นาน ๆ ทีจะมีโอกาสมาเข้าพักวิลล่า เราสองคนเลยถือโอกาสมารีวิวให้เพื่อน ๆ ดูกันค่ะว่า วิลล่าหรู ที่นี่ดีงามแค่ไหน และทำไมต้องมา ไปกันเลย

ที่นี่ ชื่อว่า Locanda Villanova Bed & Breakfast ตั้งอยู่ติดริมถนนผ่านศึกกุดคล้า เดินทางง่ายและล้อมรอบไปด้วยภูเขา 

ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวเยอะ ทั้ง ไร่องุ่นกราน-มอนเต้ , พีบีวัลเล่ย์ เขาใหญ่ไวน์เนอรี่ , สวีทแอนด์กรีนฟาร์ม , ภิรมย์คาเฟ่ , ร้านอาหารแดรี่โฮม เป็นต้น

เลี้ยวรถเข้ามา ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ต่างประเทศเลย การตกแต่งของตึกที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมทัสคานี 

วิวภูเขาน้อยใหญ่ และความไพรเวทที่หาได้ยาก

Locanda Villanova Bed & Breakfast จะแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนคอนโดและโซนวิลล่า ซึ่งโซนวิลล่า จะมีเพียง 3 หลังเท่านั้น เราสามารถเลือกเช่าได้ 1 หลัง หรือเหมาทั้ง 3 หลังเลยก็ได้เช่นกัน แต่ละหลังจะมีสไตล์การตกแต่งและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแตกต่างกัน ตามไลฟ์สไตล์ของผู้เข้าพักเลย 

แต่จุดเด่นที่เฟิร์นชอบคือ ความเป็นส่วนตัว นี่แหละ เพราะแต่ละหลังจะมีโซนครัวของตัวเอง 

และพื้นที่ใช้สอยของแต่ละหลังค่อนข้างกว้างขวาง ตัวกำแพงเก็บเสียงได้ดี จึงไม่รบกวนซึ่งกันและกัน

เราเข้าพักบ้านหลังสีเขียว เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Villa Verde ขนาด 338 ตร.ม. มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น ห้องนี้เข้าพักได้สูงสุด 8 คนเลย

และนี่คือ Master Bedroom ที่เราได้นอนในคืนนี้นะคะ

นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นเป็นอ่างอาบน้ำริมระเบียงมุมนี้ ที่ทำให้เราได้ผ่อนคลาย แช่น้ำมองวิวภูเขาเพลิน ๆ ได้ทั้งวัน 

แถมยังมีพื้นที่ให้ได้ยืนรับลมแบบที่ไร้เสียงรบกวน มีความเป็นส่วนตัวสุด ๆ

ส่วนของห้องนั่งเล่นเองก็จะมี Smart TV , ระบบเครื่องเสียง , มุมโซฟานั่งเล่น

และโต๊ะทานข้าว ที่มาพร้อมอุปกรณ์ทำครัวครบเซ็ต

รวมไปถึงกระจกล้อมรอบ ที่ทำให้เรามองเห็นวิวภูเขาด้านนอกได้ เป็นพื้นที่ที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการพักผ่อนของครอบครัวใหญ่หรือกลุ่มเพื่อน

สำหรับอาหารการกิน ก็หมดห่วงไปเลย เพราะเขามีเชฟมาทำอาหารให้ถึงวิลล่า สำหรับใครที่ไม่อยากออกไปทานข้างนอก

เมนูอาหารเย็นจะเป็นชุดเซ็ตบาร์บีคิว 

เสิร์ฟมาพร้อมกับเมนูอาหารทานเล่น อย่าง ยำวุ้นเส้นทะเล สลัด และผลไม้ เสิร์ฟมาในพอชชั่นที่ใหญ่ แบ่งกันทานได้ 4-5 คนเลย

หรือใครหาวัตถุดิบมาเอง ก็สามารถปรุงอาหารเองได้ เพราะห้องครัวแต่ละหลังมีอุปกรณ์ให้ครบเหมือนอยู่บ้านตัวเองเลย

พามาชมวิลล่าอีก 2 หลังกันบ้าง เผื่อเป็นตัวเลือกให้เพื่อน ๆ นะคะ

วิลล่าห้องที่ 2 มีชื่อว่า Villa Arancione ตกแต่งด้วยโทนสีส้ม สามารถเข้าพักได้สูงสุด 8 ท่านเช่นกัน

ความดีงามของหลังนี้ คือ ห้องคาราโอเกะ ที่บอกเลยว่าเสียงดัง จอใหญ่ สะใจมาก

แถมเพลงยังเป็นเพลงอัพเดท มีทั้งเพลงอินเตอร์และเพลงไทยให้เลือก ถูกใจเราสองคนมาก

นอกจากนี้ยังมีห้องประชุมขนาดใหญ่ พร้อมจอไว้ใช้งาน หลังนี้เลยเหมาะกับการทำกิจกรรมของบริษัทเป็นพิเศษ

อีกวิลล่า ชื่อว่า Villa Bianca เป็นวิลล่าสีขาว ที่สามารถเข้าพักได้ถึง 10 คน

วิลล่านี้มีจุดเด่นเป็น เป็นห้องผู้สูงอายุ เหมาะกับการเข้าพักแบบครอบครัว ไม่ต้องกังวลเรื่องเดินขึ้นลงบันได สะดวกสบายมากค่ะ

รวมไปถึงห้องนอนอีก 3 ห้อง ที่มีประตู Connect กันได้

ห้องทานอาหารของวิลล่าหลังนี้ ยังมีประตูเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำได้อีกด้วย

อาหารเช้าจะมีให้เลือกเป็นเซ็ต มี 2 แบบให้เลือก คือ ข้าวต้ม (เลือกได้ว่าจะทานเป็นข้าวต้มทรงเครื่องหรือข้าวต้มกุ๊ย) 

และ American Breakfast ได้ทั้ง Main Dish และ โคลด์คัต แบบจัดเต็ม

รวมไปถึงขนมปัง โยเกิร์ต กาแฟ โอวัลติน มีให้เลือกทานแบบไม่อั้นเลย

นอกจากภายในวิลล่าแล้ว ก็ยังมีพื้นที่ส่วนกลางอย่าง ฟิตเนส และสระว่ายน้ำ ให้บริการค่ะ

สระว่ายน้ำตั้งอยู่ส่วนกลางระหว่าง 3 วิลล่าเลย เข้าพักหลังไหนก็สามารถมาใช้บริการได้

ความดีงามของสระว่ายน้ำคือวิวเขาด้านหลังนี่แหละ อากาศเย็นสบาย

ว่ายเพลิน ๆ หรือจะนั่งเล่นริมสระ ก็ชิลไปอีกแบบค่ะ

ใครกำลังมองหาวิลล่าสวย ๆ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ โดยเฉพาะระบบเสียงและทีวี LED SMART TV 

รองรับทุกกิจกรรม สนุก ๆ เฟิร์นกับหมูแนะนำที่นี่เลยค่ะ

วิวภูเขาล้อมรอบ ได้ใช้เวลาผ่อนคลายแบบใกล้ชิดธรรมชาติไปกับคนที่เรารัก มีความสุขน่าดูเลย

สอบถามข้อมูล จองห้องพักได้ที่ เบอร์โทร 02-789-9989