึ้นหลังการล็อกดาวน์ในพื้นที่ใกล้เคียงบางแห่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นี่สร้างความประหลาดใจให้กับชาวจีนจำนวนมาก เพราะรัฐบาลจีนเพิ่งประกาศไม่นานมานี้ว่าจะไม่มีการล็อกดาวน์ทั้งเมืองแล้ว
ที่มา : https://www.finnomena.com/the-opportunity/news-update-17-10-2022-2/

ฟังแบบนี้เราในฐานะ คนในวงธุรกิจท่องเที่ยว ลุ้นไม่ไหวแล้วจริงๆ จากความเห็นส่วนตัว เราว่าปี 2567 ประเทศจีนอาจจะเปิดเสรี แต่ก็คงใช้ได้แค่คำว่า "อาจจะ" เพราะที่ผ่านมาเชื่อหรือไม่ว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวของเรายังน้อยมากๆ 

ประเด็นแรก เรื่องของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคนในปีนี้ ดูแล้วก็น่าจะเป็นไปได้อยู่ เพราะล่าสุด ข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็ออกมาบอกว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 ต.ค.65 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวบ้านเราแล้วกว่า 7.56 ล้านคน ส่วนอีกสองเดือนสุดท้ายของปีนี้ ก็คงมากัน​เดือนละ 1.5 ล้านคน  บวกลบคูณหารแล้วทั้งปีนี้ ​นักท่องเที่ยว 10 ล้านคน มาครบตามเป้าหมายแน่ ๆ 
แต่มีประเด็นตามมาที่ต้องคิดอีกคือ นักท่องเที่ยวหลักอย่าง คนจีน ที่เคยช่วยพยุงการท่องเที่ยวเรา จะเข้ามาได้กี่คน เพราะเขายังปิดประเทศกันอยู่เลย และข้อมูลของ ททท. นักท่องเที่ยวที่มา ๆ กันนะ ยังไม่มีคนจีนนะ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนอินเดียและในแถบอาเซียนบ้าง เอเชียใต้บ้าง เอเชียแปซิฟิกบ้าง ​ ซึ่งก็ไม่รู้ว่านักท่องเที่ยวเหล่านี้ จะช้อปปิ้งกันเก่งเหมือนคนจีนมั๊ย 
 
นี่ยังไปเจอข้อมูลของศูนย์วิจัย​ Krungthai COMPASS แบงก์กรุงไทย ยังทำรายงานประเมินว่า แม้การเปิดประเทศในครึ่งหลังของปีจะส่งเสริมให้ไทยสามารถรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี 2565 ได้กว่า 10.2 ล้านคน แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำมากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ในปี 2562 ที่ไทยเคยรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้สูงเกือบ 40 ล้านคน นอกจากนี้ รายได้จากการท่องเที่ยวของปีนี้ ที่คิดกันไว้ว่าจะทำได้ ​ 1.1 ล้านล้านบาท รู้มั๊ยมันมาจากนักท่องเที่ยวไทยเป็นหลักนะ และยังเป็นรายได้ที่ต่ำกว่าปี 2562 ที่เคยทำได้ 2.7 ล้านล้านบาทด้วยซ้ำ เราว่าปีนี้คงจะหวังรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มากระตุ้นการท่องเที่ยวบ้านเราได้ยากอยู่นะ
และอย่างที่บอกไว้ บ้านเรามีนักท่องเที่ยวหลักที่มีจำนวนมาก และช้อปเก่ง จ่ายเก่งอย่างพี่น้องชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ตอนนี้เขายังใช้ Zero-COVID คนที่จะเดินทางออกนอกประเทศได้ ต้องเป็นคนที่ออก​ไป​เพื่อการทำงาน การเรียน การทำธุรกิจเกี่ยวกับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และการรักษาทางการแพทย์เท่านั้น ทำให้เมื่อครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจีนมาบ้านเรา​เฉลี่ยอยู่ที่ 10,000 คนต่อเดือน และเพิ่มเป็น 32,320 คนในเดือน กันยายน​หลังไทยเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ซึ่งยังต่ำกว่าปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเฉลี่ยราว 9.3 แสนคนต่อเดือน  
ทำให้เราคงต้องรอให้ประเทศจีนยกเลิกนโยบายนี้ก่อน เขาก็คงจะกลับมาเที่ยวแต่ถามว่าเมื่อไรนั้นนะหรอ ก็โน้นละมั๊งปี 2567 อันนี้เป็นการประเมินนะ เพราะพี่จีนเราทำอะไรเด็ดขาด แต่อะไรก็ไม่แน่นอนทั้งนั้น​​ ส่วนการท่องเที่ยวของไทยเราถ้าจะฟื้นตัวจริง ๆ น่าจะเป็นปีหน้า ซึ่งต่างชาติที่จะเดินทางมาก่อนใครก็ต้องเป็นนักท่องเที่ยวบ้านใกล้เรือนเคียง ​อย่าง มาเลเซีย อินเดีย สิงคโปร์ 
หลายคนก็อาจจะยังสงสัย ทำไมต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนกันด้วย คนประเทศอื่นก็มีเยอะแยะ คำตอบก็มีชัดเจนจากที่ผ่านมา ก็เพราะชาวจีนมากันทีมากันเป็นหลัก 10 ล้านคน ขึ้นอันดับ 1 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยมากสุด มากันมาก ๆ ไม่พอ ยังใช้จ่ายต่อหัวสูงด้วยถึงคนละ 25,000-50,000 บาท ตัวเลขเมื่อปี 2562 คนจีนมาเที่ยวไทยสร้างรายได้ให้ประเทศเราถึง 5.3 แสนล้านบาทเลยทีเดียว ​คิดเป็นสัดส่วนถึง 28% ของรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเลยนะ
เมื่อพี่น้องชาวจีนแผ่นดินใหญ่ยังไม่กลับมาเที่ยวบ้านเรา เชื่อว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะเข้ามาก็คงยังไม่กลับฟื้นเป็นปกติเหมือนก่อนเกิดโควิดระบาด และรายได้จากการท่องเที่ยวก็คงยังไม่ฟื้นตัวเช่นกัน เรียกได้ว่าภาคการท่องเที่ยวไทยยังคงซึมยาวต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 1-2 ปีเป็นแน่ จนกว่าจีนจะยกเลิกนโยบาย Zero-COVID เปิดประเทศให้คนของเขาออกมาเที่ยวได้ปกติ แม้หลาย ๆ ฝ่ายจะออกมาพยายามหานักท่องเที่ยวจากชาติอื่นมาเสริม แต่ดูแล้วก็ยังห่างไกลกับผลงานในอดีต 
อย่างปีหน้าที่หวังกันว่าจะมีนักท่องเที่ยว 18-20 ล้านคน ก็ดูเป็นตัวเลขที่ทำได้แค่ครึ่งเดียวจากอดีตที่เคยทำสูงถึง 42 ล้านคน แล้วอย่างนี้จะให้รายได้จากการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว ธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งโรงแรม สายการบิน ร้านอาหาร ร้านดิวตี้ฟรี ร้านขายของที่ระลึก มีรายได้เหมือนเดิม มันคงยังไม่เป็นจริงแน่ ไหนจะมีเรื่อง คนไทยไปเที่ยวนอกกันอย่างคึกคัก เพราะอัดอั้นไม่ได้เที่ยวไม่ได้ช้อปปิ้งเมืองนอกกันมานาน คนมีเงินก็หอบเงินไปช้อปปิ้งต่างประเทศกันสนุกสนาน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ยังไงก็ยังคงต้องซึมยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าหลายฝ่ายจะพยายามกันแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายเราก็คงต้องยอมรับความจริง และพยุงธุรกิจของตัวเองให้อยู่รอด รอวันทุกอย่างกลับมาดีเหมือนเดิม อดทนและขอให้ทุกคนมีกำลังใจสู้กันต่อไป  เพื่อนๆคิดว่ายังไงกันบ้าง 
 
 
อ้างอิง
ค่าใช้จ่ายต่อหัวชาวจีน https://www.marketingoops.com/exclusive/insider-exclusive/assess-the-cost-of-chinese-tourists-in-thailand/#:~:text=%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2,25%2C000%20%E2%80%93%2050%2C000%20%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%20%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7
 
 
กรุงไทยคอมพาส
https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=RzU5cHFMZlFTNW89&security=KTB
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่