โดย ณ ปัจจุบัน จากข้อมูลของ ททท. คาดว่าในปี 2023 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนประเทศไทยเป็นจำนวน 18 ล้านคน ซึ่งจะสร้างรายได้ประมาณ 9.7 แสนล้านบาท ส่วนการประมาณการตลาดในประเทศ ททท.คาดว่าจะสร้างรายได้ 7.6 แสนล้านบาท รวมรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งสิ้นประมาณ 1.73 ล้านล้านบาทตลอดทั้งปี
จากข้อมูลดังต้น มันก็ยังน้อยกว่าปี 2019 อยู่ดีเพราะ ปี 2019 ขนาดโควิดมาแล้วช่วงปลายปี นักท่องเที่ยวสะสมในช่วงเดือนมกราคม
– ธันวาคม พ.ศ. 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติสะสมเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยจำนวน 39.79 ล้านคน
สภาวะแบบนี้ไม่ได้ส่งผลดีแน่นอนต่อกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเพราะปัจจัยหลายอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้ส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจท่องเที่ยวอย่างมากมาย
จะขอยกตัวอย่าง ที่คิดออกง่ายๆ
· นทท.จีนยังปิดประเทศ แม่จะมีการเกริ่นออกมาถึงมาตรการการเปิดประเทศ แต่ก็ยังไม่เปิดเสียที อันนี้รอลุ้นกัน
· นทท.จีนเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจท่องเที่ยวไทย เพราะ กล้าซื้อกล้าจ่าย และที่สำคัญยังขนของฝากกลับไปให้เพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้องตามธรรมเนียมเอเชียบ้านเรา
· นักท่องเที่ยวอินเดีย ที่ไทยมีความหวังในตอนนี้ก็ยังมีหน้า ท่องเที่ยวของพวกเขา เพราะฉะนั้นต้องระวังการขาดช่วงของนักนทท.จากอินเดีย ซึ่งเป็นความหวังเล็กๆของเรา
· สงคราม รัสเซีย – ยูเครน เลี่ยงไม่ได้เลยกับปัญหานี้เพราะ รัสเซียถือเป็นนทท.ที่เดินทางเข้าประเทศไทยเราในลำดับต้นๆ ทั้งนี้การเกิดปัญหาสงครามก่อให้เกิด การชะงักของนทท.กลุ่มนี้
· กลุ่มประเทศยุโรป ใช้จ่ายลดลงเนื่องจาก การกังวลเรื่องสงคราม เพราะพูดได้เต็มปากเลยว่า สงคราม รัสเซีย – ยูเครนนั้น ยุโรปกระทบเต็มๆ
การประหยัดเงินไม่ได้ทางท่องเที่ยวไกลๆนั้น มีผลต่อกลุ่มนี้มาก
· ต้นทุนสูงขึ้น อย่างที่เราทราบ สงคราม รัสเซีย – ยูเครน และผลกระทบหลังโควิด19 นั้น ส่งผลให้ต้นทุนต่างๆสูงขึ้นมาก เช่นราคา
น้ำมัน
· ประเทศรอบข้างเราทยอยเปิดท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบเช่นกัน อาทิ ประเทศ ญี่ปุ่น อย่าว่าแต่นักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นเทไปญี่ปุ่นเลย นักท่องเที่ยวไทยก็ไปญี่ปุ่นจนล้นทะลัก เพื่อนเจ้าของกระทู้เพิ่งกับมา ยังแซวกันเลยว่า "เจอแต่คนไทย"
แล้วเพื่อนๆหละ คิดเห็นอย่างไรกับปัจจัยที่เป็นปัญหาต่อธุรกิจท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาแชร์กัน
ปัจจัยที่ทำให้การท่องเที่ยวไม่ฟื้น เพื่อนๆคิดว่ามีอะไรบ้าง?
จากข้อมูลดังต้น มันก็ยังน้อยกว่าปี 2019 อยู่ดีเพราะ ปี 2019 ขนาดโควิดมาแล้วช่วงปลายปี นักท่องเที่ยวสะสมในช่วงเดือนมกราคม
– ธันวาคม พ.ศ. 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติสะสมเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยจำนวน 39.79 ล้านคน
สภาวะแบบนี้ไม่ได้ส่งผลดีแน่นอนต่อกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเพราะปัจจัยหลายอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้ส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจท่องเที่ยวอย่างมากมาย
จะขอยกตัวอย่าง ที่คิดออกง่ายๆ
· นทท.จีนยังปิดประเทศ แม่จะมีการเกริ่นออกมาถึงมาตรการการเปิดประเทศ แต่ก็ยังไม่เปิดเสียที อันนี้รอลุ้นกัน
· นทท.จีนเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจท่องเที่ยวไทย เพราะ กล้าซื้อกล้าจ่าย และที่สำคัญยังขนของฝากกลับไปให้เพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้องตามธรรมเนียมเอเชียบ้านเรา
· นักท่องเที่ยวอินเดีย ที่ไทยมีความหวังในตอนนี้ก็ยังมีหน้า ท่องเที่ยวของพวกเขา เพราะฉะนั้นต้องระวังการขาดช่วงของนักนทท.จากอินเดีย ซึ่งเป็นความหวังเล็กๆของเรา
· สงคราม รัสเซีย – ยูเครน เลี่ยงไม่ได้เลยกับปัญหานี้เพราะ รัสเซียถือเป็นนทท.ที่เดินทางเข้าประเทศไทยเราในลำดับต้นๆ ทั้งนี้การเกิดปัญหาสงครามก่อให้เกิด การชะงักของนทท.กลุ่มนี้
· กลุ่มประเทศยุโรป ใช้จ่ายลดลงเนื่องจาก การกังวลเรื่องสงคราม เพราะพูดได้เต็มปากเลยว่า สงคราม รัสเซีย – ยูเครนนั้น ยุโรปกระทบเต็มๆ
การประหยัดเงินไม่ได้ทางท่องเที่ยวไกลๆนั้น มีผลต่อกลุ่มนี้มาก
· ต้นทุนสูงขึ้น อย่างที่เราทราบ สงคราม รัสเซีย – ยูเครน และผลกระทบหลังโควิด19 นั้น ส่งผลให้ต้นทุนต่างๆสูงขึ้นมาก เช่นราคา
น้ำมัน
· ประเทศรอบข้างเราทยอยเปิดท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบเช่นกัน อาทิ ประเทศ ญี่ปุ่น อย่าว่าแต่นักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นเทไปญี่ปุ่นเลย นักท่องเที่ยวไทยก็ไปญี่ปุ่นจนล้นทะลัก เพื่อนเจ้าของกระทู้เพิ่งกับมา ยังแซวกันเลยว่า "เจอแต่คนไทย"
แล้วเพื่อนๆหละ คิดเห็นอย่างไรกับปัจจัยที่เป็นปัญหาต่อธุรกิจท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาแชร์กัน