สวัสดีค่ะ พอดีว่าเรามีปัญหาเรื่องรอยดำตรงบริเวณหัวเข่า โดยมีสีที่คล้ำแตกต่างจากสีผิวของขา เราเลยตัดสินใจเข้าคลินิคเพื่อที่จะเลเซอร์ลดความคล้ำ เราจ่ายไปหนึ่งคอร์ส เลเซอร์จำนวน 5 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 2 อาทิตย์ เราเริ่มการเลเซอร์ครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนค่ะ ซึ่งการเลเซอร์เราคิดว่ามันช่วยให้สีผิวหายดำขึ้นจริงๆ แต่หลังเลเซอร์ทุกครั้งหมอจะให้ครีมของคลินิคมาทาค่ะ ซึ่งครีมที่หมอให้ใช้ครั้งแรกเรารู้สึกเลยว่ามันมีสารบางอย่างค่ะ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรระหว่าง ปรอท สเตียรอยด์ หรือไฮโดรควิโนน แต่เรามั่นใจค่ะว่ามันมีสารจริงๆเนื่องจากเราเคยหลงไปใช้ครีมทาหน้าที่มีสารมาก่อนเลยจำๆกลิ่นได้ แต่เราก็คิดในแง่ดีค่ะว่า สารพวกนี้ไม่เป็นอันตรายหากใส่ในปริมาณที่เหมาะสมและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ 

หลังจากที่เราทำเลเซอร์ พร้อมทาครีมที่หมอให้ มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆเลยค่ะ สีผิวตรงเข่าใกล้จะขาวใกล้เคียงกับสีผิวขาเลยค่ะ ดีใจมากที่มันจะหาย พอถึงวันที่จบคอร์ส เราตัดสินใจที่จะไม่ต่อคอร์สค่ะ เพราะมันดีขึ้นมากแล้ว ต่อไปจะบำรุงด้วยครีมโลชั่นปกติที่ใช้อยู่แทน ซึ่งหลังจากที่ไม่ได้เลเซอร์ประกอบกับครีมที่หมอให้มาก็หมด เราเริ่มรู้สึกว่าผิวตรงหัวเข่ามันกลับมาดำเหมือนเดิม เราเลยทาโลชั่นที่ใช้ทาตัวทาไปแทน ปรากฎว่าแสบมาก เหมือนผิวจะบางขึ้น ทั้งๆที่โลชั่นเราใช้ทาผิวมาตลอดไม่เคยแพ้ แต่มาแสบกับการทาหัวเข่า หลังจากนั้น หัวเข่ามันกลับดำขึ้นเรื่อยๆเลยค่ะ ดำมากกว่าเก่า ก่อนที่จะไปเลเซอร์อีกค่ะ ตอนนี้เครียดมาก เสียใจ อุตส่าเสียเงินแล้วมันจะดีอยู่แล้วทำไมมาเป็นอย่างนี้ เราสังเกตุค่ะ สีผิวจะดำแบบเป็นปื้นๆ และมีจุดแดงๆเหมือนแพ้จริงๆ 

เราคิดว่าจะลองทักไปปรึกษาหมอที่คลินิคเดิม แต่ตอนนี้รู้สึกแย่กับหมอไปแล้วจริงๆค่ะ กลัวไปคุยแล้วจะให้เราไปต่อคอร์ส ซึ่งจริงๆครีมอาจไม่มีสารอันตรายอะไรเลยก็ได้ หรือมีแต่มันอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมแต่แค่เราซวยเป็นคนที่แพ้เอง เลยไม่อยากจะโทษใครนอกจากตัวเอง รู้อย่างนี้น่าจะเลเซอร์เฉยๆ ไม่ต้องใช้ครีม เรารู้สึกแย่มากค่ะ 

เราเลยจะมาปรึกษาค่ะว่า 
1.ถ้าผิวมันติดสารจริง เราจะแก้ไขยังไง ดูแลผิวตรงนั้นต่อยังไง ให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม
2.เราสั่งครีมลดรอยดำจากแบรนด์ดังแบรนด์หนึ่งมา ซึ่งมั่นใจว่าไม่มีสารอันตรายแน่ๆ แบบนี้เราจะเริ่มใช้ครีมนี้ได้เลยไหมคะ